บทที่ 987 ความโหดร้ายของสงคราม
บนสนามรบ ม่มีที่ว่างสำหรับความเห็นใจหรือมารยาททางสังคม จุดประสงค์เดียวคือการเอาชนะ และสังหารฝ่ายตรงข้ามโดยไม่เลือกวิธีการ
องค์หญิงจิ่งฉือผู้เติบโตมาอย่างทะนุถนอมย่อมไม่เข้าใจถึงความโหดร้ายของสงคราม ในสายตาของนาง ผู้ชนะแสดงความเมตตา ผู้แพ้มีชีวิตรอด เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ชีวิตก็สามารถดำเนินต่อไปได้
แต่นางไม่รู้เลย สงครามหมายถึงความตาย หมายถึงความเสื่อมโทรมของทุกสิ่ง
นับตั้งแต่ที่สงครามเริ่มต้น ผืนแผ่นดินจะต้องถูกย้อมด้วยเลือด ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงได้!
การตายของทหารหลายสิบคนเป็นสัญญาณเตือนจิ่งฉือว่า หากนางคิดจะใช้สิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวมาโน้มน้าวเขาก็ล้มเลิกความคิดไปเสีย…
บันไดเชือกไหลถูกทิ้งลงไปตามกำแพงเมือง แล้วองครักษ์ค่ายเทียนจีก็ปีนบันไดเชือกลงจากกำแพง พวกเขาแบ่งของขวัญที่อยู่ด้านหลังจิ่งฉือออกเป็นส่วน แล้วขนกลับเข้าเมือง
เมื่อด้านนอกกำแพงเมืองเหลือเพียงจิ่งฉือกับฉีย่า สองนายบ่าว ฉินเฟิงยังคงไม่สนใจจิ่งฉือที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เพียงเหลือบมองไปที่ฉีย่า
“ฉีย่าขึ้นมาเถิด หลิ่วหมิงจะมาพบเจ้า”
อะไร?! จิ่งฉือชะงักงัน นางหันมองสาวใช้ที่นางไว้ใจที่สุดด้วยความไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องสิ้นหวังเมื่อพบว่าความไว้วางใจของนางถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ปรานี
ฉีย่าก้มหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและรู้สึกผิด แต่นางไม่มีทางเลือกอื่น ตั้งแต่ตอนที่นางติดต่อกับฉินเฟิง นางก็ถูกควบคุมแน่นหนา ไม่มีโอกาสต่อต้านใด ๆ
การติดตามจิ่งฉือมายังฉางสุ่ยคราวนี้ นางย่อมรู้ว่าตัวตนของนางในฐานะสายลับย่อมจะถูกเปิดเผย นางจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายฉินเฟิง และภายในวันนี้นางจะต้องรายงานข่าวสารทั้งหมดที่นางได้รับรู้จากภายนอกให้หลิ่วหมิงรู้อย่างละเอียด วงล้อมที่เป่ยตี๋ใช้กำลังทหารนับพันนับหมื่นสร้างขึ้นรอบฉางสุ่ยจะสูญเปล่าเพราะการมาถึงของนาง
วันนี้นอกจากจิ่งฉือก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่าฉีย่าเป็นสายลับอีกแล้ว ทหารถูกสังหารหมดสิ้น ฉีย่าจะกลายเป็นหนึ่งในหมากสำคัญของฉินเฟิงในการรับรู้ข่าวสารภายนอก!
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณจิ่งฉือ เพราะย่อมไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าสาวใช้ที่องค์หญิงจิ่งฉือไว้วางใจที่สุดจะกลายเป็นคนของฉินเฟิงมานานแล้ว
จิ่งฉือมองฉีย่าที่ค่อย ๆ ปีนบันไดเชือกขึ้นกำแพงเมือง นางสับสนนัก
นางไม่เข้าใจว่าทำไมโลกนี้ถึงได้โหดร้าย แม้แต่นางกำนัลที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก สนิทสนมราวพี่น้องก็ยังทรยศนางโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
จิ่งฉือทรุดตัวลงบนรถม้า น้ำตาไหลไม่หยุด จิตใจดำดิ่ง นับตั้งแต่เกิดมา นางไม่เคยได้เจอเรื่องโหดร้ายขนาดนี้มาก่อน
ฮ่องเต้เป่ยตี๋ผู้เป็นบิดามองนางเป็นเพียงเครื่องสังเวย ฉินเฟิงมองนางเป็นเบี้ยหมากที่สามารถใช้ประโยชน์ได้
องค์หญิงเป่ยตี๋ผู้เป็นที่เทิดทูนของราษฎรกลับต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช
แล้วฉินเฟิงโบกมืออย่างเย็นชาไร้ปรานี องครักษ์ค่ายเทียนจีสองคนจับตัวจิ่งฉือปีนขึ้นบันไดเชือก ตอนนี้นางไม่ต่างอะไรกับจางเฉา กลายเป็นตัวประกันของฉินเฟิงแล้ว
จิ่งฉือยืนบนกำแพงเมือง มองฉีย่าที่ถูกหลิ่วหมิงพาตัวไป แล้วมองไปรอบ ๆ องครักษ์ค่ายเทียนจีมองนางอย่างเฉยเมย ทว่าก็ยังดูดุร้ายน่ากลัว ฉินเฟิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเย็นชาไร้ปรานี ในที่สุดนางก็เข้าใจว่านางกำลังเผชิญหน้ากับคนแบบใด น่าเสียดายที่รู้ช้าไป รู้ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
ฉินเฟิพูดขึ้น น้ำเสียงเย็น “องค์หญิง ที่นี่คือสนามรบ สถานที่ที่เต็มไปด้วยกลอุบายและการต่อสู้เอาชีวิตรอด ตั้งแต่ตอนที่ท่านพบข้าที่เมืองอวี่ ท่านก็ได้เข้าสู่สนามรบแล้ว”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ