เม็ดเหงื่อแตกท่วมไหลรินผ่ากลางหน้าผากหยดลงติ๋ง หวังซวนเฟยสั่นกลัวหนัก ยามนี้หาไม่สงสัยในคำพูดของเย่หยวนอีกต่อไป
แต่เดิมพวกเขาต่างคิดว่า เย่หยวนเป็นเพียงนักหลอมโอสถมากฝีมือคนหนึ่ง หาไก้มีพิษมีภัยต่อคนอื่น
ทว่าตอนนี้ ลักษณ์อันแสนอ่อนโยนเหล่านั้นของเย่หยวนกลับพังทลายลงมาไม่เหลือดังโครม รอยยิ้มฉีกแสยะกว้างของเขาในปัจจุบันดุจฆาตกรโรคจิตมิปาน
ทุกคนล้วนตระหนักชัดแจ้งถึง ความน่ากลัวของตระกูลซูสาขาหลักในเมืองหมิงหยางเป็นอย่างดี แต่เย่หยวนกลับเลือกที่จะฆ่าหวังซูโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!
ชายหนุ่มคนนี้มันบ้าไปแล้ว!
“ขะ-ข้า…ข้าพูดแล้ว! ข้ายอมพูดแล้ว!”
หวังซวนเฟยมิอาจทนต่อแรงข่มขู่ของเย่หยวนได้ในที่สุด จนต้องคลายความจริงออกมา
เย่หยวนยิ้มตายี๋กว้างพร้อมกล่าวว่า
“อย่าลืมสาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์ด้วย”
หวังซวนเฟยยามนี้หวาดกลัวจัด เขาเร่งกล่าวคำสาบานและเปิดปากเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตำหนักเจ้าเมืองให้ทุกคนฟังโดยละเอียด
ความเป็นจริงกลับตรงข้ามกับสิ่งที่หวังซูกล่าวไปโดยสิ้นเชิง!
ปรากฏว่า ฝ่ายตำหนักเจ้าเมืองกับเป็นพันธมิตรกับสามตระกูลใหญ่มาตั้งแต่แรก พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อบีบให้หอมหาสมบัติยอมแบ่งผลประโยชน์ให้ ในขณะที่พวกเขาเพียงนั่งเฉยๆรอเก็บเกี่ยวผบกำไร
เพียงแต่ว่า พวกเขาทั้งหมดกลับคาดไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะทรงพลังได้ขนาดนี้และมิได้เกรงกลัวในอำนาจของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย!
เฉพาะเวลานี้ ในที่สุดเหล่าฝูงชนก็ทราบเสียที ไฉนเย่หยวนถึงยังสงบเสงียมได้ขนาดนี้!
หากไม่เคยทำเรื่องขัดต่อมโนธรรม ย่อมหาได้เกรงกลัวต่อผีเยี่ยมเยือนถึงประตูบ้านไม่!
ตระกูลหวังหาเรื่องตายเอง แล้วนี่จะไปโทษใครได้?
นอกจากนี้ ตระกูลหวังก็เคยส่งสามผู้อาวุโสใหญ่ไปตามล่าเย่หยวนในสุสานสายลมหยิน มิตรหรือศัตรูกลับถูกกำหนดมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แต่เมื่อหวังเพียนหลานได้ฟังสิ่งเหล่านี้ นางกลับดึงดันหัวรั้นไม่เชื่อ
นางไม่กล้าทำใจเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยสักนิด นี่ไม่น่าจะใช่ความจริงเลย!
หากมองข้ามเรื่องอื่นไปก่อน เพียงแค่หวังซูที่ร่วมมือกับเฉินหย่งหนานสังหารท่านพ่อและพี่ชายของนางซึ่งเป็นคนในตระกูลเดียวกัน แค่นี้ก็ไร้มโนธรรมเกินพอแล้ว แต่นี่ยังโยนความผิดทั้งหมดให้แก่หอมหาสมบัติ และยุยงให้สมาชิกตระกูลหวังคนอื่นๆและนางเข้าใจผิดอีก!
บนใบหน้าเย่หยวนก็คงยิ้มแย้มไม่คลายอ่อน เขากล่าวกับหวังซวนเฟยขึ้นว่า
“นี่คือทั้งหมดแล้ว? แน่ใจรึ? คงมิได้ยุยงให้สุกรอ้วนหวังเพียนหลานมาพ้นน้ำลายใส่พวกข้าพร้ำเพรื่อกระมัง?”
ทั่วทั้งร่างของหวังซวนเฟยสั่นสะท้านฉับพลันดั่งถูกสายฟ้าฟาด เขาจงใจไม่กล่าวส่วนนี้ออกไป เพราะกลัวว่าจะไปก่อความโกรธแค้นต่อฝูงชนและตระกูลหวังได้
ส่วนคำสาบานที่หวังซวนเฟยเคยให้ไว้กับเฉินหย่งหนานในตำหนักเจ้าเมือง เขาก็ค่อนข้างฉลาดในการเลือกใช้คำ เนื้อความสาบานก็คือ เขาจะไม่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน‘วันนั้น’
สำหรับเรื่องแผนการที่หวังซูวางเอาไว้ เขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เย่หยวนจะมองผ่านอ่านกลยุทธ์ออกได้อย่างเฉียบขาดขนาดนี้ เด็กคนนี้ฉลาดหลักแหลมเกินไป
“มะ-ไม่มีแล้ว!”
หวังซวนเฟยกล่าวปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก ซึ่งนี่กลับไปดึงดูดความสนใจของทุกคนอีกครั้ง
เย่หยวนยังคงกล่าวตอบอย่างยิ้มแย้มว่า
“ไม่มีแล้วจริงๆ? ในเมื่อไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เจ้าก็หมดประโยชน์แล้วล่ะ ข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านเก่าเดี๋ยวนี้!”
เย่หยวนค่อยๆระดมพลังปราณเทวะก่อขึ้นบนฝ่ามืออย่างพิรี้พิไรมากพิธี คู่สายตาของเขายังคงจับจ้องที่หวังซวนเฟยมิคลายอ่อนแม้แต่น้อย
สองคู่สายตาประกบจ้อง เย่หยวนจ้องเขม็งไปยังหวังซวนเฟยมองตาไม่กระพริบ คล้ายแรงกดดันสุดน่าสะพรึงดุจคลื่นยักษ์กำลังถาโถมเข้าใส่ก็ไม่ปาน
หวังซวนเฟยมิอาจทนต่อแรงกดดันนี้ได้อีกต่อไป เขาเร่งกล่าวแทบลิ้นจุกปากว่า
“ยะ-ยัง…ยังไม่หมด! ยังมีอีก! หวังซูกับเฉินหย่งหนานตกลงกันว่า หลังจากที่เป่าหูหวังเพียนหลานให้ไปหาเรื่องหอมหาสมบัติเสร็จสิ้น ในคืนนั้นเขาจะส่งนักฆ่าไปลอบสังหารตระกูลหวังทั้งหมดในชั่วข้ามคืน และโยนความผิดทั้งหมดให้แก่เย่หยวน! หากแผนนี้เป็นไปได้ด้วยดี หวังซูจะได้มีข้ออ้างเพื่อให้ตระกูลหวังสาขาหลักส่งยอดฝีมือมาจัดการเย่หยวนในภายหลัง!”
วาจาแต่ละคำที่หลุดออกจากปากของหวังซวนเฟย กลับเยือกเย็นเสียยิ่งกว่าสายลมหยินที่ปลดปล่อยออกจากร่างของกุ้ยหยุนเสียอีก แผนการนี้หาไม่เลือดเย็นคงคิดไม่ได้
หวังซูผู้นี้ไร้ซึง่มโนธรรมอย่างแท้จริง กระทั่งตระกูลร่วมสายเลือดเดียวกันยังฆ่าล้างกันลง!
เดรัจฉานประเภทนี้ ต่อให้ตายเกิดนับร้อยครั้งก็ยังไม่พอ!
ตอนที่เย่หยวนตบฝ่ามือระเบิดศีรษะของหวังซูเป็นจุณ ผู้คนรอบข้างต่างมองว่าเย่หยวนโหดร้ายสิ้นดี
แต่ตอนนี้ ทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกัน…เย่หยวนทำได้ดีมาก!
สาแก่ใจยิ่ง!
หวังเพียนหลานยืนสั่นสะท้านแทบทรงตัวไม่อยู่ แต่นอกจากความกลัวคือความโกรธสุดพรรณนา
หวังซูตัวนี้ไม่เพียงปั่นหัวหลอกใช้พวกนางให้เป็นประโยชน์ แต่ยังต้องการกำจัดฆ่าทุกคนทิ้ง!
เมื่อได้ทราบถึงการกระทำของหวังซู ทำให้หวังเพียนหลานรู้สึกราวกับตกอยู่ท่ามกลางคุกน้ำแข็ง
เลือดเย็นเกินมนุษย์!
“ข้า…ข้าบอกทั้งหมดที่รู้ไปแล้ว เช่นนั้น…เจ้าปล่อยข้าได้รึยัง?”
หวังซวนเฟยเอ่ยถามพร้อมเศษเสี้ยวแห่งความหวัง
เย่หยวนกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...