บทที่ 980 บุรุษย่อมต้องโหดเหี้ยม
จางเฉาขมวดคิ้วแน่น เขาผุดลุก สะบัดแขนเสื้อยาว แล้วกล่าวสียงต่ำ “การกระทำเลวร้ายเช่นนั้น พวกข้าผู้เป็นขุนนางไม่อาจยอมรับได้เด็ดขาด”
“พวกข้าได้รับพระมหากรุณาจากราชวงศ์จิ่งมาหลายชั่วอายุคนย่อมยินดีจะสละชีพเพื่อแผ่นดิน จะกระทำการทรยศต่อเจ้านายเพื่อแสวงหาความรุ่งเรืองได้อย่างไร?”
เผชิญหน้ากับจางเฉาที่อารมณ์พลุ่งพล่าน ฉินเฟิงเพียงย้อนถามอย่างคมคาย “ในเมื่อเจ้าจงรักภักดีต่อราชวงศ์จิ่ง เหตุใดองค์หญิงอวี้ซูจึงไม่เหมาะสม?”
จางเฉาหัวเราะเยาะ “สตรีจะเป็นผู้ปกครองแคว้นได้อย่างไร?”
ฉินเฟิงพลันหัวเราะตามไปด้วย เขากล่าวว่า “ในสายตาของเจ้าสตรีไร้ความสามารถถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
จางเฉาปัดความนอบน้อมก่อนหน้าทิ้งไปหมดสิ้น เขาโต้แย้งอย่างหนักแน่น “ความจริงก็เป็นเช่นนี้!”
ฉินเฟิงถามอีก “มารดาของเจ้าก็ไร้ประโยชน์เช่นกันหรือ?”
จางเฉาไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะปากคอเราะรายเพียงนี้ ถึงกับกล่าวพาดพิงมารดาของเขา จางเฉาจ้องฉินเฟิงด้วยความโกรธเกรี้ยว หลายครั้งที่อยากจะแย้ง แต่คำพูดมาถึงปากแล้วก็กลืนกลับไป
ฉินเฟิงถามอีก “อย่างไร พอพูดถึงมารดา เจ้าก็พูดไม่ออกแล้วหรือ?”
“หึ ๆ ข้าว่าลำดับอาวุโสหรือความเคารพนบนอบ ฟ้าดิน กษัตริย์ บิดามารดา ครูอาจารย์ ทั้งหมดช่างเสแสร้งสิ้นดี!”
“พวกเจ้ามองสตรีเป็นเพียงวัตถุมานานแล้ว เคารพแต่มารดา แต่ไม่เคารพสตรีอื่น แล้วอวดอ้างว่าตนมีความกตัญญูและคุณธรรม ช่างเป็นเรื่องน่าขันนัก”
“ข้าขอถามเจ้า องค์หญิงมีฐานะสูงส่งกว่าเจ้าหรือไม่? เมื่อเจ้าพบองค์หญิงเจ้าต้องคุกเข่าหรือไม่?”
จางเฉากำหมัดแน่น กล่าวตอบเสียงต่ำ “เป็นเช่นนั้น!”
ฉินเฟิงถามต่อ “แล้วสาวใช้ในบ้านเล่า ต่ำต้อยกว่าเจ้าหรือไม่? คำพูดของเจ้าก็ชี้เป็นชี้ตายพวกนางได้หรือไม่?”
จางเฉายังคงตอบโดยไม่ต้องคิด “เป็นเช่นนั้น!”
ฉินเฟิงหัวเราะเยาะออกมาอีกรอบ ” ฮ่า ๆ เช่นนั้นพวกเจ้าก็เป็นแค่พวกรังแกคนอ่อนแอ เกรงกลัวผู้แข็งแกร่ง เมื่อเจอสตรีที่มีฐานะสูงส่งกว่าก็นอบน้อมบูชา แต่พอเจอสตรีฐานะต่ำต้อยก็โอหังจองหอง”
“ตามความเห็นของข้า สตรีแบกครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าได้ สิ่งที่บุรุษทำได้ สตรีก็ทำได้ ไม่มีความแตกต่าง”
“พวกเจ้าคิดว่าองค์หญิงจิ่งอวี้ซูไม่สมควรสืบทอดบัลลังก์ ไม่สมควรปกครองเป่ยตี๋หรือ? ดีนัก ข้าจะผลักดันนางขึ้นครองบัลลังก์ให้ได้ ให้พวกเจ้าขุนนางหน้าซื่อใจคดที่อวดอ้างตนว่าสูงส่งนักหนาต้องคุกเข่าแทบเท้าองค์หญิงจิ่งอวี้ซู เปล่งเสียงถวายพระพรอายุยืนหมื่นปี”
ฉินเฟิงกล่าววาจาคมกริบ จางเฉาหน้าแดงก่ำ ความจริงแล้วสตรีที่ปกครองในใต้หล้าก็มีไม่น้อย เป่ยตี๋เองก็มีขุนนางหญฺงหลายคน แต่สตรีที่ขึ้นนั่งตำแหน่งผู้ปกครองแคว้นมีเพียงในแคว้นเล็ก ๆ ที่เป็นเมืองขึ้น ไม่ว่าแคว้นต้าเหลียงหรือแคว้นเป่ยตี๋ตั้งแต่โบราณมาไม่เคยมีฮ่องเต้หญิงมาก่อน
เป้าหมายของฉินเฟิงชัดเจนว่าต้องการให้จิ่งอวี้ซูขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงเป่ยตี๋ เมื่อเป็นเช่นนี้จางเฉาก็รู้แล้วว่า การเจรจาไม่มีทางดำเนินต่อได้แล้ว ทว่าถ้าสงครามฤดูหนาวยังดำเนินต่อไป อย่างไรชาวเป่ยตี๋ก็ต้องพ่ายแพ้ ทั้งราชสำนักและประชาชนล้วนรู้ดี
เมื่อพิจารณากำลังพลของฉินเฟิงแน่นอนว่าไม่อาจเทียบเป่ยตี๋ทั้งหมดได้ หากผ่านพ้นฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เป่ยตี๋ย่อมไล่ตีกองทัพฉินเฟิงกลับไปได้ไม่ยากเย็น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ