จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1327

ตอนที่1327 ถ้ำราชันย์แห่งภูต

“พี่ใหญ่ พวกเราทั้งหมดขอร่วมพนัน แต่นี่ยังมีอันใดให้ลุ้นอีก? เด็กนั้นไม่มีทางออกมาได้อยู่แล้ว”

น้องเจ็ดกล่าวขึ้น

“ถูกต้องเลย วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่หรือไม่? ไฉนท่านไม่เป็นตัวเองเลย!”

น้องสามเอ่ยกระตุ้น

เหล่าน้องทั้งหกเหลือบมองเฝ้าสังเกตการณ์เป็นระยะ ฉางเหลียนที่เห็นแบบนั้นพลันกล่าวเสียงเย็นพร้อมรอยยิ้มว่า

“เพิ่งผ่านไปครึ่งวัน พวกเจ้ากลับรอไม่ไหวแล้ว?”

“พี่ใหญ่ นี่พวกเรายังช่วยรักษาน้ำใจท่านอยู่!”

น้องเจ็ดกล่าว

ฉางเหลียนคลี่ยิ้มเอ่ยปากกล่าว

“อย่าพึงรักษาน้ำใจข้าเลย! พวกเราพี่น้องร่วมสายเลือดกันมา ไยต้องสุภาพกันอีก? ในเมื่อเริ่มพนันกันแล้วก็ต้องไปให้สุด!”

ทว่าขณะนั้นเอง สุ้มเสียงหนึ่งพลันแผดดังข้างหูดั่งผีกระซิบ

“พวกท่านพนันอะไรกัน?”

ทั้งเจ็ดเหลียวมองต้นเสียงกันแทบไม่ทัน ใบหน้าปกประดับความตะลึงสุดขีด

คนที่กล่าวดังขึ้นกลับคือ เย่หยวน!

“จะ-จะ-เจ้า…เจ้าออกมาได้อย่าง? ไม่เดี๋ยวก่อน…ไฉนถึงออกมาได้?”

คล้ายลิ้นอ่อนแรงกะทันหัน น้องเจ็ดตะลึงจนแทบยืนตรงไม่ได้

ที่เหลืออีกหกคนต่างมีสีหน้าไม่ต่างกัน ขยับขยายพินิจจับจ้องเย่หยวนสำรวจดูว่า นี่ผีหรือคน?

อึดใจต่อมา พวกเขาค้นพบว่า สภาพเย่หยวนยังคงดูดีไร้รอยขีดข่วนใดๆ ประหนึ่งว่าภายในถ้ำนรกม่วงไม่มีวิญญาณชั่วอยู่เลย

ภาพฉากนี้ กระทั่งฉางเหลียนยังอ้าปากค้างขากรรไกรแทบร่วงเช่นกัน

สัญชาตญาณของเขาบอกว่า เย่หยวนคนนี้หาใช่เด็กธรรมดาทั่วไป แต่กลับคาดไม่ถึงเช่นกันว่า เพียงครึ่งวันก็สามารถออกมาได้แล้วจริงๆ

เขาที่บอกว่าเย่หยวนจะต้องออกมาได้ภายในสามวัน ยังแอบหลงคิดไปว่าตนประเมินเด็กคนนี้สูงเกินไปหรือเปล่า

แต่ไม่คิดไม่ฝัน สามวันกลับนานเกินไปด้วยซ้ำสำหรับเย่หยวน!

ทันทีที่ได้คำกล่าวของน้องเจ็ด เย่หยวนอดเอ่ยปากกล่าวขึ้นอย่างสงสัยมิได้

“ท่านกำลังกล่าวอันใด? ข้าก็เดินออกมาเอง หาใช่วิญญาณชั่วในนั้นประเคนออกมา”

“แต่…แต่…แต่ภายในนั้นมีวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายอยู่เป็นโขยง!”

น้องเจ็ดกล่าวตะกุกตะกักเรียงลำดับคำแทบไม่ถูกเนื่องด้วยตะลึงไม่หาย

เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า

“อืม มีวิญญาณชั่วชั้นปลายอยู่ภายในนี้จริงๆ แต่จำนวนกลับน้อยเกินไป เดินเตร่เข้าไปเกือบครึ่งวันกลับมีแค่เจ็ดหรือแปดตนเท่านั้น ยังห่างไกลจากห้าร้อยยิ่งนัก! มีบริเวณอื่นอีกหรือไม่? พาข้าไปหาที”

ฉางเหลียนสะดุ้งโหย่งก่อนเร่งกล่าวว่า

“มี! มีแน่นอน! ตามข้ามาเลยน้องชาย!”

เย่หยวนพยักหน้า คล้อยเดินตามหลังฉางเหลียนไปติดๆ

กลุ่มพวกเขามุ่งหน้าสู่ส่วนลึกภายในสุสานสายลมหยิน

ยิ่งลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งพบวิญญาณชั่วมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังทรงพลังแกร่งกล้าเสียกว่ารอบนอกมาก

แต่ฝีไม้ลายมือของเย่หยวนที่สำแดงออกไป ต่างทำเอาเจ็ดพี่น้องต้องอ้าปากค้างตลอดทาง

วิญญาณชั่วที่แต่เดิมพวกเขาทั้งเจ็ดต้องผนึกกำลังกันปราบปราด ยามนี้กลับดูไร้เรี่ยวแรงเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน เสมือนกับจับไก่มาเชือดทิ้งด้วยมือเปล่า

แค่บีบเค้นเบาๆ ก็แหลกสลายทันที!

เจ็ดวีรบุรุษสายลมหยินเข้าสำรวจเตร็ดเตร่อยู่ในสุสานสายลมหยินมาก็หลายปี แต่ไม่เคยมีใครฆ่าวิญญาณชั่วเหล่านี้ได้ตายสนิท

ที่ปราบปราดอย่างมากพวกมันเพียงถอยหนีออกไปเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ เหล่าน้องทั้งหกเชื่อสนิทใจแล้วว่า เย่หยวนคนนี้แกร่งกล้าทรงพลังเพียงใด

ในที่สุดทั้งเจ็ดก็พาเย่หยวนมายังถ้ำแห่งที่สอง หลังจากที่เย่หยวนเข้าสำรวจถ้ำหายลับไป พวกเขาก็เริ่มจับกลุ่มสนทนาทันควัน

น้องเจ็ดผู้ซึ่งตื่นตระหนกที่สุดเร่งปราดเหงื่อเย็น หันควับกล่าวกับฉางเหลียนว่า

“โชคดีจริงๆที่พี่ใหญ่เป็นคนฉลาด! มิเช่นนั้นพวกเราคง…แหลกคามือเด็กนั่นเหมือนกับวิญญาณชั่วแล้ว!”

ฉางเหลียนเองก็ยังระทึกขวัญไม่หาย หากตอนนั้นเขาตัดสินใจลงมือกับเย่หยวน เกรงว่านามขาน เจ็ดวีรบุรุษสายลมหยินคงสิ้นชื่อไปจากผืนพิภพแล้วในวันนี้

แต่เป็นที่แน่นอน เย่หยวนไม่มีทางบดขยี้พวกเขาทั้งเจ็ดเหมือนกับวิญญาณชั่วเหล่านั้นได้

ที่เขาสามารถจัดการกับวิญญาณชั่วเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้แก่หวูเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ