จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1262

ตอนที่ 1262 ทะลวงสู่พลังระดับเก้าขั้นสมบูรณ์!

“พี่ใหญ่ นี่แปลกเกินไป! มิใช่ว่าที่นี่คือเขตพระเจ้าต้องห้ามหรอกรึ? ไฉนเราถึงไม่พบเจอภัยอันตรายใดๆอีกเลยหลังพวกเราออกจากลุ่มแม่น้ำมรณะ?”

หลังจากเหตุการณ์ในลุ่มแม่น้ำมรณะที่รอดตายออกมาอย่างหวุดหวิด นี่ก็ผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้ว

อิ้งหมัวหู่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เดินทางมาตั้งไกลแต่ไฉนถึงเงียบสงบผิดปกติตลอดทางที่มา!

แรงคุกคามหรือรางสังหรณ์อันน่าสะพรึงเหล่านั้นที่ปรากฏยามแรกเท้าย่างเข้าในเขตพระเจ้าต้องห้าม ทั้งหมดกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ความแตกต่างดั่งฟ้ากับเหวชนิดนี้ชวนทำเอาผู้คนใจหายใจคว่ำ

แม้เย่หยวนจะตระหนักดีว่าโอกาสรอดชีวิตออกมามีน้อยแสนน้อย แต่ลึกๆแล้ว เขาก็ยังมั่นใจในตัวเองว่าต้องรอดให้จงได้

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับง่ายเกินไป!

ทั้งสี่เกือบลืมไปแล้วว่ากำลังเดินทางอยู่ในเขตพระเจ้าต้องห้ามที่สุดแสนอันตราย บางครั้งถึงขั้นชมพฤกษาทัศนียภาพโดยรอบเล่น

เขตพระเจ้าต้องห้ามที่ได้ชื่อว่า สุสานของเหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้า มันเงียบสงบและปลอดภัยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

“หรือเป็นไปได้ไหมว่า พายุที่ก่อเกิดจากไข่มุกสยบวิญญาณในตอนนั้นจะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด! สิ่งมีชีวิตภายในเขตพระเจ้าต้องห้ามอาจหวาดกลัวในไข่มุกสยบวิญญาณยิ่ง นี่จึงเป็นเหตุให้พวกมันหนีกันไปหมดแล้ว?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเงียบๆ

แต่อิ้งหมัวหู่กล่าวตอบพร้อมท่าทางสุดภาคภูมิใจว่า

“พี่ใหญ่อย่าลืมไปเสีย ทั้งหมดเป็นเพราะข้าที่นำพาท่านให้มาเจอกับไข่มุกสยบวิญญาณในปีนั้น ฮ่าฮ่า ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า มันกลับกลายเป็นของวิเศษที่แสนน่าอัศจรรย์! นี่เขตพระเจ้าต้องห้ามหรือเดินเล่นอยู่ในสวนหลังตำหนัก?”

เย่หยวนยิ้มและกล่าวตอบว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า ความสามารถในการค้นหาสมบัติของเจ้ายังคงยืนหนึ่งในใจข้า! กระนั้นเอง…ข้ารู้สึกได้ว่าสรรพสิ่งที่เห็นกลับไม่ง่ายอย่างที่เห็นเลย! ข้ายังจำได้ว่า พฤกษาวิญญาณมรณะเองก็กล่าวถึง ‘ดินแดนพฤกษานิรันดร์’ ซึ่งก่อนหน้านี้ข่านนั่วเองก็เรียกดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ว่า‘ดินแดนพฤกษานิรันดร์’เช่นกัน นอกจากนี้กวนควานเทียนเองก็เคยกล่าวเล่าว่า ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์กับไข่มุกสยบวิญญาณเป็นมิใช่ของวิเศษของดินแดนแห่งนี้ แต่เป็นของวิเศษจากต่างแดน! แม้กระทั้งท่านเซียนเต๋าสวรรค์เองก็ยังไม่ทราบถึงต้นกำเนิด! ดูเหมือนว่า…นอกเหนือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีดินแดนที่พวกเราไม่เคยรู้จักอยู่อีกด้วย!”

ใจสั่นระรัวเต้นแรง ลี่เอ๋อกล่าวขึ้นอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่า

“พี่ใหญ่หยวน หรือเป็นไปได้ไหมว่า…เหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าอพยพไปยังดินแดนอื่นที่ว่านั้น?”

เย่หยวนหันมองลี่เอ๋อด้วยสายตาแปลกๆ เขากล่าวตอบพร้อมพยักหน้าว่า

“อาจเป็นอย่างที่เจ้ากล่าว! บางทีพวกเขาเหล่านั้นอาจรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ศาสตร์แห่งสวรรค์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กำลังจะสูญสิ้น พวกเขาจึงแอบจัดตั้งภาคีขึ้นมาเพื่อคิดค้นวิธีข้ามไปมิติเปิดทางสู่ดินแดนอื่น!”

ยิ่งเย่หยวนพูดมากเท่าไหร่ แต่ละคนก็ยิ่งตื่นตกใจมากขึ้นเท่านั้น!

หากเป็นอย่างที่สันนิฐานไปจริงๆ ทุกอย่างก็สามารถอธิบายได้ในทันที!

แม้พวกเขาเหล่านั้นจะกลายไปเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าแล้วก็ตาม  แต่ยามใดที่สูญสิ้นศาสตร์แห่งสวรรค์ไป พวกเขาจะถูกระงับพลังเหลือแค่อาณาจักรเต๋าลึกล้ำในทันที แล้วแบบนี้มีหรือที่พวกเขาจะเต็มใจอยู่ต่อไปในอนาคต?

ถึงความเข้าใจของพวกเขาจะรุกล้ำไปไกลโข ทว่าระดับเพียงอาณาจักรกึ่งพระเจ้ากลับไม่นับเป็นอันใด

แต่เดิมพวกเซียนเหล่านี้มีศักดิ์เหนือมวลมนุษย์ หากต้องตกลงมาปะปนกับมนุษย์ ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่พวกเขาจะทนไหว

นอกจากนี้เอง ดินแดนอื่นๆอาจเป็นดินแดนระดับที่สูงกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นั้นหมายความว่า พวกเขาจะมีโอกาสไต่ขึ้นสู่อาณาจักรพลังที่สูงขึ้นไปอีกได้

สุดท้ายนี้ เย่หยวนก็ได้สัมผัสกับความลับที่คลุมเคลือบด้วยฝุ่นหนากว่าแสนปี!

“ดินแดนพฤกษานิรันดร์! ดินแดนพฤกษานิรันดร์! ไฉนถึงต้องเรียกว่า ดินแดนพฤกษานิรันดร์! แล้วทำไมศาสตร์แห่งศวรรค์จึงหายไป? เหอะ เหอะ… เหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าคงคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นๆ ถึงว่าตัวเองเป็นพระเจ้าแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจ!”

เย่หยวนกล่าวเย้ยดยาะไม่หยุดปาก พลางดูถูกหยามเหยียดเหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าว่าเห็นแก่ตัว

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าพวกนี้จะไม่ใส่ใจภัยอันตรายของเผ่าปีศาจเลยแม้สักนิด!

ทั้งๆที่เผ่าปีศาจเตรียมจ้องฆ่าล้างสรรพสิ่งบนผืนพิภพมาโดยตลอด ทว่าเหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าพวกนี้กลับเลือกที่จะจากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองใดๆ! และไม่แม้แต่จะออกปากเตือน!

เย่หยวนรังเกียจคนประเภทนี้เป็นอย่างที่สุด

“หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกนั้นก็เป็นได้แค่ขยะกลุ่มหนึ่ง! ทิ้งภาระความรับผิดชอบทั้งหมดไว้ให้แก่ชนรุ่นหลังโดยไม่บอกกล่าวอันใดแม้สักนิดหรือกระทั้งทางออก ชีวิตนับล้านล้านบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างได้รับความเดือดร้อนจากเผ่าปีศาจบัดซบ!”

อิ้งหมัวหู่กล่าวขึ้นอย่างขุ่นเคือง

ลี่เอ๋อถอนหายใจเสียงยาวไม่หยุดหย่อน นางกล่าวว่า

“บนผืนพิภพแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มากคุณธรรมเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบ ท่านเซียนเต๋าสวรรค์, ท่านอาวุโสฟางเทียน และพี่ใหญ่หยวน เหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้ามองผู้คนด้อยค่าดั่งผักปลา แล้วมีหรือจะมาใส่ใจ? ไม่ว่ากี่ล้านชีวิต สำหรับพวกมันคงไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของพวกมันแค่หนึ่งเดียว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ