จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1240

ตอนที่1240 สี่ผู้อาวุโสสูงสุดผนึกกำลัง!

เย่หยวนเอ่ยถามทุกคนอย่างเป็นมิตร ทว่าฝ่ายนั้นกลับหวาดกลัวสุดขีดราวกับพวกเขากำลังเผชิญกับพญาเสือ ทุกคนต่างเร่งจับกลุ่มกันแน่นและค่อยๆย่างก้าวถอยกรูกลับไปหลายสิบก้าว

“เจ้า…เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามา!”

หลงเซิงในยามนี้หวาดผวาหนัก เย่หยวนผู้นี้คือเงามืดในจิตใจของเขาตลอดมาจริงๆ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น มันตราตรึงสลักจับใจยิ่ง ไม่ว่าเขาจะพยายามเพียงใด ก็ไม่สามารถลบความกลัวนี้ออกไปได้เลย

แต่เดิมหลงเซิงพยายามคิดในแง่ดีอยู่เสมอว่า เขาในตอนนี้สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่นอน ทว่ากลับไม่คิดไม่ฝัน เงามืดในจิตใจนามเย่หยวนกลับกลายเป็นเซียนไร้เทียมทานไปแล้ว!

บุคคลผู้นี้คือฝันร้ายของเขา!

ฝันร้ายตลอดมาของหลงเซิง!

เมื่อเห็นท่าทางการแสดงออกของพวกนั้น เย่หยวนก็พูดอะไรไม่ออก

เขาเพียงต้องการทราบจริงๆว่า สถานที่แห่งนี้เป็นด้านหลังของป่าแห่งความมืดใช่หรือไม่

แต่พวกเผ่าอสูรเหล่านี้กลับหวาดผวาขวัญกระเจิงจนพูดไม่รู้เรื่องกันไปหมดแล้ว

เย่หยวนมิได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้จริงๆ!

“นี่ เจ้าคือหลงเซิงใช่ไหม? ช่วยบอกข้าทีว่า ดินแดนแห่งนี้คือด้านหลังป่าแห่งความมืดใช่ไหม? เช่นนั้นเราสามารถเดินกลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์โดยผ่านทางดินแดนไร้สิ้นสุดได้?”

เย่หยวนเอ่ยถามอีกครั้งด้วยเสียงนุ่มนวลพร้อมรอยยิ้มแสนเป็นมิตร

ทว่าทันทีที่เย่หยวนก้าวย่างออกไป พวกนั้นกลับตกใจยิ่งกว่ากระต่ายตื่นตูมจนสะดุ้งโหย่งสะดุดก้อนกรวดก้นคะมำลงกับพื้น ทุกคนทนแรงกดดันที่มีต่อเย่หยวนไม่ไหวอีกต่อไป พร้อมเร่งเตลิดหนีไปอย่างหัวซุกหัวซุน

“เอ่อ…ข้าน่ากลัวตรงไหน? นายน้อยผู้นี้ยังไม่ทำอะไรเลย?”

เย่หยวนยกมือเท้าเอวเล็กน้อยพลางเอ่ยขึ้นด้วยความฉงนงุนงง

อิ้งหมัวหัวกลั้นขำไม่ไหวอีกต่อไป ก่อนระเบิดหัวเราะยกใหญ่และกล่าวว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไอ้เจ้าพวกนี้ช่างขี้ขลาดยิ่งกว่าอะไร! เสียชื่อเผ่าสี่สัตว์เทวะยิ่งนัก!”

ลี่เอ๋อยิ้มและกล่าวว่า

“พี่ใหญ่หยวน ท่านยังไม่ทันโจมตีอันใด พวกนั้นก็กลัวขึ้นสมองแล้ว เพราะการที่ประมุขน้อยของพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรท่านได้เลย มันแสดงให้เห็นถึงบรรทัดฐานที่ห่างชั้นจนชัดเจนเกินไป จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะกลัวกันขนาดนี้ แต่เป็นเช่นนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อไปดี?”

เย่หยวนกล่าวอย่างไร้ประโยชน์ว่า

“ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้กำลังจริงๆ”

เมื่อกล่าวจบ พลันถอนหายใจเฉือกใหญ่ ร่างของเย่หยวนอันตรธานหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที

ในขณะเดียวกัน ประมุขน้อยที่เพิ่งคลานขึ้นจากพื้นดินก็กำลังเตรียมสับฝีเท้ารีบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่จู่ๆพลันมีจิตสังหารสุดน่าสะพรึงหอบใหญ่เข้ากักขังเขาไว้

ประมุขน้อยเสียวสันหลังวาบยันปลายหนังศีรษะ ประหนึ่งว่ายามนี้ เขาได้เห็นยมบาลยืนกวักมือเรียกอยู่ตรงหน้าแล้ว

โดยไม่ลังเลอีกต่อไป ประมุขน้อยเร่งพลังปราณเต็มสูบสู่สองเท้าเตรียมสับตีนแตก เขาต้องการจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้

“วิ่งต่อคือตาย!”

วาจาสุดเย็นยะเยือกของเย่หยวนประดุจแผดดังขึ้นจากใต้พิภพบาดาล เล่นเอาทุกความคิดในห้วงสมองของประมุขน้อยแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

ส่วนพวกลิ่วล้อที่เหลือเย่หยวนหาได้ใส่ใจไม่ จึงปล่อยให้หนีไปตามอิสระเสรี

เสียงฝีเท้าของประมุขน้อยหยุดลงกะทันหัน ก่อนพบว่าชายหนุ่มก่อนหน้าได้ยินดักหน้าเขาไว้แล้ว

ในมุมมองของเย่หยวน ประมุขน้อยคนนี้อาจเป็นตัวหมากสำคัญในอนาคต

……………………

“ทะ-ทะ-ท่าน…ท่านผู้อาวุโสสูงสุด! แย่แล้ว!”

ทุกคนเร่งหนีเตลิดกลับเผ่าพร้อมส่งเสียงดังลั่นไม่หยุดหย่อน

“จะตะโกนเสียงดังจนฟ้าถล่มลงมาเลยใช่ไหม!”

ผู้อาวุโสสูงสุด,หลงหยานกล่าวขึ้นพร้อมท่าทีปราศจากความสุข

ได้ยินผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวประชดเจือตำหนิเช่นนี้ ทุกคนถึงกับปิดปากเงียบในบัดดล

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด เกิดเรื่องแล้ว! มี…มีมนุษย์บุกเข้ามาในดินแดนสัตว์เทวะ! แถมยัง… แถมยัง…”

เวลานี้เป็นหลงเซิงที่ใจกล้าเปิดปากกล่าวขึ้น ก่อนจะชะงักลังเลเงียบไปเฉยๆ

สีหน้าการแสดงออกของหลงหยานยิ่งทมิฬมืดหนัก เป็นเวลาไม่รู้เนินนานเท่าใดที่มีเผ่ามนุษย์กล้ารุกล้ำมายังดินแดนสัตว์เทวะแห่งนี้

“แถมยังอะไร!”

หลงหยานกล่าวจี้ติดตามทันที

“แถมอีกฝ่ายยังจับประมุขน้อยเป็นตัวประกันไว้ด้วย!”

หลงเซิงกล่าวขึ้นอย่างรวนเร

เพราะประมุขน้อยผู้นี้เป็นหลานแท้ๆของหลงหยาน

พอได้ยินแบบนั้น เพลิงโทสะในใจหลงหยานพลันปะทุเดือดดาลขึ้นทันใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ