บทที่ 962 กองทัพพลาธิการเข้าสู่สนามรบ
การตัดการติดต่อระหว่างภายในและภายนอก ตัดน้ำและอาหาร ค่อย ๆ ทำให้ทหารที่ป้องกันอยู่ภายในตายอย่างช้า ๆ
น่าเสียดายที่สถานการณ์สงครามเร่งด่วน วิธีที่ดีที่สุดกลับกลายเป็นวิธีที่ใช้ไม่ได้ การรบคราวนี้เฉินซือเหมือนมัดมือมัดเท้าตัวเองเสียแล้ว
นับตั้งแต่เริ่มโจมตีเมืองผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม ประเมินคร่าว ๆ ตามรายงานจากแนวหน้า ทหารเป่ยตี๋มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตกว่าสองพันคนแล้ว!
สนามรบ? ไม่ใช่ ชัดเจนว่าคือเครื่องบดเนื้อ!
ขณะนั้นเอง จิ่งเผิงวิ่งเข้ามาทั้งตัวเปื้อนเลือด แล้วตะโกนว่า “ท่านแม่ทัพ รีบถอนทัพเร็วเข้า ไม่สามารถบุกโจมตีต่อไปได้อีกแล้ว ความสูญเสียของเราและศัตรูไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน!”
“ทหารของพวกเราบาดเจ็บล้มตายนับร้อย ในขณะที่ทหารฝ่ายศัตรูแทบไม่มีผผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลย”
“ทหารฝ่ายศัตรูติดอาวุธครบมือ พร้อมรับมือกับพวกเรา ทหารของพวกเราสูญเสียไปมากมาย แต่การโจมตีไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง”
เฉินซือเริ่มลังเลว่าจะถอนทัพหรือไม่มานานแล้ว เมื่อจิ่งเผิงกลับมาพูดเช่นนี้ เฉินซือจึงตัดสินใจได้ เขาเร่งสั่งการเสียงต่ำ “ส่งคำสั่งของข้า ถอนทัพ ค่อย ๆ ถอยออกมาเป็นกลุ่ม!”
พอเห็นเฉินซือสั่งการถอนทัพ จิ่งเผิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขารีบส่งทหารทั้งหมดของตนออกไปแจ้งข่าวแก่เหล่าทหารที่ยังคงต่อสู้อยู่โดยเร็วที่สุด
ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามโต๊ะเฉินซือ โยนดาบสงครามที่เปล่งประกายในมือลงบนพื้น ถอดหมวกเกราะออก แล้วโยนทิ้ง หอบหายใจเฮือกใหญ่
“เมืองนี้ ไม่อาจบุกตรง ๆ ได้!”
“ท่านแม่ทัพ เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ หาไม่…”
ไม่ทันที่จิ่งเผิงจะพูดจบ เฉินซือโบกมือ แล้วกล่าวอย่างจนใจว่า “ความยากลำบากของศึกคราวนี้ ข้ารู้ดีแต่แรกแล้ว”
“ทหารป้องกันของศัตรูมีอาวุธยุทโธปกรณ์ดีเยี่ยม ขวัญกำลังใจมั่นคง มีฉินเฟิงคอยบัญชาการ ยิ่งไปกว่านั้นยังสะสมเสบียงไว้มาก รวมถึงมีข้อได้เปรียบจากเครื่องยิงหินและหน้าไม้ยักษ์ การบุกตรง ๆ ล้วนเป็นการหาเรื่องใส่ตัว”
“ประเมินอย่างระมัดระวัง หากต้องการบุกชิงเมืองฉางสุ่ยให้ได้อย่างน้อยต้องสูญเสียทหารหมื่นคน… หรืออาจจะหลายหมื่นคน ไม่ต้องสงสัยเลย นั่นจะเป็นการฆ่าศัตรูพันคน เสียทหารของเราหมื่นคน อย่างไรก็ไม่คุ้มค่า”
“แต่การรบของกองทัพศัตรูทางใต้เป่ยตี๋เรารวดเร็วและรุนแรง หากไม่สามารถยึดเมืองฉางสุ่ยได้ เมื่อเผชิญกับการโจมตีอย่างดุเดือดของกองทัพศัตรูทางใต้ ข้าเกรงว่า…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินซือชะงัก ในใจเต็มไปด้วยความจนปัญญา
เขารู้ดีว่าฉินเฟิงวางแผนมานาน พลังและเจตนาฆ่าที่แท้จริงได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่แล้ว
เฉินซือพอรู้ว่าฉินเฟิงคงทุ่มเงินมหาศาลที่ยากจะจินตนาการได้ลงไปในสงครามฤดูหนาวคราวนี้ อาจถึงขั้นใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีจนหมดเกลี้ยงเพื่อจะทำสงครามฤดูหนาวกลายเป้นสงครามบดขยี้อย่างถึงที่สุด
ไม่ต้องพูดถึงเมืองฉางสุ่ยตรงหน้าที่มั่นคงดุจถังเหล็ก แม้แต่กองทัพใหญ่ที่บุกโจมตีทางใต้ก็ร่ำรวยจนทำให้ผู้คนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กองทัพหลักนับหมื่นคนติดอาวุธด้วยม้าศึกที่เหนือความคาดหมาย ความเร็วในการเคลื่อนพลไม่แพ้แม้แต่กองกำลังทหารม้า
ไร้เหตุผลสิ้นดี!
จิ่งเผิงที่ตั้งใจจะสร้างผลงานและชื่อเสียงต้องพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าเมืองฉางสุ่ย หลังจากสูญเสียกำลังพลไปมากเขาก็ตื่นจากความฝัน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ