เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 983

บทที่ 983 กองทัพรบไกลและกองพลพญาอินทรี

‘คุณค่าทางการเมือง’ ของจิ่งเชียนอิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ท้ายที่สุดแล้ว สงครามฤดูหนาวที่อ้างว่าเกิดขึ้นเพราะฉิรนเฟิงถูหลู่หลีลอบสังหาร แก่นแท้ที่สามารถรวมใจผู้คนเป็นหนึ่งเดียวได้คือคำว่า ‘องค์หญิงของอดีตฮ่องเต้’ และคำนี้เองที่เป็นเหตุผลทำให้พรรคสนับสนุนฮ่องเต้นอกอำนาจเติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ

หากเกิดอะไรขึ้นกับจิ่งเชียนอิ่ง สงครามคราวนี้จะสูญเปล่า กลายเป็นการรบไร้เหตุผล แต่ก็ไม่อาจถอยได้ จะไม่มีทางถอนทัพแน่นอน สงครามเพื่อสนับสนุนจิ่งเชียนอิ่งขึ้นเป็นฮ่องเต้เป่ยตี๋จะกลายเป็น ‘การรุกราน’ ถึงตอนนั้น หากไม่สามารถรวมใจผู้คนได้ ฉินเฟิงก็จะกลายเป็นศัตรูของทั้งแคว้นเป่ยตี๋ ชาวเป่ยตี๋จะหาทุกวิถีทางเพื่อแก้แค้นแน่นอน

พลังของคนคนเดียวมีขีดจำกัด เมื่อเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของคนทั้งแคว้น ต่อให้เป็นฉินเฟิงก็ยากจะรับมือได้

จิตใจของผู้คนจึงสำคัญที่สุด เป็นเหตุผลที่ฉินเฟิงออกคำสั่งตั้งแต่เริ่มสงครามฤดูหนาวว่า ห้ามทหารองครักษ์เข้าใกล้หมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ ให้รักษาระยะห่างจากประชาชนเป่ยตี๋

กองพลพญาอินทรีรู้ดีว่ากองทัพรบไกลเป่ยซีมีกำลังรบแข็งแกร่งแต่ก็ยังเสี่ยงโจมตี ชัดเจนว่าพวกเขามาเพราะจิ่งเชียนอิ่ง ไหนจะก่อนหน้านี้ที่กองทหารม้าขนาดเล็กที่เหมือนหน่วยพลีชีพบุกเข้ามาในแนวรบเพื่อจู่โจมจิ่งเชียนอิ่งก็เพียงพอที่จะยืนยันประเด็นนี้ได้

ตอนนี้กองทัพใหญ่เป่ยซีเข้าสู่เมืองเอ้อโจวแล้ว แม้หิมะจะปกคลุมภูเขา แต่สำหรับเป่ยตี๋ ด้านข่าวกรองพวกเขายังคงมีความได้เปรียบในฐานะเจ้าถิ่น

เป่ยตี๋รู้แล้วว่าจิ่งเชียนอิ่งอยู่ในกองทัพรบไกล จึงใช้กลยุทธ์ ‘ปราบโจรจับหัวหน้าโจร’

แม้จิ่งเชียนอิ่งจะกระตือรือร้นอยากเจอฉินเฟิง แต่นางก็เข้าใจถึงความสำคัญของการเป็นองค์หญิงในอดีตฮ่องเต้ดี นางจึงเชื่อฟังการจัดการของสวีโม่อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง อีกทั้งการที่นางได้ติดตามสวีโม่ก็เป็นผลจากการประนีประนอมของหลี่จาง หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ต้องพูดถึงฉินเฟิง แค่หลี่จางเองก็ไม่อาจอธิบายได้

สวีโม่เข้าใจดีถึงการจัดการของหลี่จาง การที่หลี่จางอนุญาตให้จิ่งเชียนอิ่งร่วมเดินทางมากับเขา นอกจากเป็นการประนีประนอมกับจิ่งเชียนอิ่งแล้ว ก็เพื่อให้จิ่งเชียนอิ่งและฉินเฟิงได้รวมตัวกันโดยเร็วที่สุด ถือเรื่องส่วนตัวเป็นรอง รวมกำลังเป็นหลัก

ด้วยการวางกำลังทหารในปัจจุบันของเป่ยตี๋ยากจะต้านทานการโจมตีอย่างดุเดือดของกองทัพรบไกลได้ เร็วที่สุดภายในห้าวันก็จะสามารถบุกเข้าถึงเขตเมืองหลวง มุ่งหน้าไปยังอำเภอฉางสุ่ยได้

น่าเสียดาย แผนการไม่ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ตามข่าวที่องครักษ์เสื้อแพรส่งกลับมา เดิมกองพลพญาอินทรีถูกเรียกกลับเมืองหลวงเพื่อช่วยเหลือฮ่องเต้เป่ยตี๋รักษาอำนาจทางการเมือง แต่ตอนนี้กลับปรากฏตัวที่ทางเหนือของเอ้อโจว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือฮ่องเต้เป่ยตี๋เห็นว่าการรวบรวมใจคนไม่มีความหวังแล้ว เลยเตรียมพร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่าง หรือสอง ฮ่องเต้เป่ยตี๋ใช้กลยุทธ์ลวงข้าศึก แอบติดต่อกับกองพลพญาอินทรีให้สกัดกั้นกองทัพเดินทางไกลเป่ยซีตรงจุดนี้

แต่ไม่ว่าจะข้อใดตอนนี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว

สถานการณ์ของกองทัพรบไกลเป่ยซีกำลังน่าเป็นห่วง ด้านหน้าคือกองทัพใหญ่ของเฉินซือ ปีกขวาคือกองพลพญาอินทรี กองทัพเดิมทางไกลเป่ยซีเสี่ยงค่อการถูกโจมตีจากด้านหน้าและด้านหลัง สวีโม่จึงไม่กล้าบุกต่อไป เขาสั่งให้กองทัพตั้งรับและเฝ้าระวัง แล้วส่งทหารส่งสารไปติดต่อกับแนวหลัง เพื่อเรียกกองกำลังทหารม้าเบามาสนับสนุน

น่าเสียดาย คืนนั้นทหารส่งสารกลับมาด้วยร่างกายโชกเลือด ทหารส่งสารที่ถูกส่งออกไปถูกกองพลพญาอินทรีสกัดฆ่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่น

แต่ถึงข่าวสารจะไม่ได้ถูกส่งออกไป องครักษ์เสื้อแพรที่ทำภารกิจอยู่ใกล้ ๆ ก็จะเอาข่าวที่กองทัพรบไกลเป่ยซีถูกกองพลพญาอินทรีซุ่มโจมตีส่งไปถึงแนวหลัง ประเด็นนี้สวีโม่ไม่ได้กังวลมากนัก

สิ่งที่น่ากังวลจริง ๆ คือสถานการณ์ตอนนี้ เพราะการที่กองพลพญาอินทรีสังหารทหารส่งสารได้อย่างไร้ความเกรงกลัว หมายความว่า กองพลพญาอินทรีซู่มปิดล้อมแล้ว!

สวีโม่ส่งทหารสอดแนมจำนวนมากออกไปสำรวจ และก็เป็นไปตามคาด กองพลพญาอินทรีโอบล้อมอยู่ห่างออกไปราวยี่สิบถึงห้าสิบลี้

บทที่ 983 กองทัพรบไกลและกองพลพญาอินทรี 1

บทที่ 983 กองทัพรบไกลและกองพลพญาอินทรี 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ