จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1412

สรุปบท ตอนที่ 1412: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1412 – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1412 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1412 ไป๋เฉิน
ตอนที่ 1412 ไป๋เฉิน
โดย
Ink Stone_Fantasy
คล้อยหลังรัศมีแสงสีขาวสลายหายไป เย่หยวนก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างแช่มช้า เจาะลึกในแววตาเผยถึงความตื่นเต้นสุดพรรณนาไม่

“มันได้ผล!”

ปัจจุบัน เย่หยวนไม่รู้สึกถึงเต๋าแห่งดินแดนนภาบรรพตที่ปฏิเสธเขาอีกต่อไป!

“นี่เจ้าคิดได้อย่างไร? ใช้หุบเขาถงเทียนจำลองสร้างรัศมีเลียนแบบกลิ่นอายของศาสตร์แห่งสวรรค์ในดินแดนนภาบรรพต!” หวูเฉินอุทานลั่นด้วยความประหลาดใจ

“เหอะ พิภพยุทธจักรถูกสร้างขึ้นโดยยอดเซียนที่บรรลุเต๋าจากหุบเขาถงเทียนอีกหนึ่ง ดังนั้นการที่พ่อแม่จะเลียนแบบกลิ่นอายลูกตัวเองย่อมมิใช่เรื่องยาก ข้าจึงพยายามสื่อสารกับหุบเขาถงเทียนจำลองให้สร้างรัศมีเลียนแบบขึ้นมาปกคลุมร่างกายของข้าอีกชั้นหนึ่ง แต่คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะได้ผลจริงๆ” เย่หยวนเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมท่าทีแสนตื่นเต้น

หวูเฉินพูดอะไรไม่ออก เจ้าเด็กคนนี้มักจะมีความคิดแปลกๆออกมาอยู่เสมอ และทำให้เขาประหลาดใจไม่รู้จบซึ่งนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เย่หยวนทำให้เขาประหลาดใจได้สำเร็จ

ด้วยขุมพลังแห่งหุบเขาถงเทียนจำลองที่ปกป้องเขาอยู่นี้ ไม่ว่าดินแดนนภาบรรพตจักกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด เขาย่อมสามารถท่องทั่วยุทธภพได้อย่างอิสรเสรี! ต่อให้เซียนอาณาจักรบรรชนพระเจ้ายืนอยู่ตรงหน้าเย่หยวน แค่คนพวกนั้นก็ไม่มีทางจับผิดเขาได้เช่นกัน

เย่หยวนค่อยๆ เร่งพลังเข้ากดดันขุมพลังอาณาจักรพระเจ้าภายในร่างจนมันค่อยๆ จางหายไปในท้ายที่สุด ในไม่ช้ารัศมีกลิ่นอายเซียนอาณาจักรพระเจ้าทั้งหมดก็สลายโดยสิ้น เย่หยวนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเลย ด้วยเหตุนี้ เย่หยวนยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ว่า หากพบเจอเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า แม้แต่เซียนระดับชั้นนั้นก็ไม่มีทางมองเขาออกแน่นอน หากต้องการทำตัวให้กลมกลืนกับดินแดนแห่งนี้ เป็นการดีที่สุดที่เขาแสร้งทำเป็นคนธรรมดาไร้ภูมิหลังอันใด

อันที่จริงแล้ว สถานศึกษาหวูเมิ่งเองก็มีข้อมูลเกี่ยวกับดินแดนนภาบรรพตแห่งนี้น้อยมาก นี่จึงเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่เย่หยวนจำต้องพรางตัวแบบนี้ ก่อนที่จะตามหาศิลาชีวิตนิจนิรันดร์ จำต้องรู้จักดินแดนนภาบรรพตให้มากกว่านี้เป็นอันดับแรก

เมื่อกล่าวจบเย่หยวนก็ใช้ก้าวพริบตาออกมา ร่างไสวอันตรธานหายไปจากจุดที่ยืนอยู่เมื่อครู่ทันที

ภายในป่าอันกว้างใหญ่ เย่หยวนยังคงเดินเล่นอยู่บริเวณทุ่งเปิดโล่ง แต่ในความเป็นจริงคำว่า‘เดินเล่น’ก็เร็วจนระดับสายตาของคนทั่วไปมองตามไม่ทันแล้ว!

ปราดทะยานห่างออกไปนับพันลี้

“หื้ม?”

ทันทีทันใด ร่างของเย่หยวนพลันหยุดชะงักลงทันที

เมื่อมาถึงดินแดนนภาบรรพตแห่งนี้ ญาณสัมผัสของเขาก็กลับมาทรงพลังแผดขยายกว้างไพศาลอีกครั้ง เสี้ยวพริบตาเขาก็สัมผัสได้ว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งอยู่เบื้องหน้า ในขณะเดียวกัน เย่หยวนก็สัมผัสได้เช่นกัน คล้ายว่ามีอสูรระดับชั้นอาณาจักรพระเจ้าสุดแกร่งกร้าวตัวหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้เหมือนกัน

“อสูรปีศาจอยู่ทางนั้น! ท่านอาจารย์โม่หยุน ในครานี้ข้าจะต้องจับอสูรปีศาจตนนั้นและทำให้เชื่องได้แน่นอน! โปรดอย่าแทรกมือช่วยเหลือ!” เสียงชายหนุ่มดังขึ้น

“หุหุ โม่หยุนคนนี้เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของนายน้อยไป๋เฉิน! หากไม่วิกฤติจริงๆ ข้าไม่ไปแทรกแซงแน่นอน!” โม่หยุนกล่าวขึ้นพลางหัวเราะเล็กน้อย

เขาตระหนักดีว่านายน้อยไป๋เฉินผู้นี้มีความสุขกับความภาคภูมิในตนเองแค่ไหน ทว่าไม่นานมานี้กลับต้องพ่ายให้แก่อสูรปีศาจตนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนี่ทำให้นายน้อยมุ่งมั่นฝึกปรือเป็นเท่าตัว อย่างไรก็ตามแต่ พรสวรรค์ของนายน้อยไป๋เฉินก็ช่างน่าทึ่งนัก ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี นายน้อยไป๋เฉินก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างมากภายใต้แรงกดดันที่อสูรปีศาจตนนี้มอบให้

“ท่านอาจารย์โม่หยุนคราวนี้ต้องไม่ซ้ำรอยดั่งคราก่อน ข้าได้สร้างบาดแผลให้มันไว้แล้ว เผด็จศึกไม่มีพลาด!” ไป๋เฉินกล่าวขึ้นพร้อมสายตาอันมุ่งมั่น

“ฮ่าๆ นายน้อยไป๋เฉินต้องทำได้แน่นอน! แต่หากเกิดอุบัติเหตุอันใดขึ้นที่เกี่ยวพันถึงชีวิต เกรงว่าข้าเองก็ต้องดำเนินการเช่นกัน!” โม่หยุนหัวเราะคำหนึ่งพร้อมเอ่ยตอบ

“นายน้อยต้องทำสำเร็จแน่นอน! คราวนี้ต้องเอาชนะเจ้าอสูรปีศาจนั้นให้ได้!”

“นายน้อยทำได้!”

“นายน้อยทำได้!”

พ่วงท้ายคล้อยหลังทั้งสองปรากฏเป็นเหล่านักสู้หลายคนที่กำลังตะโกนให้กำลังใจไป๋เฉิน ไป๋เฉินยิ้มอย่างภาคภูมิใจพร้อมพุ่งเข้าใส่อสูรปีศาจตนนั้นทันที

“โฮกกก!”

ขณะที่ไป๋เฉินกำลังปราดพุ่งเข้าใส่อสูรปีศาจ มันก็คำรามอย่างบ้าคลั่งและกระโจนใส่เย่หยวนราวกับต้องการขย้ำให้ตาย แต่เดิมก่อนหน้า เนื่องจากมีต้มไม้ใบหญ้าบดบังทัศนวิสัยจากระยะไกลอยู่จึงไม่ทันสังเกตเห็น ทว่าเมื่อไป๋เฉินตรงเข้ามาใกล้ก็พบว่ามีเยาวชนหนุ่มอีกคนยืนอยู่ และอสูรปีศาจตนนั้นก็กำลังพุ่งใส่เย่หยวน ไป๋เฉินพลันวิตกกังวลหนัก เขากลัวว่าอสูรปีศาจตนนี้จ้องจะตะครุบเย่หยวนอยู่

“หยุดเดี๋ยวนี้! ปล่อยเขาออกมาซะ!”

ไป๋เฉินคำรามลั่นเสียงกึกก้อง พร้อมพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วประดุจสายฟ้า

ในอีกด้าน เย่หยวนยังคงฉงนใจนึกอยู่ สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายสิงโตตัวนี้คือสิ่งมีชีวิตประเภทไหน ไฉนเขาถึงไม่รู้จักมันมาก่อน แม้พินิจจากรูปร่างลักษณ์ทางกายภาพจะคล้ายคลึงกับอสูรหรืออสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยพบเจอ แต่กลิ่นอายของมันกลับมิได้จัดอยู่ในเผ่าพันธุ์อสูร มันช่างแตกต่างโดยสิ้นเชิง

ไป๋เฉินขึ้นปลอกคอสีทองคำขึ้นมาพร้อมพึมพำอะไรบางอย่าง ก่อนจะโยนออกไปคล้องคออสูรปีศาจตนนั้นโดยตรงอสูรปีศาจในตอนนี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะขัดขืน มันทำได้เพียงนอนสิ้นท่าเฝ้ามองไป๋เฉินอย่างสิ้นหวัง

“ฝากมันไว้กับพวกเจ้าด้วย”

ไป๋เฉินเอ่ยสั่งเสียงดังกับเหล่าศิษย์สาวกที่ติดตามมา แต่แล้วก็หันไปหาเย่หยวนพร้อมตบไหล่เบาๆและยิ้มกล่าวว่า “เจ้าหนูคงหวาดกลัวมาใช่ไหม? ไม่เป็นไร นายน้อยปราบมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! แต่หากเมื่อครู่ข้ามาช้ากว่านี้ เกรงว่าเจ้าคงกลายเป็นอาหารในท้องมันไปแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มตอบเล็กน้อยและกล่าวว่า “ขอบคุณอย่างยิ่งที่นายน้อยไป๋เฉินช่วยชีวิตข้า”

‘ข้าก็มิได้แสดงอาการตื่นกลัวอันใดเสีย? กลับกันเลยข้ากำลังจะศึกษาว่าสัตว์ประหลาดเมื่อครู่คือตัวอะไรกันแน่? ตอนนี้เจ้านั้นกลับตีตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตไปเสียแล้ว?’

แต่แน่นอนว่าเย่หยวนมิได้เอ่ยกล่าวอะไรออกมา เพียงตามน้ำอีกฝ่ายมิให้เป็นที่สงสัย

ไป๋เฉินโบกมือปัดไปมากลางอากาศและกล่าวว่า “ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น นี่นับเป็นเรื่องเล็กน้อยนักไม่ควรค่าจะเอ่ยถึง! แต่นายน้อยผู้นี้เองขอนับถือในความกล้าของเข้าเลยจริงๆ กลางป่าพฤกษารกร้างแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายหลายหลาก แม้แต่เซียนอาณาจักรพระเจ้ายังไม่อยากจะเข้าใกล้มากนัก แต่เจ้าเป็นเพียงคนธรรมดาแท้ๆ ทว่าหาญกล้าไม่กลัวตาย!”

เย่หยวนเพียงยิ้มตอบแต่มิได้กล่าวอะไร

ไป๋เฉินที่สุดท้ายก็สามารถจัดการอสูรปีศาจตนนี้ได้สำเร็จ จึงทำให้ตอนนี้เขาอารมณ์ดีอย่างมากและกล่าวต่อว่า“ช่างเถอะ นายน้อยผู้นี้อารมณ์ดีมิใช่น้อย เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าออกไปด้วยกัน! มาเถอะ!”

เย่หยวนประสานมือกล่าวขอบคุณว่า “เช่นนั้นต้องรบกวนนายน้อยไป๋เฉินแล้ว”

“ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่โชคดีจริงๆ! ดันวิ่งมาเจอนายน้อยไป๋เฉินในวันที่ออกมาฝึกพอดี! มิฉะนั้นเจ้าคงเหลือแต่กระดูกแล้ว!”

“หลังออกจากป่าพฤกษารกร้างได้ เจ้าอย่าลืมขอบคุณนายน้อยไป๋เฉินเสียล่ะ!”

“เจ้ายังโชคดีมากนัก คนที่พบเป็นนายน้อยไป๋เฉิน หากเป็นคนอื่นพวกนั้นคงไม่แยแสเจ้าแน่นอน!” เหล่าศิษย์สาวกที่ติดตามไป๋เฉินมาเร่งตรงปรี่มาพูดคุยกับเย่หยวนอย่างสนุกสนาน พวกคนต่างรู้สึกว่า เย่หยวนคนนี้เป็นพวกดวงแข็งนักที่รอดชีวิตออกมาได้อย่างเฉียดฉิวเช่นนี้

…………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ