เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 968

บทที่ 968 ปากเหล็กกล่าวตรงไปตรงมา

ฉินเฟิงเพิ่งเดินลงจากกำแพงเมืองก็ได้ยินเสียงตะโกนแหลมดังมาจากด้านหน้า พอเงยหน้ามองก็เห็นเสิ่นชิงฉือกับหลี่เซียวหลานกำลังวิ่งมาทางเขา

แย่แล้ว!

ฉินเฟิงใจหายวาบ ถ้าถูกจับได้ต้องถูกลงโทษหนักแน่ เขารับพุ่งตัวเข้าไปในตรอกข้าง ๆ วิ่งวนไปตามตรอกอย่างสุดชีวิตเพื่อกลับไปยังศาลาว่าการอำเภอ

ขณะเดียวกัน ข่าวจากอำเภอฉางสุ่ยส่งถึงเมืองหลวงแคว้นต้าเหลียงแล้ว

ภายในท้องพระโรงที่กำลังประชุมราชการ ฮ่องเต้ต้าเหลียงกำลังตรวจสอบรายงานทางทหารอย่างละเอียด หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ พระองค์ก็ส่งรายงานให้จางซิวเย่ ให้เขานำไปแจกจ่ายให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ได้อ่าน

ผ่านครึ่งก้านธูป ฮ่องเต้ต้าเหลียงจึงถาม น้ำเสียงหนักแน่นว่า “ศึกฤดูหนาวกับเป่ยตี๋ได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่ทราบว่าเหล่าขุนนางที่รักของเจิ้นคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้าง?”

ไม่มีขุนนางกล่าวสิ่งใดสักคน ทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ

ด้วยทุกคนต่างรู้ดี ศึกฤดูหนาวคราวนี้แม้จะอ้างว่าเป็นการยกทัพของแคว้นต้าเหลียง แต่ความจริงเป็นการขยายอาณาเขตของฉินเฟิง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแคว้นต้าเหลียงมากนัก

อีกทั้งตอนนี้ฝ่าบาทกับฉินเฟิงกำลังอยู่ในช่วง ‘หวานชื่น’ ไม่ว่าฉินเฟิงเสนอความคิดใด ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็จะรับมาทั้งหมด ศึกฤดูหนาวคราวนี้ย่อมได้รับการยินยอมจากฮ่องเต้ต้าเหลียงแล้วอย่างแน่นอน

ขณะที่ทุกคนกำลังยอมรับศึกฤดูหนาว เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “กระหม่อมคิดว่า สงครามคราวนี้ให้โทษมากกว่าประโยชน์”

พอได้ยินคำกล่าวนี้ ทุกคนหันมองไปยังต้นเสียง และพวกเขาก็ไม่ผิดคาดว่า คนที่กล้าคัดค้านก็คือเส่าเป่าเฉินเจิ้ง

ในฐานะผู้นำของขุนนางผู้ซื่อตรง เฉินเจิ้งไม่เคยเกรงใจใคร แม้จะรู้ดีว่าตอนนี้ฉินเฟิงมีอำนาจมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายนอกหรือภายในล้วนต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากฉินเฟิง ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ทว่าเฉินเจิ้งก็ยังกล้ายืนฝั่งตรงข้าม

เขาประสานมือคำนับ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นต่อหน้าทุกคนโดยไม่มีท่าทีประหม่าแม้แต่น้อย “กระหม่อมได้อ่านรายงานทางทหารแล้ว จากตัวเลขที่ปรากฏ สงครามฤดูหนาวคราวนี้เหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อแคว้นต้าเหลียงเรา แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนกลับพบว่ามีข้อเสียแฝงอยู่”

“เป่ยตี๋มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ทั้งยังมีกองทัพเข้มแข็ง แม้ตอนนี้จะอ่อนแอ แต่ก็ยังสามารถป้องกันได้อย่างแข็งแกร่ง”

“หากกระหม่อมเป็นขุนนางเป่ยตี๋ กระหม่อมจะคิดหาทุกวิถีทางติดต่อกับตระกูลใหญ่ทางใต้ ร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอก และส่งกองทัพออกไปล่วงหน้า จุดไฟเผ่าบ้านจากภายในจนพังทะลาย”

เฉินเจิ้งไม่สนใจพลพรรคเถาหลิน กล่าวต่อเสียงดัง “ฉินเฟิงอยู่ชายแดนเหนือ แบ่งดินแดนตั้งตนเป็นผู้ปกครอง แม้ในนามจะยังเป็นขุนนางของต้าเหลียง แต่ความจริงกลับเป็นฮ่องเต้ที่มีดินแดนของตนเองแล้ว”

“หากสงครามคราวนี้ลุล่วง ผลประโยชน์เก้าส่วนย่อมตกเป็นของฉินเฟิง มีเพียงหนึ่งส่วนที่จะตกเป็นของต้าเหลียง แต่หากสงครามไม่เป็นผล ความเสี่ยงเก้าส่วนจะตกเป็นของต้าเหลียง ฉินเฟิงเพียงแค่แบกรับความเสี่ยงหนึ่งส่วนเท่านั้น”

“ฉินเฟิงสมควรได้รับฉายาว่าโจรปล้นแผ่นดิน”

ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนเป็นไม่พอใจอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงจุดยืนแท้จริงของฉินเฟิง แม้ฉินเฟิงจะคิดตัดสัมพันธ์ระหว่างต้าเหลียงกับชายแดนเหนือ วาจาเช่นนี้ก็ไม่สมควรกล่าวออกมาอย่างเปิดเผยเด็ดขาด ยิ่งตอนนี้ทั้งราชสำนักไม่ว่าจะบนล่างล้วนมองสีหน้าของฉินเฟิงเป็นหลัก

หากเรื่องนี้ทำให้ฉินเฟิงโกรธ จะไม่เกิดเรื่องใหญ่หรอกหรือ?

ยุคสมัยที่บ้านเมืองสงบสุข ฮ่องเต้ต้าเหลียงชื่นชอบขุนนางปากเหล็กอย่างเฉินเจิ้งนัก เขากล้าตักเตือนตรงไปตรงมา ห่วงใยบ้านเมือง จงรักภักดีอย่างหาได้ยากยิ่ง

บทที่ 968 ปากเหล็กกล่าวตรงไปตรงมา 1

บทที่ 968 ปากเหล็กกล่าวตรงไปตรงมา 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ