บทที่ 984 อินทรีเป่ยตี๋
ห่างจากค่ายทหารยี่สิบลี้ หมายความว่า เพียงสัมผัสกับวงล้อมของกองทัพศัตรู แนวคิดทางยุทธวิธีคือ หลังพิงค่ายทหาร โจมตีรบกวนวงล้อมศัตรูจากภายในอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศัตรูระแวงและไม่กล้ารวมกำลังล้อมโจมตีโดยง่าย
สวีโม่ออกคำสั่งต่อ “กองทหารม้าสองพันคนโจมตีรบกวนวงในของศัตรูในทิศทางตรงกันข้าม!”
กองกำลังทหารม้าเบาสองกองโจมตีซ้ายขวา รบกวนที่จุดไกลที่สุดสองจุดของวงล้อม ด้วยวิธีนี้ศัตรูจะไม่สามารถส่งกำลังไปช่วยเหลือปีกทั้งสองข้างพร้อมกันได้ เพื่อป้องกันไม่ให้วงล้อมเกิดช่องโหว่ หาไม่กองกำลังป้องกันด้านหน้าและด้านหลังจะอ่อนแอ และง่ายต่อการถูกโจมตีหนักจากกองทัพรบไกลเป่ยซี
หลังจากส่งกองทหารม้าออกไปแล้ว สวีโม่นำทหารราบสองพันคน เคลื่อนพลไปทางตะวันออกอย่างมั่นคงเพื่อไปสนับสนุนหัวหน้าหน่วยหน่วยกองโจร
กำลังทหารที่เหลือตั้งค่ายอยู่กับที่ สร้างแนวป้องกัน กลยุทธ์การรบเช่นนี้ไม่ได้ซับซ้อน แต่ผลลัพธ์ชัดเจนมาก
ถ้าแนวรบทางตะวันตกถูกทหารม้าเบาสองพันคนโจมตี ฝ่ายศัตรูย่อมไม่อาจส่งกำลังเสริมไปทางตะวันออกเพื่อปราบปรามกองกำลังทหารม้าสองพันคนได้ ส่วนหัวหน้าหน่วยหน่วยกองโจรที่รุกแนวรบตะวันออก อาศัยทหารม้าเบาก็สามารถต่อสู้กับศัตรูได้ หากศัตรูบุกเข้ามา ทหารราบสองพันคนที่ตามไปด้านหลังก็โจมตีได้!
หมายความว่า ถ้าศัตรูต้องการปราบปรามหัวหน้าหน่วยหน่วยกองโจรก็จำเป็นต้องส่งกองทหารม้าอย่างน้อยสามพันคน แต่กองทหารม้าสามพันคนนี้ก็เสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากทหารราบด้านหลัง หากต้องการชัยชนะ พวกเขาต้องส่งกองทหารม้าห้าถึงหกพันคน รวมกับกองทหารม้าสองพันคนทางตะวันตกก็เป็นเจ็ดถึงแปดพันคน แม้จะเหลือกองทหารม้าเพียงครึ่งหนึ่ง การรักษาวงล้อมก็ไม่อาจแข็งแกร่งดังเดิมได้อีก
ตามการคาดการณ์ของสวีโม่ ศัตรูมีทางเลือกเพียงสองทาง หนึ่งไล่ล่าหัวหน้าหน่วยกองโจรอย่างดุเดือด หรือสอง ใช้กลยุทธ์รบยืดเยื้อ พยายามบั่นทอดกำลังของหัวหน้าหน่วยกองโจรให้มากที่สุด
และก็เป็นตามที่สวีโม่คาดการณ์ ศัตรูไม่มีทางเลือกมากนัก พอหัวหน้าหน่วยกองโจรนำกำลังเข้าประชิด กองพลพญาอินทรีก็ส่งทหารม้าเบาสามพันคนออกมาสกัด
ทว่าผลลัพธ์ภายใต้การสอดส่องของสายลับ ตอนที่ทหารม้ากองพลพญาอินทรีห่างราวสองลี้ หัวหน้าหน่วยกองโจรก็ออกคำสั่งให้แยกกำลังพลเป็นหน่วย ๆ ใช้วิธีการเคลื่อนไหวแบบกลุ่มเล็กที่คล่องตัวถอยร่นไปทางด้านหลัง
กองพลพญาอินทรีล้วนเป็นทหารผ่านศึกร้อยสนามรบย่อมมองออกว่ากองทหารม้าของกองทัพรบไกลกำลังใช้กลยุทธ์ล่อศัตรูถลำลึก พวกเขาจึงไม่ไล่ล่าต่อ แต่ขณะที่หันหัวม้ากลับ ทหารม้ากองโจรของกองทัพรบไกลที่แยกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็บุกเข้ามาจากสี่ทิศ หยุดทิ้งระยะห่างร้อยก้าว คอยโจมตีรบกวนด้วยธนูอย่างต่อเนื่อง
กองพลพญาอินทรีไม่ได้ถูกทำให้สับสนวุ่นวาย พวกเขาโต้กลับ พอยิงลูกธนูกดดัน กองทหารม้าของกองทัพรบไกลเป่ยซีก็อาศัยความได้เปรียบในการเคลื่อนคล่องแคล่วถอยทัพ
แม่ทัพกองพลพญาอินทรีออกคำสั่งให้ใช้วิธีการรบแบบกลุ่มด้วยกองทหารม้าขนาดเล็กเช่นศัตรู แล้วไล่ล่าขึ้นไปข้างหน้า น่าเสียดายที่ทหารราบสองพันคนของเป่ยซีคอยรักษาการณ์อยู่กลางสนามรบ ทำให้พื้นที่ปฏิบัติการของกองทหารม้าขนาดเล็กกองพลพญาอินทรีได้รับผลกระทบหนัก พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้กองทหารราบเป่ยซี ได้แต่ไล่ล่ากองทหารม้าของกองทัพรบไกลอยู่รอบนอก
ส่วนกองทหารม้าของกองทัพรบไกลก็อาศัยทหารราบสองพันคนเป็นที่พึ่ง แล้วโต้กลับอย่างห้าวหาญ หากกองกำลังศัตรูมีมากกว่าพวกเขาล่าถอยไปยังทิศทางที่กองทหารราบตั้งอยู่ แม้กองทหารราบจะมีเพียงสองพันคน แต่ก็เป็นเสมือนตะปูกลางสนามรบ
หากเป็นการโจมตีซึ่งหน้ากองทหารราบเป่ยซีไม่เคยหวั่นเกรงทหารม้าเบา กล่าวได้ว่า หากทหารม้าเบากล้าบุกโจมตีทหารราบเป่ยซีอย่างไม่ระวังก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย
หากกองกำลังทหารม้าเบาต้องการเอาชนะทหารราบ พวกเขาต้องอาศัยกำลังพลด้านหน้าในการกดดันและตรึงกำลัง ขณะเดียวกันก็ต้องให้กองทหารม้าเบารบกวนปีกซ้ายขวา ทำลายขบวนทัพของทหารราบ เมื่อกองทัพทหารราบแตกขบวนนั่นจึงจะชิงข้อได้เปรียบกลับมายังฝั่งทหารม้าเบาได้
แต่บนสนามรบเพียงทหารไม่อาจตัดสิน อาวุธและขวัญกำลังใจต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ