จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1239

สรุปบท ตอนที่ 1239: จอมเทพโอสถ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1239 – จอมเทพโอสถ โดย Internet

บท ตอนที่ 1239 ของ จอมเทพโอสถ ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่1239 ดินแดนสัตว์เทวะ

“เจ้าหนุ่มนี่มันสัตว์ประหลาดชนิดใดกัน?”

“ขะ-ข้า…ข้าเหนื่อยเจียนตายแล้ว!”

“ไม่ไหว…ข้าสู้ไม่ไหวแล้ว! ข้าไม่สามารถระดมพลังปราณใดๆในร่างกายได้เลย!”

หลายต่อหลายคนต่างร้องโอดอวนระงมใจไม่หยุด ก่อนหน้าพวกเขาปลดปล่อยทุกกระบวนโจมตีออกมาด้วยพลังทั้งหมดที่มี ทว่านั้นไม่สามารถทำอันตรายใดๆเย่หยวนได้เลยแม้กระทั้งปลายเส้นผม

ในยามนี้สีหน้าการแสดงออกของแต่ละคนล้วนจับจ้องเย่หยวนด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจ

ชายหนุ่มตรงหน้าแกร่งกล้าเกินไป!

เขายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ยังไม่ทันออกอาวุธโจมตีก็ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เหนื่อยจัดแล้ว

นี่เป็นการสัประยุทธ์ที่แสนสิ้นหวังไร้โอกาสนัก

เย่หยวนค่อยๆย่างก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มประดับใบหน้าไม่เสื่อมคลาย

เหล่าอสูรพวกนั้นสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจสุดขีด คล้ายถูกเหยียบหางอย่างแรง

“จะ-จะ-เจ้า…เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าขอเตือนไว้ก่อน…ท่านประมุขน้อยของพวกเราน่าเกรงขามยิ่ง! ทันทีที่เขามาถึง เจ้าตายแน่!”

เย่หยวนยังคงฉีกยิ้มกว้างแจ่มใส ทว่าในสายตาของพวกนั้นกลับน่าสยดสยองประหนึ่งฆาตกรโรคจิต

“ประมุขน้อย? พวกเจ้าสังกัดเผ่าอันใด…เผ่ามังกร? เผ่าวิหกเพลิง? หรือเผ่าพยัคฆ์ขาว? ข้าอยากจะรู้เสียจริงว่า ประมุขน้อยของพวกเจ้าหน้าตาเป็นอย่างไร?”

เย่หยวนทราบมานานแล้วว่า เหล่าอสูรน้อยพวกนี้เป็นสมาชิกเผ่าสัตว์เทวะทั้งสี่

หรือเป็นไปได้ไหมว่า ภายในพื้นที่แห่งนี้ยังมีเผ่าสี่สัตว์เทวะดำรงอยู่?

ความแข็งแกร่งของผู้คนเหล่านี้มิได้สูงนัก เพียงแค่ระดับเก้าขั้นต้นเท่านั้น

ทว่าอายุของพวกเขาก็มิได้แก่เช่นกัน ในบรรดาเผ่าสูร คนเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์

แน่นอนว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขา เหนือชั้นกว่าเผ่าอสูรบนโลกภายนอกอย่างชัดเจน

“ขะ-ข้าจะคอยดู! รอจนกว่าท่านประมุขน้อยของพวกเรามาถึง ยามนั้นเจ้าได้ประจักษ์แจ้งเป็นแน่แท้!”

ในบรรดาพวกเขาโพล่งกล่าวขึ้น

เย่หยวนหัวเราะเล็กน้อยเมื่อได้ยินและกล่าวว่า

“ฮ่าฮ่า ข้าจะรอชม เช่นนั้นข้าขอนั่งพักผ่อนรอประมุขน้อยของพวกเจ้าแถวนี้ก่อน ส่วนพวกเจ้ารีบไปเรียกมาเถอะ”

พวกนั้นคล้ายนักโทษโดนปล่อยตัว ทันทีที่ได้ยินเย่หยวนกล่าวเช่นนั้น ก็เร่งสับเท้าหลบหนีออกไปทันที

“พี่ใหญ่ ที่แห่งนี้แปลกมาก!”

อิ้งหมัวหู่กล่าวขึ้น

เย่หยวนพยักหน้าตอบและกล่าวว่า

“อืม ที่แห่งนี้…ช่างน่าสนใจยิ่งนัก!”

ไม่นานเกินรอ เหล่าอสูรน้อยที่หนีออกไปก็ได้กลับมาหาอีกครั้ง

แต่คราวนี้พวกนั้นกลับมาพร้อมกับพรรคพวกอีกมากมายเป็นโขยงตามกันมา

กลุ่มคนจำนวนมากเข้าปิดล้อมพวกเย่หยวนทันที พร้อมชายหนุ่มคนหนึ่งที่ก้าวแช่มออกมา เขาจับจ้องเย่หยวนด้วยความรังเกียจ อย่างไรก็ตาม ความแกร่งกล้าของชายคนนี้มิได้อ่อนด้อย นั้นเป็นถึงระดับเก้าขั้นสุด

ทว่าความแกร่งกล้าเพียงแค่นี้ ไม่สามารถทำอันตรายอันใดแก่เย่หยวนได้โดยธรรมชาติ

“เจ้ามนุษย์ กล้าล่วงล้ำมายังดินแดนสัตว์เทวะไม่พอ ยังกล้าทำร้ายสมาชิกเผ่าของข้าผู้นี้อีกรึ? เตรียมใจรับโทษรึยัง?”

ชายหนุ่มผู้นี้กลับมิได้แยแสอันใดเย่หยวนเลย ด้วยความแกร่งกร้าวของเขา มีหรือจะไม่สามารถรับมือกับเซียนอาณาจักรราชันย์เทวะทั่วไปด้?

เย่หยวนมิได้ตอบคำถามอีกฝ่าย แต่กล่าวขึ้นด้วยความสนใจยิ่งว่า

“เช่นนี้นี่เอง สถานที่แห่งนี้มีนามว่า ดินแดนสัตว์เทวะ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าไฉนสมาชิกเผ่าสี่สัตว์เทวะถึงมีมากมายเพียงนี้ แต่ข้าสงสัยอย่างมากว่า เผ่าสี่สัตว์เทวะของฝั่งนี้กับเผ่าสี่สัตว์เทวะในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์กันเช่นไร?”

“สามหาว! ท่านประมุขน้อยกำลังตั้งคำถามกับเจ้า! แต่เจ้ากลับกล้าเมินงั้นรึ?!”

ทันใดนั้นมีใครบางคนตะโกนสวนกลับมาทันที

สีหน้าของประมุขน้อยมืดขรึมลงในทันใด

เขาผู้นี้หยิ่งผยองและทะนงตนยิ่งกว่าใครๆ ทว่ามนุษย์เบื้องหน้ากลับหยิ่งยโสยิ่งกว่านัก!

ยามนี้ประมุขน้อยได้ค้นพบเลยว่า เย่หยวนเองก็มิได้สนใจตัวมันเลย!

ในขณะเดียวกัน มีใครบางคนในฝูงชนเกิดผิดสังเกตเข้า ก่อนค่อยๆขยับขยายสายตาเข้าจับจ้องเย่หยวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน

“จะ-จะ-จะ-เจ้า…นั้นเจ้าจริงๆ! ฉะ-ไฉน…ไฉนเจ้าถึงอยู่ที่นี่ได้?!”

คนๆนั้นอุทานขึ้นไม่เป็นภาษาทันที

ประมุขน้อยผู้นั้นขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเผยถึงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนกล่าวเสียงเข้มถามขึ้นว่า

“เจ้ารู้จักมัน?”

ในเวลานั้นทุกคนต่างเผยท่าทางอย่างรู้อยากเห็นออกมาโดยพลัน

สมาชิกเผ่าคนนั้นมีนามว่า หลงเซิง ในหมู่พวกเขาทั้งหมดกลับหาใช่คนโดดเด่นนัก

หากย้อนกลับไป หลงเซิงเคยออกเดินทางไปยังดินแดนลึกลับแห่งหนึ่ง ก่อนกลับมาพร้อมใบหน้าบวมช้ำเสมือนหัวหมู และนั่นได้กลายเป็นเรื่องตลกภายในดินแดนสัตว์เทวะเป็นเวลาพักใหญ่

ทว่ายามนี้พรสวรรค์ที่แฝงซ่อนในตัวเขาก็เริ่มแสดงออกมาบ้างแล้ว และด้วยนิสัยขี้ประจบประมุขน้อยจนเคยตัว จึงทำให้หลงเซิงมีปากมีเสียงไม่น้อยในเผ่า

มนุษย์คนนี้สามารถใช้ฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าได้อย่างไร?!

ทว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่มีเวลาครุ่นคิดมากนัก

มังกรฟ้าทั้งสองเข้าปะทะชนกันอย่างแรง จนเกิดแรงระเบิดขึ้นกลางเวหา กระทั้งมวลอากาศในบริเวณนั้นยังบิดเบี้ยวเสียรูป

แต่ช่างน่าเศร้านัก มังกรฟ้าของมระมุขน้อยกลับถูกบดขยี้แหลกเละอย่างรวดเร็ว

การจะจัดการกับประมุขน้อยผู้นี้ เย่หยวนไม่จำเป็นต้องใช้ชีพจรมังกรระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมาด้วยซ้ำ

เพียงกายทองคำเก้าอรหันต์ และให้ความสนใจกันสักเล็กน้อย สิ่งนี้ก็มิใช่กระบวนโจมตีที่นักสู้ทั่วไปจะสามารถต้านทานไหวแล้ว

เห็นได้ชักว่า ประมุขน้อยผู้นี้ยังคงไร้ซึ่งคุณสมบัติโดยสิ้นเชิง

บูมมมม!!

ร่างของประมุขน้อยถูกซัดกระเด็นออกไป

“เจ้า…เจ้ารู้จักฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าได้อย่างไร?”

เย่หยวนมิได้เจตนาถึงขั้นเข่นฆ่า เพียงทำให้ประมุขน้อยได้รับบาดเจ็บในระดับนึงก็เพียงพอ แต่นั้นกลับสร้างความประหาดใจยิ่งให้แก่ประมุขน้อย จนต้องเอ่ยถามออกมาอย่างอดมิได้

“ก็แค่ฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า มันจะน่าตื่นเต้นอันใดมากมาย?”

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างเฉยเมย

ทุกคนโดยรอบต่างพูดไม่ออกในบัดดล

ก็แค่…งั้นรึ?

บนดินแดนสัตว์เทวะ ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถบ่มเพาะฝึกฝนฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าได้ มีอยู่จำนวนน้อยนิดจนนับนิ้วได้

และประมุขน้อยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

วรยุทธศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้มิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถฝึกฝนได้

ทว่าความสำเร็จของเย่หยวนในเส้นทางนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าเหนือชั้นกว่าประมุขน้อยอยู่หลายขุม

พวกเขาทั้งหมดต่างคิดว่า ที่เย่หยวนกล่าวเช่นนั้นเพียงแสร้งทำเป็นลึกลับเท่านั้น ทว่าความจริงแล้ว เย่หยวนแค่พูดออกไปตามความเป็นจริง

เสียงแห่งจอมเทพมังกร นับว่าล้ำค่ากว่าฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าไม่รู้กี่สิบเท่า

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมียอดวรยุทธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกรอีกมากมายที่เย่หยวนยังคงไม่รู้จักและเข้าใจได้

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าจะตอบคำถามนายน้อยผู้นี้ได้หรือยัง? ข้าแค่ต้องการทราบว่าดินแดนนี้คือที่ไหน?”

เย่หยวนกล่าวถามอย่างเยือกเย็น ทุกคนที่สาดสายตาจับจ้องเขาในปัจจุบันล้วนสั่นกลัวจับไขกระดูก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ