บทที่ 904 ฆ่าไปตลอดทาง
บริเวณที่ตั้งด่านมีคนกว่าสองร้อยคน แต่นอกจากจางเฟิงไม่มีใครรู้ว่าเป้าหมายแท้จริงของภารกิจว่าเป็นดักสังหารฉินเฟิง หากคนอื่น ๆ รู้ คนครึ่งหนึ่งคงจะอ้างท้องเสีย และหนีไปกันหมด
ด้วยเหตุนี้ จางเฟิงจึงรักษาความลับอย่างเคร่งครัด เพียงแค่สั่งให้ทุกคนบุกเข้าไปฆ่า ฟันกองทัพที่เคลื่อนมาให้ตายด้วยดาบอย่างไร้ปรานี แม้ภายหลังพวกเขาจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว
จางเฟิงได้รับข่าวตั้งแต่ฉินเฟิงออกจากเมืองฉางสุ่ยแล้ว
ฉินเฟิงพาคนมาเพียงสองร้อยกว่าคน แม้จะเป็นทหารฝีมือดี แต่เมื่อเผชิญกับการซุ่มโจมตีหลายชั้นก็คงถูกสังหารอย่างแน่นอน!
หลู่จู้กั๋วมีคำสั่ง ผู้ใดที่สามารถนำหัวของฉินเฟิงมาได้ จะได้รับรางวัลเป็นเงินหมื่นตำลึง ที่นาร้อยหมู่ รางวัลมหาศาลย่อมมีผู้กล้า เช่นเดียวกับจางเฟิงที่หวังจะรวยด้วยหัวของฉินเฟิง
ตามที่จางเฟิงรู้ ตลอดเส้นทางที่มีด่านตรวจสามแห่ง แต่ละแห่งมีคนราวสองร้อยคน ส่วนสองข้างทางมีทหารซุ่มอยู่นับพันคน ตั้งแต่ฉินเฟิงออกจากเมืองฉางสุ่ยก็มีกองทัพอ้อมไปปิดเส้นทางถอยของเขาแล้ว จางเฟิงเชื่อมั่นว่า วันนี้แม้แต่เทพเซียนก็ช่วยฉินเฟิงไม่ได้!
ตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น
ดวงตาของจางเฟิงเป็นประกาย เขามองไปตามเสียง เห็นกองกำลังเล็ก ๆ กำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“มาแล้ว!”
“ทุกคนตื่นตัวไว้ ใครก็ตามที่มา สังหารทั้งหมด อย่าให้รอดไปแม้แต่คนเดียว!”
ภายใต้คำสั่งของจางเฟิง ทหารกว่าสองร้อยคนจัดขบวนทัพ ทหารแถวหน้ายกโล่ใหญ่ โล่ใหญ่มีขาตั้ง เมื่อปักขาตั้งลงบนพื้นก็กลายเป็นที่กำบังถาวร ทหารที่เหลือซ่อนตัวอยู่หลังโล่ ง้างธนูเล็งกองทหารม้าที่กำลังควบม้ามาอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มยิง
เมื่อระยะห่างยังเหลืออีกสามร้อยก้าว ลูกธนูก็พุ่งไปยังองครักษ์ค่ายเทียนจีราวกับสายฝน
จางเจิ้นไห่ไม่กล้าบุกฝ่าฝนธนู กระตุกบังเหียนอย่างแรง หยุดกองทัพ พร้อมกับออกคำสั่ง “โล่ใหญ่ป้องกันได้แค่ด้านหน้า โจมตีทางปีก!”
ได้ยินคำสั่ง องครักษ์ค่ายเทียนจีที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็แยกออกเป็นสองกลุ่ม วิ่งลงจากถนนเข้าไปในที่รกร้าง อ้อมโจมตีจากปีกซ้ายและขวา แต่ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากและมีข้อได้เปรียบด้านธนู องครักษ์ค่ายเทียนจีจึงไม่กล้าเข้าใกล้โดยไม่ระวัง แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระยะสองร้อยถึงสองร้อยห้าสิบก้าว
แม้จะอยู่ในระยะยิงที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ยากที่จะยิงถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ การยิงโดนคนหรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคชะตา
ส่วนฝ่ายตรงข้ามเกรงก็กลัวม้าศึกขององครักษ์ค่ายเทียนจี ไม่กล้ากระจายกำลังโดยไม่ระวัง ได้แต่ยืนหยัดรักษาด่านอยู่กับที่
ด้วยเหตุนี้ จางเจิ้นไห่รุกคืบเข้าไปในระยะสองร้อยก้าว ลงจากหลังม้า ดึงธนูสำรองออกจากหลังม้า เล็งไปยังค่ายของศัตรู พอปล่อยนิ้ว ลูกธนูก็พุ่งผ่านระยะสองร้อยก้าว ยิงศัตรูบาดเจ็บ
องครักษ์ค่ายเทียนจีที่เหลืออาศัยความคล่องตัวของม้าศึก ลงจากหลังม้าอย่างไม่เกรงกลัว หยิบธนูแล้วยิงศัตรูที่อยู่ห่างออกไปสองร้อยก้าว
ยิงไปไม่กี่รอบ ทหารห้าคนถูกยิงล้ม จางเฟิงกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ “ประหลาดเกินไปแล้ว!”
“ทำไมธนูของเราถึงยิงไม่โดนพวกมัน แต่พวกมันกลับยิงโดนเราได้?”
“พวกเจ้านี่มันอะไรกัน ทำอะไรกันอยู่? ปกติให้พวกเจ้าฝึกยิงธนู พวกเจ้ามัวทำอะไรอยู่ แอบอู้ใช่หรือไม่?!”
รองหัวหน้ายกธนูขึ้น ยิงไปที่จางเจิ้นไห่ซึ่งอยู่ห่างออกไปสองร้อยก้าว ผลลัพธ์ไม่น่าแปลกใจ ลูกธนูเบี่ยงเบนไปสิบกว่าก้าว
รองหัวหน้าหน้าเจื่อน กล่าวเสียงทุ้มว่า “หัวหน้า แม้แต่ข้ายังยิงไม่โดน แล้วคนอื่น ๆ จะทำได้อย่างไร? ระยะทางขนาดนี้ไกลเกินไป!”
รองหัวหน้าเชี่ยวชาญการยิงธนู ด้วยความสามารถของเขา สามารถยิงลูกธนูออกไปในแนวราบได้อย่างสมบูรณ์ ปัจจัยสำคัญสองประการที่ส่งผลต่อการยิงของธนู ประการแรกคือ ก้านธนูต้องตรง ประการที่สอง ลูกธนูต้องอยู่ในสภาพแนวนอนระหว่างการเคลื่อนที่


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ