จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1307

ไปให้ขายขี้หน้า?

“ผู้อาวุโสเฟิง เป็นอย่างไรบ้าง?”

ภายในห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสของหอมหาสมบัติ เย่หยวนกำลังเอ่ยปากถามไถ่เฟิงปิงที่กำลังจับชีพจรของเหลียงหวางหรูด้วยความกังวลใจยิ่ง

เฟยปิงผู้นี้เป็นหัวหน้านักหลอมโอสถของหอมหาสมบัติ ภายใต้คำขอร้องจากผู้จัดการซู เขาจึงเดินทางมาหาเพื่อวินิจฉัยอาการของเหลียงหวางหรู

ถึงเย่หยวนจะขึ้นชื่อว่าเป็น จอมเทพโอสถ แต่เขาก็ทำได้เพียงหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ส่วนเรื่องอาการของเหลียงหวางหรู เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เฟิงปิงส่ายศีรษะเล็กน้อยพลางถอนหายใจกล่าวตอบว่า

“ร่างกายของแม่นางหวางหรูเป็นเพียงมนุษย์ แต่พิษที่นางได้รับกลับเป็นถึงพิษระดับศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นนางจะทนความทรมานขนาดนี้ได้อย่างไร? คุณสมบัติของพิษชนิดนี้จะค่อยๆกัดกร่อนร่างกายอย่างช้าๆ และจะแล่นเข้าสู่หัวใจในท้ายที่สุด!”

เย่หยวนถึงกับหน้าเสียทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ณ ปัจจุบันเขาไร้ซึ่งพลังปราณเทวะใดๆในร่างกาย และไม่สามารถช่วยเหลือเหลียงหวางหรูใดๆได้เลย

แต่ในฐานะที่เป็นนักหลอมโอสถเหมือนกัน เย่หยวนย่อมทราบดีถึงความหมายที่ว่า หากพิษแล่นเข้าหัวใจได้ ผลลัพธ์ต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร

ไม่ว่าพิษจะอ่อนเพียงใด แต่หากปล่อยไว้จนแล่นเข้าสู่หัวใจได้สำเร็จ ยามนั้นแม้แต่จักรพรรดิหยกยังหมดปัญญาช่วยเหลือ!

“ผู้อาวุโสเฟิง หรือเป็นไปได้ไหมว่าจะไร้หนทางช่วยจริงๆ?”

เฟิงปิงส่ายหัวอีกครั้งและกล่าวตอบอย่างขมขื่นว่า

“หากต้องการกำจัดพิษนี้ออกไป จำต้องใช้โอสถล้างพิษหนึ่งดาวขั้นเทวะเข้าพิฆาตเท่านั้น! แต่ในเมืองกุยฉางแห่งนี้ กลับไม่มีใครสามารถหลอมกลั่นโอสถล้างพิษหนึ่งดาวขั้นเทวะได้เลย!”

โอสถล้างขั้นเทวะ เปรียบเสมือนพระเจ้าเหนือสรรพชีวิต มีตัวตนแต่มิอาจย่างสัมผัสถถึงได้!

ลืมไปเลยสำหรับเหล่านักหลอมโอสถในเมืองกุยฉาง ต่อให้เป็นจอมเทพโอสถสองดาวจากที่อื่นก็ไม่มีทางหลอมกลั่นได้เลยเช่นกัน

ขึ้นชื่อว่าโอนถขั้นเทวะ ไม่เพียงจำเป็นต้องฝีมือความสามารถอันแกร่งกล้า แต่ยังพึ่งพาโชคชะตาอันท้าทายสวรรค์ถึงจึงจะประสบความสำเร็จ

ผู้จัดการซูถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขากล่าวว่า

“ข้าเองก็รู้จักเด็กสาวนางนี้ นางเป็นคนน่ารักจิตใจเปี่ยมเมตตา เห้ออ…กระทั่งข้าเองยังคาดไม่ถึง เสืออย่างเหยีงหมิงอี้กลับกินลูกของมันลงจริงๆ ช่างไร้จิตสำนักโดยแท้!”

ผู้อาวุโสเฟิงเผยสีหน้าท่าทีสุดหยามเหยียดเมื่อได้ฟัง เขากล่าวขึ้นเสริมว่า

“เหลียงหมิงอี้ไร้ยางอายเกินเยียวยา! หากย้อนกลับไป เพื่อตีสนิทชิดเชื้อกับตระกูลหวัง เขาขึ้นขั้นยอมแต่งงานกับหวังเพียนหลาน ในขณะที่ปล่อยให้ศพของภรรยาเก่านอนนิ่งอยู่แบบนั้น หาได้สนใจทำพิธีอันใดอยู่นาน เรื่องนี้กลายมาเป็นหัวข้อสนทนาอยู่พักใหญ่ จนบัดนี้กลายเป็นเรื่องตลกเลื่องชื่อภายในเมืองกุยฉางไปแล้ว”

จู่ๆราวกับว่าผู้จัดการซูอยากจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา แต่ก็กลืนคำพูดเหล่านั้นกลับลงคอทันทีอย่างลับๆ แต่นั้นดันไปสะดุดตาเย่หยวนเข้าอย่างจัง

“ผู้จัดการซู ท่านพอจะมีหนทางช่วยเหลือหวางหรูได้บ้างหรือไม่?”

เย่หยวนรีบกล่าวถาม

เฟิงปิงได้ยินแบบนั้น พลันหันมองไปที่ผู้จัดการซูก่อนกล่าวว่า

“อย่าหวังเลย แผนนี้ข้าว่าไม่ได้ผล”

ผู้จัดการซูถอนหายใจเสียงยาวกล่าวขึ้นว่า

“ถูกต้อง เย่หยวน,ข้าเองก็คิดว่าแผนการนี้ไม่น่าจะได้ผล อย่าให้กล่าวเสียดี เช่นนั้นอาจเป็นการหาปัญหาใส่ตัวเจ้าเปล่าๆ”

สีหน้าฉงนใจหนัก เย่หยวนเอ่ยถามต่อทันที

“ผู้จัดการซูโปรดบอกผู้เยาว์มาเถิด แม่นางหวางหรูเป็นผู้มีบุญคุณ เย่คนนี้มิอาจทนดูอยู่เฉยๆได้!”

เฟิงปิงยิ้มและกล่าวว่า

“เรื่องนี้มิได้สำคัญที่ว่าเจ้าจะทำได้หรือไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่าฝ่ายนั้นจะยอมช่วยจริงๆรึเปล่า”

เย่หยวนกวสดตามองทั้งสองสลับไปมาอย่างงุนงง ผู้จัดการซูถอนหายใจอีกระลอกใหญ่พลางกล่าวว่า

“พิษที่แม่นางหวางหรูได้รับไปคือ พิษขนวิหคพันราตรี เป็นไพ่ตายลับของตระกูลหวัง ซึ่งพิษตัวนี้ ตราบใดที่ยังไม่แล่นเข้าสู่หัวใจ หวังหลินโปของตระกูลหลังสามารถรักษาให้หายได้!”

“เพียงแต่ว่า…หวังหลินโปเป็นพี่ชายแท้ๆของหวังเพียนหลาน!”

หัวคิ้วเย่หยวนขมวดถักแน่นแทบชนกัน ความหมายความเฟิงปิงและผู้จัดการซูค่อนข้างชัดเจนแจ่มแจ้ง

นี่คือยาพิษลับของตระกูลหวัง จึงมีเพียงคนของตระกูลหวังเท่านั้นที่สามารถรักษาได้

ซึ่งคนที่รักษาได้ก็คือ พี่ชายของหวังเพียนหลาน!

หรือเย่หยวนต้องไปขอร้องอ้อนวอนตระกูลหวังให้ช่วยจริงๆ?

ครั้งนี้ เย่หยวนบุกตรงไปยังตระกูลเหลียงเพื่อลักพาตัวคุณหนูตระกูลออกมา ส่วนผู้อาวุโสสองกับเหลียวหมิงอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยหลัวเจีย นี่นับเป็นหายนะของตระกูลเหลียงก็กล่าวไม่ผิด

ด้วยความแค้นในคราวนี้ผนวกกับสันดานนิสัยอันโหดเหี้ยมของหวังเพียนหลานแล้ว มีหรือที่นางจะยอมให้พี่ชายของนางช่วยถอนพิษให้เหลียงหวางหรู?

เย่หยวนสูดไอเย็นเข้าลึกๆแช่มช้า กล่าวถามเฟิงปิงขึ้นว่า

“ผู้อาวุโสเฟิง แม่นางหวางหรูอยู่ได้อีกนานเพียงใด?”

เฟิงปิงครุ่นคิดไปชั่วขณะ ก่อนให้คำตอบว่า

“พูดยากนัก น่าจะ…ไม่เกินพรุ่งนี้!”

สีหน้าเย่หยวนตกลงในทันใด เขาเอ่ยปากถามอีกครั้งว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ