บทที่ 994 จิตใจผู้คนปั่นป่วน
ทั้งสองฝ่ายไม่สนใจผู้บาดเจ็บที่ยังนอนอยู่บนพื้น พวกเขาตวัดอาวุธ เคลื่อนเข้าหากันอีกครั้ง
เนื่องจากมีชายฉกรรจ์ไม่มากนักในที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่เป็นคนชรา สตรี และเด็ก แม้จะมีการต่อสู้ ความรุนแรงก็ไม่สูงนัก
เมื่อเผชิญกับความขัดแย้งที่กำลังจะปะทุขึ้น ฉินเฟิงออกคำสั่งหยุดยั้ง
ทหารสองคนวิ่งตรงเข้าไปกลางฝูงชน ยกแหลนในมือขึ้น แล้วตะโกนด้วยเสียงดุดัน สายตาจ้องมองแต่ละฝ่าย
“ทุกคนถอยหลังไป!”
“พวกเจ้าคิดก่อกบฏหรือ!”
“ใครกล้าบุกเข้ามาอีก โทษประหารทันที!”
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีคนมากและมีพลังมหาศาล แต่ทหารเพียงสองคนก็คือทหาร และชาวบ้านก็คือชาวบ้าน เรื่องแรงกดดันนับว่าคนละระดับแล้ว
ยิ่งเมื่อเห็นแหลนที่ทำอย่างประณีตในมือของทหาร ชาวบ้านก็ตระหนักได้ทันทีว่าทหารทั้งสองคนนี้เป็นทหารประจำการณ์ของฉินเฟิง ไม่ใช่ทหารเมืองฉางสุ่ย
สองตระกูลใหญ่ที่เมื่อครู่ยังอารมณ์พลุ่งพล่านพลันสงบลง ต่างพากันถอยหลัง ฉินเฟิงสั่งให้หนิงหู่กับหลิ่วหมิงรอ ส่วนเขาเดินเอามือไพล่หลังเข้าไป ท่าทางสงบนิ่ง
เขาสำรวจฝ่ายตระกูลหวังผ่าน ๆ จากนั้นก็มองไปทางตระกูลโจว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ไม่ได้หรือ ทำไมต้องใช้กำลังด้วย?”
“ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงสงคราม ภายในเมืองประกาศกฎอัยการศึก พวกเจ้ามาจับกลุ่มตีกันแบบนี้ยังเคารพกฎระเบียบอยู่หรือไม่?”
ฉินเฟิงมองไปยังสตรีและเด็ก ๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แล้วกล่าวอย่างหงุดหงิด “กลับบ้านไปให้หมด อย่าออกมาก่อความวุ่นวายอีก!”
สถานที่เกิดเหตุที่เดิมเอะอะวุ่นวายพลันเงียบกริบ ขณะที่ฉินเฟิงคิดว่าเรื่องวุ่นวายจะจบลงแล้ว ชายวัยกลางคนจากตระกูลหวังก็ถามขึ้นมา “เจ้าเป็นผู้ใด?!”
“หรือว่าเจ้าเป็นผู้ดูแลศาลาว่าการอำเภอ เช่นนั้นข้าก็อยากถามเจ้า ท่านโหวฉินมีคำสั่งให้ปฏิบัติต่อชาวเมืองทุกคนอย่างเท่าเทียม แล้วไยถึงเวลาแจกจ่ายเสบียงกลับมีการเลือกปฏิบัติ?”
“ตระกูลหวังของพวกข้าก็มีคนไม่น้อย เหตุใดจึงได้รับเสบียงน้อยกว่า? หรือว่าตระกูลโจวเป็นลูกแท้ ส่วนพวกข้าเป็นลูกเลี้ยงเล่า?”
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามเชิงตำหนิจากชายแซ่หวัง ฉินเฟิงกลับไม่โกรธ เขากำลังเตรียมอธิบายว่าจะกลับไปตรวจสอบเรื่องการแจกจ่ายเสบียงอย่างเข้มงวดแน่นอน
แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก เฒ่าโจวที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยคำประชดประชันออกมาเสียก่อน
“ผู้ใดไม่ได้รัดกางเกงให้เรียบร้อยจนปล่อยเจ้าโผล่ออกมากัน? มาวางท่าใหญ่โตอะไรอยู่ที่นี่?”
“ตอนนี้อำเภอฉางสุ่ยถูกฉินเฟิงเข้าควบคุมแล้ว อยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพ ดูท่าทางอ่อนแอของเจ้า คาดว่าแปดส่วนเจ้าคงเป็นเสมียนศาลาว่าการอำเภอกระมัง?”
“ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าหรอก คนของพวกข้าตระกูลโจวเป็นพลาธิการที่รับผิดชอบการแจกจ่ายเสบียง ได้รับการแต่งตั้งจากฉินเฟิง ถ้าเจ้ารู้จักประสาก็กลบไปยืนอยู่ข้าง ๆ เสีย!”
ได้ยินคำพูดนี้ ความโกรธของหนิงหู่พลุ่งพล่าน กำลังจะพุ่งเข้ามา แต่สายตาฉินเฟิงที่มองมาทำให้เขาต้องระงับอารมณ์แล้วหยุดรอ
ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสำรวจชายชราตระกูลโจวที่เอ่ยวาจาร้ายกาจตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วถามอย่างอดทน “พูดดี ๆ ไม่เป็นหรือไร?”
“ผู้เฒ่า ท่านก็อายุมากแล้ว แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไยถึงได้พูดจาหยาบคายเช่นนี้?”
“อีกอย่าง…ฮึ่ม ฉินเฟิงมอบหมายให้คนท้องถิ่นแจกจ่ายเสบียงเพราะเชื่อใจทุกคน แต่เจ้าถึงกับคิดว่าการเล่นพรรคเล่นพวกเป็นเรื่องธรรมดาหรือ?”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ