จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1329

ตอนที่1329 ปิดล้อมดักฆ่า!

“นายท่าน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง! ภายในถ้ำราชันย์แห่งภูตมัน…เงียบเกินไป!”

สีหน้าการแสดงออกของยอดฝีมือคนนำทางกลับไม่สู้ดีนัก

หวังอวีเต๋าสีหน้ามืดตกไม่ต่างและกล่าวว่า

“หุบปาก! ตั้งใจนำทางไปก็พอ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่า ไอ้เด็กเหลือขอนั้นจะมีปัญญาพลิกฟ้าดินได้!”

ไม่จำเป็นต้องให้ยอดฝีมือคนนี้กล่าวเตือน หวังอวีเต๋าก็พอรู้สึกได้เป็นนัย มีบางสิ่งอย่างผิดแปลกออกไปจริงๆ

พวกเขาเดินเท้าเข้ามาในถ้ำราชันย์แห่งภูต เฝ้าระวังภัยรอบด้านหาใช่ประมาท แต่ตลอดทางมานี้กลับไม่พบเจอวิญญาณชั่วแม้แต่ตนเดียว

ในเมื่อถ้ำราชันย์แห่งภูตเป็นถึงจุดที่อันตรายที่สุดในสุสานสายลมหยิน เช่นนั้นก็ควรมีวิญญาณชั่วซ้องสุมอยู่เป็นจำนวนมาก

หวังอวีกั่นคล้ายรู้สึกดั่ง ขนลุกชูชันประดุจหนังไก่ยันศีรษะ ยามนี้ห้ามใจอดเอ่ยปากขึ้นมิได้ว่า

“พี่สอง หรือพวกเรา…ควรถอนตัวออกมาตั้งหลักก่อนดี?”

ได้ฟังข้อเสนอของหวังอวีกั่น หวังอวีเต๋าชักเริ่มหวั่นใจเช่นกัน

“หากมันจนตรอกถึงขั้นใช้ชีวิตอาศัยอยู่ภายในนี้เลยล่ะ? เราจะทำอย่างไร?”

หวังอวีเต๋าเอ่ยถาม

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ยอดฝีมือที่นำทางมากล่าวตอบทันควัน

“ไม่มีทาง! ต่อให้เป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุด อย่างมากก็อยู่ที่นี่ได้ไม่เกินหนึ่งปี! ภายในถ้ำแห่งนี้มีพลังธาตุหยินเข้มข้นเป็นพิเศษ มันจะเข้ากัดกร่อนร่างกายและจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หากปล่อยนานเข้าอาจสร้างความเสียหายรุนแรงถึงชีวิต! บางคนรากฐานพลังพังเสียหายหนัก บางคนทนทานได้ไหวแต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นผีดิบ!”

หวังอวีเต๋าหน้าถอดสีในบัดดล ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสุสานสายลมหยินจะเป็นสถานที่ที่ชวนขนหัวลุกได้ขนาดนี้

ยามได้ยินคำยืนยันจากพวกขาประจำ เช่นนี้เขาจึงตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

“เข้าใจแล้ว พวกเราถอนตัว!”

หัวใจเต้นกระหน่ำรุนแรง กล่าวได้ว่าแทบพุ่งออกจากลำคอของหวังอวีเต๋า

แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะหมุนตัวจากไป จู่ๆสายลมเย็นยะเยือกหอบใหญ่พลันพัดผ่านสะท้านขวัญ

วูววว! วูววว!

เสี้ยวอึดใจต่อมา ยังไม่ทันรู้สึกฟื้นตัว รอบกายพวกเขาก็เต็มไปด้วยวิญญาณชั่วมากมายโผล่ออกมาจากไหนไม่ทราบ!

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายทั้งสิ้น!

พินิจจากสายตาน่าจะมีไม่ต่ำกว่าพัน!

วิญญาณชั่วจำนวนขนาดนี้ แม้แต่หวังอวีเต๋าที่เป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดยังเสียวซ่าสะท้านยันหนังศีรษะเช่นกัน

ไม่ว่าเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดจะแกร่งกล้า หรือสามารถบดขยี้พวกปฐมพระเจ้าชั้นปลายได้ง่ายเพียงใด แต่นั้นก็มิได้หมายความว่า เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดจะไร้เทียมทานคงกระพันเสมอไป

ยิ่งเป็นวิญญาณชั่วกลับยิ่งยากที่จะจัดการรับมือ

ผนวกกับปริมาณนับพันตนที่กระโจนออกมาพร้อมกับ แม้หวังอวีเต๋าและหวังอวีกั่นจะผนึกกำลังร่วมมือกันอย่างไร พวกเขาก็ไม่มีทางหนีรอดมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน

“นี่…เกิดะอะไรขึ้นกันแน่? พวกมันโผล่มากจากไหนตั้งมากมาย?”

“ผู้อาวุโสรอง ระ-เราจะทำอย่างไรกันดี?”

“วิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายทั้งสิ้น! จำนวนขนาดนี้พวกเราตายแน่!”

……………………

สีหน้าของสองผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังอย่างหวังอวีเต๋ากับหวังอวีกั่นผลัดสีดำสลับเขียว

กลิ่นอายความสิ้นหวังกำลังคืบคลานเข้ามาในหมู่พวกเขาแล้ว

วิญญาณชั่วหนึ่งดาวขั้นปลายนับหลายสิบก็ว่าคับขันพอแล้ว ยามนี้มากันเป็นหลักพัน จะไม่ให้พวกเขาสิ้นหวังได้อย่างไร?

“พวกเจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้! เอาแต่พร่ามไม่หยุดคงหนีรอดออกจากฝูงผีพวกนี้ได้? ติดตามเราชายชรามา แล้วหาทางออกไปด้วยกัน!”

หวังอวีเต๋าค่อนข้างมีสติตามอายุ คงบีมีล้นหลามหนึ่งเสียงตะโกนเดียวทำเอาทุกคนสงบลงทันใด

ในเวลาเดียวกัน หวังอวีเต๋าเรียกทวนยาวของตนออกมาพร้อมเข้าสัประยุทธ์เดือดกับฝูงวิญญาณชั่วโดยตรง

“โฮ่ววว! โฮ่ววว!”

เสียงกรีดร้องสุดเวทนาดังระงมก้องหูไม่หยุดหย่อน วิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายยังคงอ่อนแอเกินไปเมื่ออยู่ต่อหน้าหวังอวีเต๋า

แต่การโหมสัประยุทธ์ของหวังอวีเต๋า ถึงจะทำให้วิญญาณชั่วเหล่านั้นร้นถอยออกไปได้บ้าง ทว่ามันกลับยิ่งกระตุ้นให้วิญญาณชั่วเหล่านั้นบ้าคลั่งยิ่งขึ้นในเวลาต่อมา ก่อนเบี่งเป้าหมายเข้าโจมตีคนอื่นๆแทน

“อวีกั่น เจ้าคุมด้านหลัง ข้าจะอยู่ด้านหน้าค่อยเปิดทางให้เอง ระวังอย่าให้ผีชั่วพวกนี้ทะลวงเข้ามาได้!”

หวังอวีเต๋าผ่านศึกใหญ่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ถึงยามนี้นับว่าคับขัน แต่กลับหาตื่นตูมไม่

เขากับหวังอวีกั่นมาตรได้ว่าเป็นทหารเจนสมรภูมิ ยามสู้รบเข้าประจำตำแหน่งเป็นระบบอย่างรู้งานกัน ซึ่งนี่สามารถลดความกดดันของคนอื่นไปได้มากโข

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยจำนวนของวิญญาณชั่วทีมีมากเกินไป นอกจากพวกมันจะดุร้ายและไม่กลัวตาย พวกมันยังทำทุกหนทางเพื่อหวังกลืนกินอย่างกระหาย

ในไม่ช้า หนึ่งในพวกเขาก็ไม่สามารถทานทนได้อีกต่อไป

“อ๊ากกก!!”

ยอดฝีมือของตระกูลหวังที่มีความแกร่งกล้าอ่อนแอที่สุด ดันพลาดท่าถูกวิญญาณชั่วกลุ่มใหญ่กระชากออกมาพร้อมรุมกินโต๊ะไม่เหลือ

วิญญาณชั่วเหล่านี้ดืนกระหายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมนุยษ์เป็นที่สุด คล้ายกับฝูงฉลาดกระหายเลือด ยอดฝีมือของตระกูลหวังคนนั้นถูกวิญญาณชั่วนับหลายสิบตนแย่งกันกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อย

ไม่นานเกินรอ ยอดฝีมือคนนั้นก็เหลือแต่ศพเย็นชืดไร้วิญญาณ

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาคนนั้นถูกวิญญาณชั่วฉีกกระชากแย่งกินไม่เหลือซาก

เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากขวัญสะเทือนชนิดนี้ ถึงกับไม่กล้าหายใจแรง

บางที…เหยื่อรายต่อไปอาจเป็นพวกเขา!

วิญญาณชั่วเหล่านี้ทราบดี ของร้อนของเย็น ใครควรแตะต้องใครไม่ควรยุ่งย่าม พวกมันต้องค่อยเฝ้าระวังเพียงหวังอวีเต๋ากับหวังอวีกั่นเท่านั้น ส่วนที่เหลือที่อยู่ตรงใจกลางกลับเป็นเหยื่ออันโอชะ

ในไม่ช้า สมาชิกอีกหนึ่งคนของตระกูลหวังก็ถูกลากออกจากกลุ่ม

“หลินฉิว!”

ดวงตาของหวังอวีเต๋าแดงกล่ำด้วยความโกรธจัด เหยื่อรายนี้ที่ตายลงหาใช่ผู้ใดอื่นนอกจาก หลานชายแท้ๆของหวังอวีเต๋า

ก่อนที่จะเดินทางมา เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า วันนี้กลับต้องหยิบยืมขุมพลังของตระกูลหวังมาขนาดนี้เพื่อจับเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นเพียงคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ราคาความสูญเสียยังมหาศาลจนน่ากลัว

เว้ยเสียแต่เศร้าก็ส่วนเศร้า สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งเสียเปรียบหนักเมื่อจำนวนคนลดลง

วิญญาณชั่วนับหลายร้อยบุกเข้ามาไม่เว้นวาย แม้เขาจะแกร่งกล้า แต่กลับไม่สามารถยื่นมือช่วยเหลือใครได้เช่นกัน

หากพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว อาจสะดุดเท้าตนเองตกไปตายได้ไม่ต่าง

มีสองผู้อาวุโสอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดป้องกันหน้าหลังตลอดทาง ยามนี้เริ่มเคลื่อนเข้าใกล้ปากทางออกถ้ำบ้างแล้ว

เพียงว่าเสียงหลานชายคนเองยังคงกรีดร้องโหยหวนดังก้องอยู่ในหูหวังอวีเต๋าไม่รู้จบ

หัวใจของเขาราวกับถูกคมมีดบาดลึกจนเลือดสดไหลซิบออกมา!

“ฆ่า!”

วันนี้หวังอวีเต๋าประสบความสูญเสียมากเกินไป ราคานำจ่ายจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นับเป็นการสลักเส้นทางอาฆาตสีโลหิตไว้แล้ว ทวนยาวสะบั้นคอวิญญาณชั่วตนหนึ่งด้วยความอาฆาตแค้น พร้อมพุ่งออกจากถ้ำราชันย์แห่งภูตโดยตรง

ดวงตายามนี้ของหวังอวีเต๋าเปี่ยมแค้นสุดอาฆาต จนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด

ทิ้งท้ายสุด ร่างหนึ่งปราดพุ่งออกมาจากถ้ำ หวังอวีกั่นหนีออกมาได้เป็นคนท้าย

บูมมมม!

แต่วิญญาณชั่วหาได้มีเจตนาปล่อยศัตรูลอยนวลไม่ พวกมันกลุ่มใหญ่ตามติดพวกหวังอวีเต๋าออกมาจากถ้ำราชันย์แห่งภูตเช่นกัน พร้อมไล่ล่าพวกนั้นต่อไป

หวังอวีเต๋าได้แต่กักเก็บความแค้นและเศร้าโศกอยู่ในใจ นาทีนี้จำต้องพาทุกคนหนีออกไปให้ได้

ไม่รู้ว่าไล่ล่ากันยาวนานเพียงใด แต่ในที่สุดก็ไม่มีวิญญาณชั่วตามติดอีกต่อไป ทุกคนที่เห็นว่าหนีพ้นต่างทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง หายใจหอบถี่สูดอากาศเข้าปอดอย่างบ้าคลั่ง

หวังอวีเต๋ากวาดสายตามองไปยังคนที่เหลือรอดออกมาได้ ซึ่งนั้นทำเอาเขาตกใจเป็นอย่างยิ่ง

ในคราแรกที่นำกำลังกันมา หากรวมยอดฝีมือที่นำทางมาแล้วก็มีทั้งหมดสิบเจ็ดคน!

ทว่าตอนนี้หากนับรวมตัวเขาและหวังอวีกั่นแล้ว กลับเหลือแค่ห้าคนเท่านั้น!

แค่เข้าออกถ้ำครั้งเดียว กลับสูญเสียกำลังคนไปถึงสิบสองคน!

นอกจากยอดฝีมือที่ทำหน้าที่นำทางแล้ว หลานชายของหวังอวีเต๋ายังตายลงภายในถ้ำแห่งนั้นไปอีก

นี่ยังไม่รวมเหล่าผู้คนระดับสูงของตระกูลหวังอีกมากมาย

พวกเขาเหล่านี้โดยส่วนใหญ่เป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นปลาย มีชั้นกลางปะปนอยู่เล็กน้อย

การเดินทางครั้งนี้ ที่สูญเสียผู้คนระดับสูงของตระกูลหวังกลุ่มนี้ไปจำนวนมาก กล่าวได้ว่าขุมกำลังของตระกูลหวังลดลงไปกว่าครึ่ง!

“เย่หยวน! หากข้ามิอาจชำระหนี้แค้นควาวนี้ได้ ข้า,หวังอวีเต๋าผู้นี้ไม่ขอเป็นคน! เราชายชราขอสาบานต่อสรวงสวรรค์ ข้าจะต้องฆ่าแกให้ได้ในสุสานสายลมหยินแห่งนี้!”

ดวงตาของหวังอวีเต๋าดั่งท่วมท้นไปด้วยโลหิต กรามกระทบบดแน่นด้วยความเกลียดชังเย่หยวนสุดขั้วหัวใจ

แต่เขาคงลืมคิดไปว่า กลับเป็นพวกเขาที่ไล่ล่าเย่หยวนและทำตัวเองทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะอย่างไร มิว่าทางอ้อมหรือทางตรง เย่หยวนได้สังหารสมาชิกตระกูลหวังไปมากเกินไปแล้ว และนี่นับเป็นความผิดสลักบัญชีเลือดอย่างแท้จริง

………………………

ภายในถ้ำราชันย์แห่งภูต ห้าพี่น้องฉางเหลียนได้แต่อ้าปากขากรรไกรข้างเติ่งแทบร่วง ความประหลาดใจนี่แสนตราตรึงใจเสียเหลือเกิน

พวกเขาสบตากันไปมาพร้อมสีหน้าประดุจเห็นผี

“พะ-พี่ใหญ่…เมื่อครู่ท่านเห็นหรือไม่? นั้นเป็นถึงวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลาย! เขา…เขาสามารถควบคุมวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายได้ตามใจนึก!”

ฉางเหลียนช้อนสายตาจับจ้องเย่หยวนที่กำลังนั่งสมาธิด้วยความยำเกรงสุดขีด!

เฉพาะคราวนี้ พวกเขาเป็นประจักษ์ต่อความแกร่งกล้าของเย่หยวนอย่างแท้จริง!

ปรากฏว่า หากเย่หยวนต้องการฆ่าพวกเขา กลับทำได้ง่ายดายประดุจพลิกฝ่ามือเท่านั้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ