บทที่ 903 ฝ่าฟันอุปสรรคทีละก้าว
เสิ่นชิงฉือและสาวใช้สองคนพักอยู่ที่เมืองฉางสุ่ยชั่วคราว เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเฟิง หลิ่วหมิง หลี่เซียวหลาน มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงเป่ยตี๋ ส่วนหนิงหู่ยังคงอยู่ที่เมืองฉางสุ่ยเพื่อควบคุมสถานการณ์
ระหว่างทางจากเมืองฉางสุ่ยไปยังเมืองหลวงต้องผ่านอำเภอต่าง ๆ รอบเมืองหลวงหลายแห่ง แต่ทุกที่ที่ผ่านไปสามารถนิยามได้เพียงว่า เสื่อมโทรม
แทบจะไม่เห็นผู้คนบนท้องถนน บนที่รกร้างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยหิมะหนา เห็นศพคนอดตายอยู่บ้าง
อย่าว่าแต่ชาวบ้านธรรมดา แม้แต่รถม้าที่ฉินเฟิงนั่งมาก็ยังเดินทางลำบากเพราะหิมะที่ทับถม ปกติเดินทาง ใช้เวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนก็ถึงเมืองหลวง แต่ครั้งนี้เดินทางมาสองวันกับอีกหนึ่งคืนแล้วก็ยังไม่ถึงเขตเมืองหลวง
หิมะตกหนักนับเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับทุกคน เกือบทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ขุนนาง เจ้าหน้าที่ และประชาชนหลบซ่อนอยู่แต่ในบ้าน ความแตกต่างอยู่ที่ ขุนนางไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน ขณะที่ประชาชนต้องพึ่งพาไขมันใต้ผิวหนังต่อสู้กับฤดูหนาวอันโหดร้ายราวกับวันสิ้นโลก
ภายในรถม้ามีเตาไฟลุกไหม้ อีกทั้งยังมีผ้าห่มหนาคลุมขาจึงอบอุ่นมาก ต่างกับทัศนียภาพภายนอกรถม้าราวกับเป็นคนละโลก
หลี่เซียวหลานเอนกายพิงฉินเฟิง ฉินเฟิงแหวกม่านหน้าต่างมองสภาพแวดล้อมภายนอก อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความหดหู่
“สุดท้ายเป่ยตี๋ที่หมกมุ่นกับสงครามก็ได้ลิ้มรสผลลัพธ์ที่สงครามนำมา”
“หากไม่ได้ทำสงคราม แม้จะเผชิญกับหิมะตกหนักที่เกิดขึ้นเพียงร้อยปีครั้ง ด้วยกำลังของแคว้น เป่ยตี๋ย่อมสามารถรับมือได้ น่าเสียดายจริง ๆ”
“ชาวบ้านนั้นไร้เดียงสา พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าจะมีผู้คนมากมายเพียงใดที่ต้องหลับใหลไปตลอดกาล…”
สัมผัสได้ถึงสายตาของหลี่เซ๊ยวหลานที่มองมา ฉินเฟิงถอนหายใจเบา ๆ
“ผู้รักสงครามย่อมพบจุดจบ ผู้ที่ลืมสงครามย่อมตกอยู่ในอันตราย สงครามเป็นหนทางสุดท้ายของแคว้น เราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามตลอดเวลาเพื่อต้านทานการรุกรานของศัตรูที่แข็งแกร่ง แต่หากทุกคนในแคว้นกลายเป็นทหาร มุ่งเน้นแต่การทำสงคราม เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนก็จะล้าหลัง กระทั่งเสื่อมโทรม จนเกิดภาพเหตุการณ์เช่นนี้”
“เป่ยตี๋ชำนาญในการใช้สงครามเลี้ยงสงคราม เดิมพันชะตาบ้านเมือง แต่คราวนี้พวกเขากลับแพ้เดิมพัน”
“กระนั้น แคว้นต้าเหลียงของเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่น่ายินดีไปกว่ากัน แม้หิมะใหญ่ครั้งนี้จะไม่ได้ปกคลุมทั่วดินแดนของแคว้นต้าเหลียง แต่ตามรายงานที่องครักษ์เสื้อแพรส่งมา แคว้นต้าเหลียงก็กำลังเผชิญกับการทดสอบของฤดูหนาวที่รุนแรงผิดปกติ แม้เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนจะไม่ได้หยุดชะงักโดยสิ้นเชิง แต่ก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ภายใต้บดทดสอบสวรรค์ ทุกชีวิตล้วนเท่าเทียม”
ตอนนี้เดินทางอีกราวครึ่งวันก็จะถึงเขตเมืองหลวงเป่ยตี๋ หากทุกอย่างราบรื่น ก็จะถึงได้ก่อนฟ้ามืด
ทว่าจู่ ๆ รถม้ากลับหยุดลงกะทันหัน
เสียงของหลิ่วหมิงดังมาจากนอกรถม้า
“ท่านโหวฉิน ทหารสอดแนมที่นำหน้าไปก่อนถูกลอบทำร้าย!”
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว สิ่งที่ข้ากังวลเกิดขึ้นจนได้
เรื่องที่ฮ่องเต้เป่ยตี๋เรียกตัวฉินเฟิงเข้าเฝ้าคงแพร่สะพัดไปทั่วราชสำนัก และพรรคเหยี่ยวที่นำโดยหลู่หลีย่อมเข้าใจดีว่า หากฉินเฟิงได้พบฮ่องเต้เป่ยตี๋ย่อมส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพวกเขา การที่หลู่หลีลงมือ ไม่ใช่เรื่องแปลก
ตอนนี้เอว เสียงของหลิ่วหมิงดังขึ้นอีกครั้ง
“ท่านโหวฉิน มีข่าวมาจากด้านหน้าว่า คนกว่าร้อยคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ