จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1411

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1411 ถูกเต๋าปฏิเสธ
ตอนที่ 1411 ถูกเต๋าปฏิเสธ
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ฉินเทียน เจ้าจะตามมันไปจริงๆใช่ไหม? ภารกิจที่เย่หยวนมันเลือกมิใช่ธรรมดาทั่วไป ระดับพลังสูงสุดในดินแดนนภาบรรพตคืออาณาจักรบรรพชนพระเจ้า! เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้ดี!” ภายในห้องลับของสถานศึกษาหวูเมิ่ง ฉินเทียนหนิงกับฉินเทียนนั่งประจักหน้าอยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งฉินเทียนหนิงก็กำลังเอ่ยเตือนฉินเทียนสีหน้าเคร่งขรึมอยู่

เมื่อฉินเทียนหนิงทราบว่าภารกิจที่เย่หยวนกำลังทำเป็นภารกิจของดินแดนนภาบรรพต เขาเองก็ตกใจอย่างมากเช่นกัน เขาตระหนักได้ถึงความยากเข็ญของภารกิจในดินแดนนภาบรรพตดี อัตราการตายค่อนข้างสูงมาก มือใหม่อย่างเย่หยวนต้องการท้าทายดินแดนที่เสี่ยงอันตรายขนาดนี้ ในท้ายที่สุดมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดหวังไว้เช่นกัน

นอกจากนี้เอง ฉินเทียนหนิงก็ค่อนข้างกังวลถึงความปลอดภัยของฉินเทียนอย่างมาก ฉินเทียนเป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลฉิน ผู้ซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวสำหรับรับสืบทอดตำแหน่งประมุขตระกูลต่อไปในภายภาคหน้าหากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเขาจริงๆ ตระกูลฉินมิอาจทนรับความสูญเสียได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ฉินเทียนยังคงแน่วแน่พร้อมใจอันเด็ดเดี่ยว เขากล่าวขึ้นน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า

“เย่หยวนมันกลายมาเป็นมารร้ายในจิตใจที่ตามหลอกหลอนข้าไม่เว้นวัน หากฆ่ามันไม่ได้ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีทางทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้อีกแล้ว!”

ฉินเทียนหนิงตระหนักทราบถึงความน่ากลัวของเงามืดในจิตใจ นี่คือปมผูกแน่นของผู้คนที่อาจส่งผลกระทบถึงความสำเร็จในอนาคตของเหล่านักสู้ เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “เสียดายนักที่เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าไม่สามารถเข้าไปในดินแดนนภาบรรพจได้ มิฉะนั้นตัวตนจะถูกเปิดเผยทันที และอาจต้องปะทะกับพวกวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์ หากเป็นแบบนั้นกลายเป็นปัญหาใหญ่โตแน่ การเดินทางสู่ดินแดนนภาบรรพต…ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเจ้าแล้ว!”

ฉินเทียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเองก็พกความมั่นใจไม่น้อย! ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเย่หยวนคือ วิญญาณชั่วสองดาวขั้นปลายกับวิชาขี่ดาบ แต่หลังจากที่ข้าเข้าสู่ดินแดนนภาบรรพต ข้อจำกัดแห่งมหาพิภพถงเทียนจะไม่มีอีกต่อไป ยามนั้นข้าสามารถเหาะเหินอากาศได้เช่นกัน! ในเวลานั้นมันก็ไม่เหลืออะไรให้พึ่งพาได้แล้ว! และข้าจะเป็นคนสังหารมันกับมือเอง!” แม้ว่าฉินเทียนจะเกลียดชังเย่หยวนพียงใด แต่เขาก็หาใช่คนประมาท

หากไม่มีหลักประกันแน่นอน เขาเองก็ไม่เสี่ยงเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว หากเทียบกันแบบด้านต่อด้าน ฉินเทียนก็เห็นว่าตนเหนือกว่าเย่หยวนทั้งหมด เพื่อเลื่อนระดับขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าในอนาคต เขาจำต้องกำจัดมารร้ายในจิตใจอย่างเย่หยวนทิ้งไปซะ ในขณะที่เย่หยวนถูกลิขิตไว้แล้วให้เป็นวิญญาณผู้ล่วงลับภายใต้คมดาบของเขา!

…………….

ณ พรมแดนจุดเชื่อมต่อไปจากดินแดนนภาบรรพต เหนือความว่างเปล่าทั้งมวลประตูผนึกดินแดนขนาดยักษ์ได้ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ร่างหนึ่งตรงออกจากประตูผนึกดินแดนสู่ห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดโดยตรง เพียงไม่นานร่างนั้นก็มาถึงจุดหมาย พร้อมทัศนียภาพเบื้องหน้าปรากฏเป็นมหาสมุทรสุดลูกหูลูกตา

“ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า มหาพิภพถงเทียนยังมีสิ่งที่เรียกว่า เข็มทิศสมดุลวายุที่เป็นเครื่องรางข้ามห้วงอวกาศโดยเฉพาะเช่นนี้ด้วย เฮ้ออ…หากย้อนกลับไปตอนนั้นหากข้ามีเจ้าสิ่งนี้ล่ะก็ คงไม่ต้องบาดเจ็บสาหัสเจียนตายแล้วกระมัง?”

ร่างที่พุ่งผ่านประตูผนึกดินแดนมิใช่ใครอื่นนอกจากเย่หยวนอย่างแม่นยำ

ก่อนที่เขาจะเดินทาง เย่หยวนได้รับเครื่องรางมาสองชิ้น หนึ่งในนั้นคือเข็มทิศสมดุลวายุจากท่านอาจารย์ผู้ดูแลหอเครื่องรางวิเศษของสถานศึกษา ทันทีที่ใช้เข็มทิศสมดุลวายุ มันจะสร้างเกราะป้องกันคุ้มกายผู้ใช้และปรับสมดุลห้วงอวกาศภายในชั้นเกราะให้เสถียร ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันผู้ใช้จากการฉีกกระชากของห้วงอวกาศภายนอกอันปั่นป่วน และนำพาไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย

ระหว่างเดินทางผ่านห้วงอวกาศเช่นนี้ เย่หยวนอดนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นมิได้เลย ที่ตนถูกหลุมดำอวกาศดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง ทว่ายามนี้มีเข็มทิศสมดุลวายุอยู่ในมือก็อุ่นใจได้เลย เขาสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้โดยไม่มีสภาพอนาถเฉกเช่นกาลก่อนแน่นอน

“วิธีหลอมสร้างเครื่องรางในมหาพิภพถงเทียนเป็นสิ่งที่ผู้คนในพิภพยุทธจักรยิบย่อยไม่สามารถจินตนาการได้เลย แต่เข็มทิศสมดุลวายุจัดได้ว่าเป็นเครื่องรางที่ถูกคุมเข้มอย่างมากไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หากนำมันออกไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้นั้นจะถูกตัดสินโทษประหารทันที! เพียงว่าสิ่งนี้เป็นปัจจัยหลักในการเดินทางข้ามดินแดนเพื่อทำภารกิจ เจ้าจึงได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ห้ามให้สิ่งนี้ตกอยู่ในมือผู้อื่นเด็ดขาด!” หวูเฉินกล่าว

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า “ดูเหมือนข้าจะต้องเก็บเกี่ยวสมบัติฟ้าดินให้ได้เยอะๆ จะได้คุ้มกับที่ยืมเจ้าสิ่งนี้มาใช้! และที่สำคัญที่สุด…ศิลาชีวิตนิจนิรันดร์! หากไม่ได้มาในคราวนี้เกรงว่าในภายภาคหน้าคงเป็นเรื่องยากแล้ว”

ในขณะที่สนทนาพูดคุยกันอยู่ จู่ๆ ก็มีฟองอากาศปรากฏขึ้นบนมหาสมุทรตรงหน้า

ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!

สัตว์ประหลาดรูปทรงคล้ายปลานับหลายร้อยตัวพุ่งขึ้นจากน่านมหาสมุทร พร้อมเข้าจู่โจมเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง เย่หยวนขมวดคิ้วเข้ม รัศมีแรงกดดันพลันปะทุเดือดอัดปะทะพวกมันโดยตรง

บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม…

ร่างสัตว์ประหลาดคล้ายปลาเหล่านั้นตัวแตกระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดกลิ่นคาวฟุ้งกระจายออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ