หลุมดำอวกาศ!
ในตอนที่เย่หยวนยังเป็นแค่เซียนอาณาจักรราชันย์เทวะ สามเทพอสูรที่ผนึกกำลังโจมตีเข้าใส่ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเขาได้
ยิ่ง ณ ตอนนี้ที่ขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าไปแล้ว คงมีแต่สรวงสวรรค์ที่ทรงทราบว่า พลังการป้องกันของเย่หยวนทรงพลังขึ้นไม่รู้กี่เท่าทวี!
แต่ถึงแบบนั้น เย่หยวนก็ไม่สามารถทนต่อกระแสพายุกลางห้วงอวกาศได้เลย มีเกลียวคลื่นพลังสุดเกรียวกราดเข้าฉีกกระชากตัวเขาจากทั่วทุกทิศอย่างบ้าคลั่ง
พลังปราณเทวะของเขาถูกใช้จ่ายออกไปไม่หยุดหย่อน รวมไปถึงความทนทานทางกายภาพที่ลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว
ด้วยอัตราเช่นนี้ เพียงไม่นานเย่หยวนจะหมดแรงในท้ายที่สุดและถูกห้วงอวกาศนี้กลืนกินไปตลอดกาล
“เฮ้อ! เจ้าหนู ข้าก็บอกไปแล้วว่าอย่ามา แต่เจ้าก็ยังดื้อรั้นที่จะมาให้ได้! ตอนนี้ เจ้าเชื่อรึยังว่า ข้ากับคุนหวูมิได้หลอกเจ้า?”
ภายในทะเลแห่งจิตใจ เสียงของหวูเฉินดังก้องออกมา
เย่หยวนที่กำลังใช้จ่ายพละกำลังทางกายภาพและพลังปราณอย่างหนัก มีหรือจะซ่อนเร้นจากสายตาของเขาได้?
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่เย่หยวนก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
หนทางข้างยังต้องเดินต่อไป แต่หากไม่ไหวเสียตั้งแต่ตอนนี้ สิ่งเดียวที่รออยู่คือความตาย
เย่หยวนคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า
“หากท่านอาวุโสมีเวลามาหัวเราะเยาะข้าแล้ว เช่นนั้นโปรดช่วยคิดหาทางแก้ไข!”
“เหอะ ห้วงอวกาศนี้ เจ้าได้แต่พึ่งพาตัวเองเท่านั้น กระทั่งข้ายังไม่สามารถช่วยตัวเองได้ แล้วจะไปช่วยเจ้าได้อย่างไร?”
หวูเฉินกล่าว
เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์และกัดฟันเสียงดังกรอด อดทนก้าวเดินต่อไป
มีหลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องพยายามหลบเลี่ยงจากเศษซากดินแดนอวกาศที่พุ่งผ่านเข้าใส่ ทั้งยังต้องประคองปราการเหล็กกล้าที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่นี้ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ในทีแรก เย่หยวนเดินทางไปได้อย่างรวดเร็วยิ่ง
แต่ไม่ช้า เขาก็เริ่มช้าลงเรื่อยๆจนแทบก้าวย่างไปไม่ออกแล้ว
แม้วิธีเช่นนี้จะสามารถความทรมานให้แก่เย่หยวนอย่างมาก ทว่าเขาก็ยังคงรักษาความเสถียรของปราการป้องกันนี้ได้
เมื่อสำเร็จเคล็ดสมบัติศักดิ์สิทธิ์กายาเต่าดำถึงศาสตร์แห่งสวรรค์ขั้นแรก พลังป้องกันของเย่หยวนจะแข็งแกร่งเทียบเทียมได้กับเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นปลาย!
ยามสำแดงใช้ร่วมกับเขตแดนจักรพรรดิแห่งดาบ พลังป้องกันของเย่หยวนกลับมิได้อ่อนด้อยไปกว่าเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดเลย!
ดังนั้นเย่หยวนยังพอมีทุนรอนให้มั่นใจอยู่บ้าง
วันเวลาไหลผ่านไปอย่างแช่มช้า หวูเฉินที่เฝ้ามองเย่หยวนอยู่ในไข่มุกสยบวิญญาณ ยิ่งนานเข้าเขาก็ยิ่งประหลาดใจอย่างยิ่งต่อความมุ่งมั่นของเย่หยวน
หากยึดถือตามเวลาของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่หยวนเดินทางอยู่ในห้วงอวกาศนี้มายาวนานกว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนเต็มแล้ว!
หากกล่าวกันตามหลักเหตุและผล สภาพร่างกายของเย่หยวนควรมาถึงขีดจำกัดนานแล้ว
ทว่าตัวเขาที่พึ่งพาความมุ่งมั่นและความอดทน จึงสามารถประคองสถานการณ์ได้นานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเต็ม
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปราศจากโอสถระดับศักดิ์สิทธิ์นานแล้ว เย่หยวนไม่มีแม้แต่สูตรโอสถศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถระดับศักดิ์สิทธิ์ไว้ใช้ได้เลย
ต่อให้เป็นโอสถระดับเก้าชั้นสูงสุดขั้นลี้ลับ มันก็ไม่มีผลต่อเย่หยวนในปัจจุบันอีกต่อไป
หากมิได้รับการสนับสนุนจากโอสถ เย่หยวนก็ทำได้แค่พึ่งพาพละกำลังของตนเองเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เย่หยวนที่เป็นนักหลอมโอสถนับว่าเป็นข้อได้เปรียบ
การควบคุมอารมณ์ของเขาค่อนข้างเสถียรเป็นอย่างมาก ซึ่งนี่ส่งผลให้เขตแดนจักรพรรดิแห่งดาบยังคงมั่นคงไม่เสื่อมคลายออก
ตอนนี้เขาใช้เพียงเศษเสี้ยวพลังปราณเทวะก็สามารถหล่อเลี้ยงเขตแดนจักรพรรดิแห่งดาบได้แล้ว ไม่เหมือนก่อนหน้าที่มันจำต้องบริโภคพลังปราณเทวะเป็นจำนวนมหาศาล!
มนุษย์จะสามารถปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงได้ในยามวิกฤติถึงขีดสุด
ในระยะเจ็ดวันที่ผ่านมานี้ ความสามารถในการควบคุมพลังปราณเทวะของเย่หยวนค่อนข้างพัฒนาขึ้นจนเห็นได้ชัด
มาถึงจุดนี้ หวูเฉินก็อดประหลาดใจมิได้อย่างลับๆ
เว้นเสียว่า เย่หยวนยังเพิ่งเดินทางไปได้ไม่ถึงหนึ่งจากสิบส่วนเลย แต่นั้นกลับใช้เวลายาวนานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน
ตามที่หวูเฉินคำนวณเอาไว้ หากเย่หยวนเดินทางด้วยความเร็วเพียงแค่นี้ เขาจำต้องใช้เวลานานถึงสองเดือนกว่า!
นอกจากนี้ ยิ่งเดินทางไปได้ไกลเท่าใด กระแสะพายุในห้วงอวกาศก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่พละกำลังของเย่หยวนลดลงต่อเนื่องเรื่อยๆ
ดังนั้นแล้ว แม้ว่าเย่หยวนจะสามารถทนได้ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ทว่าคุนหวูกลับมิได้มองเย่หยวนในแง่ที่ดีขึ้นเลย
ในเวลาเพียงเจ็ดวัน พลังปราณเทวะในร่างกายเย่หยวนเหื่อดแห้งไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...