ตอนที่ 1321 – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ
ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1321 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่1321 ต่อให้ใช้ชีวิตแลกชีวิตก็ยอมเสี่ยง
ณ ตำหนักตระกูลหวัง สีหน้าของหวังหลินโปในขณะนี้ดำมืดประดุจเมฆดำ
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ผู้อาวุโสสี่ที่ถึงขั้นเคลื่อนไหวเป็นการส่วนตัวจะประสบความล้มเหลวในการลอบสังหารเย่หยวน!
สำหรับความแกร่งกล้าของผู้อาวุโสสี่ ตัวเขาชัดแจ้งดีกว่าใครๆ
แม้หลัวเจียจะเป็นที่รู้จักในนาม ยอมดาบอันดับหนึ่งแห่งหอมหาสมบัติ ทว่าต่อหน้าผู้อาวุโสสี่คนนี้ กลับไม่มีคุณสมบัติมากพอจะกล่าวถึง
แต่กระนั้นเอง ผู้อาวุโสสี่กลับทำพลาดไปแล้วจริงๆ!
ยามพบตัวแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยทั้งสองหนีไปง่ายๆแน่นอน แต่ถึงขั้นที่ว่าผู้อาวุโสสี่ต้องติดต่อกลับมายังตระกูลเพื่อขอกำลังเสริม นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้ง ทั้งสองฝ่ายเคยปะทะกันมาแล้วแน่นอน!
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ สองคนนั้นสามารถต่อกรจนประวิงเวลาหนีไปได้!
ข้อสันนิฐานนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะหากไม่ลงเอยเช่นนั้น คนอย่างผู้อาวุโสสี่ไม่มีทางเอ่ยปากของความช่วยเหลือจากตระกูลแน่นอน
แต่สิ่งหนึ่งที่หวังหลินโปไม่สามารถเข้าใจได้เลยก็คือ มองข้ามหลัวเจียคนนั้นไป ตัวแปรสำคัญควรจะเป็นเย่หยวน อย่างไรก็ตาม…เย่หยวนมีทุนรอนอันใดถึงสามารถสร้างปัญหาให้แก่ผู้อาวุโสสี่ได้ขนาดนั้น?
“หลินโป เจ้าเรียกพวกข้ามามีเรื่องอันใด?”
ผู้อาวุโสชราอีกสองคนย่างกรายเข้ามาในตำหนัก และนั้นเป็นใครอื่นไปมิได้นอกจาก ผู้อาวุโสสอง,หวังอวีเต๋า กับ ผู้อาวุโสสาม,หวังอวีมิน
ทั้งสองต่างเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดเช่นกัน แต่ความแกร่งกล้านับว่าเหนือชั้นกว่าหวังอวีกั่นอยู่หนึ่งขุม
พลางได้ยินแบบนั้น หวังหลินโปเร่งเอ่ยปากเล่าเรื่องเย่หยวนให้ฟังอย่างร้อนใจ
“ท่านลุง หากเราปล่อยเด็กนั้นให้ลอยนวลไป คงเป็นเรื่องยากยิ่งหลังจากนี้ที่ตระกูลหวังจะผงาดขึ้นมาได้อีกในเมืองกุยฉาง! ท่านลุงต้องเร่งตักไฟตั้งแต่ต้นลม จัดการปัญหาให้หมดสิ้นภายในสุสานสายลมหยินนั้น!”
หวังหลินโปเผยสีหน้ากระวนกระวายใจ กล่าวขึ้นเสียงเคร่งขรึม
เมื่อได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดจากปากหวังหลินโป หวังอวีเต๋าสีหน้าทมิฬมืดลงเล็กน้อยและกล่าวว่า
“แม้เมืองกุยฉางจะอยู่ในอาณาเขตปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์ฟู่เฟย แต่ชื่อเสียงของจักรพรรดิเทพสวรรค์มหาสมบัติเองก็เลื่องลือไม่แพ้กัน เราควรปราบปรามหอมหาสมบัติอย่างให้เกินพอดี เราเองอย่าล้ำเส้นให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โต แต่เด็กหนุ่มแซ่เย่นั้นเองก็มิควรมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นกัน! เวลานี้คือโอกาสดีที่สุดแล้วที่จะลอบสังหารมิให้ข่าวกระจายออกไป!”
หวังหลินโปเร่งพยักหน้าเห็นงามและกล่าวว่า
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น! หากเด็กนั้นกลับถึงเมืองกุยฉางหรือหยางรุยรู้เรื่องนี้เสียก่อน ยามนั้นพวกเราจะไม่มีโอกาสเคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไป!”
หวังอวีเต๋าเหลียวข้างกล่าวกับชายชราอีกคนทันที
“เฒ่าสาม เร่งออกเดินทางตามไปสมทบโดยไว สหายน้อยคนนี้นับเป็นตัวปัญหาใหญ่ของตระกูลหวัง!”
“ไปกันเถอะพี่สอง!”
หวังอวีมินหาได้คัดค้านใดและพยักหน้ากระชับเร่งมือ
………………..
“เฮ้ออ… ท่านยังไม่ตายใช่ไหม? ลุกขึ้นให้ข้าดูทีว่าท่านยังไม่ตายจริงๆ!”
เมื่อหลัวเจียลืมตาขึ้นฟื้นสติอย่างช้าๆ เย่หยวนที่เห็นดังนั้นพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก
ก่อนหน้านี้ที่อีกฝ่ายกำลังประสบอาการเจียนตาย เย่หยวนต้องระเห็จอุ้มร่างของหลัวเจียหนีไปให้ไกลที่สุด
ยามนี้พอเห็นว่าหลัวเจียพ้นขีดอันตรายแล้ว นั้นจึงเป็นเหตุว่าทำไมเย่หยวนถึงกล่าวเสียดสีออกมา
ปัจจุบัน วันเวลาเลยผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มแล้ว นับตั้งแต่เดินทางออกจากเมือง
เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของหลัวเจีย เย่หยวนต้องนำจ่ายเป็นราคาจำนวนมหาศาล
โอสถฟื้นฟูขั้นเทวะที่เขาหลอมกลั่นเตรียมไว้ หมดลงไปมากเช่นกัน
ประสิทธิภาพของโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งชั้นต่ำ ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่นักต่ออาการบาดเจ็บของหลัวเจีย
ดังนั้น เย่หยวนจำต้องใช้จำนวนเข้าว่าเพื่อทดแทนในส่วนนี้
โชคยังดีที่ทั้งตัวเย่หยวนเปรียบเสมือนคลังโอสถเคลื่อนที่อยู่แล้ว แถมทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นโอสถขั้นเทวะ นั้นจึงทำให้หลัวเจียรอดพ้นจากความตายมาได้
หากเป็นคนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสปานนี้ คงเตรียมตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หลัวเจียกัดฟันข่มความเจ็บ บังคับร่างตนเองให้ลุกขึ้นนั่ง เขาจับจ้องเย่หยวนด้วยความประหลาดใจยิ่งและกล่าวว่า
“เจ้าเป็นคนช่วยข้าไว้?”
เย่หยวนกล่าวตอยอย่างยิ้มแย้มกลับไป
“ที่แห่งนี้ยังมีคนอื่นอีกรึ?”
“แต่ข้าบาดเจ็บสาหัส…”
หลัวเจียประจักษ์ทราบดีถึงความรุนแรงของบาดแผลที่ตนได้รับ ยามที่เขาปลดปล่อยกระบวนไพ่ตายออกมาปะทะกับหวังอวีกั่น เขาก็ดตรียมใจตายไว้แล้ว
แต่นั้นก็แลกมากับหวังอวีกั่นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ต่าง เขาต้องการซื้อเวลาเพื่อให้เย่หยวนหลบหนีออกไป นั้นคือทั้งหมดที่เขาจำความได้
เย่หยวนโบกมือปัดพลางกล่าวติดตลกว่า
“ระหว่างข้ากับท่านก็หาใช่สายสัมพันธ์ตื้นเขิน คงเป็นไปได้ที่ข้าปล่อยให้ท่านสิ้นตายตายไปเฉยๆ?”
หลัวเจียกล่าวขึ้นว่า
“ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านประมุขหอครั้งใหญ่หลวง เขากำชับเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องเจ้าให้ปลอดภัย ต่อให้ต้องใช้ชีวิตแลกชีวิต ข้าก็เต็มใจยอมเสี่ยง! อย่างน้อยก็คงตอบแทนเขาได้บ้าง!”
เย่หยวนเค้นเสียงหัวเราะเบาๆพลางกล่าวว่า
“นี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?”
เย่หยวนมองผ่านอ่านสีหน้าของหลัวเจียออกอย่างแม่นยำ ยามนี้จึงเอ่ยถามเรียกสติ
หลัวเจียได้สติขึ้นทันใด แต่ก๋ยังกล่าวถามด้วยความสงสัยว่า
“แต่ลูกมังกรของเราถูกหวังอวีกั่นฆ่าทิ้งหมดแล้ว เช่นนี้จะเดินทางยังไงต่อ?”
เย่หยวนกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มว่า
“ง่ายมาก ท่านรอข้าอยู่ตรงนี้ชั่วครู่หนึ่ง เดี๋ยวข้ากลับมา!”
เพียงร่างสั่นกระตุกเล็กน้อย เย่หยวนเคลื่อนตัวหายไปอย่างรวดเร็วจนลับสายตาหลัวเจียไป
ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา หลัวเจียที่เผลอหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ยามนี้สะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าควบตรงเข้ามาจากระยะไกล
พินิจจากกลิ่นอายนั้นต้องเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ผิดเพี้ยน!
หลัวเจียสัมผัสได้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเหล่าอสูรมากมายเร้นซ่อนแฝงกาย ย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏกายขึ้นเฉกเช่นยามนี้
เว้นเสียแต่ สภาพ ณ ปัจจุบันของเขากลับเลวร้ายเกินกว่าจะไปต่อกรกับอสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้
หลัวเจียเร่งคิดหาหนทางหนีโดยไว แต่ขณะที่กำลังพยายามพยุงร่างขึ้นวิ่ง เขาก็พบว่าบนร่างอสูรศักดิ์สิทธิ์ตนหนึ่งมีใครบางคนกำลังขี่อยู่จริงๆ!
เย่หยวน!
ชายผู้นี้สามารถฝึกอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้เชื่องได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม!
หลัวเจียเบิกตาโพล่งกว้างแทบถลนออกมา เขาคาดไม่ถึงเลยว่า มันจะเป็นเรื่องง่ายอย่างที่เย่หยวนกล่าวไว้จริงๆ!
อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ตรงเข้ามาใกล้มีทั้งหมดสองตัว ซึ่งพวกมันคือเสือดาวเมฆลมกรด อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเร็วอันโดดเด่นยืนหนึ่ง
ซึ่งหนึ่งในนั้น ยังเป็นเสือดาวเมฆลมกรดตัวเดียวกับที่ปิดล้อมเย่หยวนเอาไว้ในตอนนั้น
ทันทีทันใด หลัวเจียพลันนึกไปถึงเรื่องราวที่ตระกูลเหลียงและตระกูลหวังเคยกล่าวกับเย่หยวน วิชาควบคุมอสูร!
แต่ภายหลัง เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าวิชานั้นไม่มีจริง หลังจากที่เย่หยวนปลดปล่อยแรงกดดันของเผ่ามังกรออกมา
แต่ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า สายเลือดมังกรที่ไหลเวียนอยู่ในกายเย่หยวนหาใช่สายเลือดมังกรทั่วไป!
ยามนี้หลัวเจียตระหนักได้ว่า เบื้องหลังของชายหนุ่มนามว่าเย่หยวนเก็บซ่อนความลึกลับไว้ลึกเกินไป!
“หุหุ เอาเข้าจริง พวกเจ้าตัวนี้ยังสะดวกเสียยิ่งกว่าลูกมังกรที่นำออกมาในทีแรกอีก!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นพลางหัวเราะแช่มเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...