จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1418

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1418 คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ!
ตอนที่ 1418 คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ!
โดย
Ink Stone_Fantasy
เหล่าผู้อาวุโสต่างมองหน้าสบตากันไปมาด้วยความงุนงง นี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? สมองของเขามีปัญหาอะไรหรือไม่? เจ้าหนุ่มคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นใคร ยามบอกว่าไม่เห็นด้วยแล้วพวกเราจะต้องเชื่อฟัง?

เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?!

“ไป๋เฉิน เจ้าควรจัดการกับคนของเจ้าให้ดี! มีหรือจะไม่ทราบว่าเจ้ามีข้อขุ่นเคืองใจ แต่อย่าใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล นี่มิใช่สนามเด็กเล่นที่เจ้าจะทำอะไรก็ได้ตามอิสระ!”

“ถูกต้อง! แล้วไอ้เด็กเหลือขอคนนี้โผล่มาจากไหน ไฉนถึงกล้าทำตัวทรามในสภาอาวุโส!”

เหล่าผู้อาวุโสต่างชี้หัวหอกไปที่ไป๋เฉินเป็นเป้าเดียว สุดท้ายนี้ไม่มีใครสามารถมองผ่านอ่านขุมพลังที่เก็บซ่อนของเย่หยวนออกเลยแม้นสักคน และคิดกันไปว่าเย่หยวนถูกส่งมาโดยไป๋เฉินเพื่อก่อปัญหาเท่านั้น

ไป๋เฉินกล่าวขึ้นเสียงเย็นชืดว่า “ข้าลืมแนะนำท่านผู้นี้แก่ทุกคนไปโดยสนิท นี่คือท่านอาจารย์เย่ที่เพิ่งรับข้าเป็นศิษย์เมื่อไม่นานมานี้! และในอนาคตต่อไป เขาจะขึ้นกลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดแห่งวังเทวะรัตตดิกาลฉายแห่งนี้! ทุกคำพูดที่เขากล่าวไปล้วนเป็นความเห็นแทนตัวข้าทั้งสิ้น!”

เมื่อได้ฟังคำกล่าวเหล่านี้ สีหน้าการแสดงออกของทุกคนพลันปรวนแปรอย่างหนัก

“ไร้สาระสิ้นดี! ไป๋เฉิน หากเจ้ายังหัวรั้นดื้อด้านอยู่แบบนี้ ก็อย่าตำหนิพวกเราเหล่าชายชราว่าไม่ไว้หน้าท่านประมุขวังคนก่อน! นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าถูกปลดออกจากตำแหน่งนายน้องแห่งวังเทวะรัตติกาลฉายแล้ว!” ผู้อาวุโสที่เสนอชื่อไป๋ซิ่วในคราแรกกล่าวไล่ไป๋เฉินออกไปทันที

เย่หยวนเหลือบมองช้อนหางตามองทุกคนและกล่าวเสียงเย็นสะท้านดังขึ้นว่า “ท่านอาวุโสไป๋หรงใช่หรือไม่? ไม่ทราบว่าปัญหาอ่อนหรือโง่? ท่านกับไป๋ซิ่วสมรู้ร่วมคิดเรื่องละครฉากใหญ่เพื่อส่งมองตำแหน่งประมุขวังให้อย่างสมเกียรติ แถมตอนนี้ยังไล่นายน้อยผู้สือทอดตำแหน่งประมุขวังที่แท้จริงออกไปอีก นี่จะไม่ราบรื่นเกินไปหน่อยรึ?” สีหน้าท่าทางของไป๋หรงมิดขรึมลงทันทีพร้อมชี้นิ้วด่าเย่หยวนว่า “ไอ้เด็กเหลือขอ พล่ามเรื่องไร้สาระไปเรื่อย! เจ้าเชื่อหรือไม่ว่า เราชายชราผู้นี้สามารถฉีกปากเจ้าทิ้งได้?!”

แต่เย่หยวนกลับมิได้สนใจเขาแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามหันไปกล่าวกับผู้อาวุโสคนอื่นว่า “ข้าขอถามพวกท่าน ทุกคนเพียงประโยคเดียวเท่านั้น หากกล่าวกันตามจริง ใครคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามจารีตประเพณีที่สืบต่อกันมาของวังเทวะราติกาลฉายที่สุด? คนๆ นั้นมิใช่นายน้องที่ถูกรับเลือกโดยท่านประมุขวังคนก่อนโดยตรงอย่างไป๋เฉินหรอกรึ?”

ผู้อาวุโสทั้งหลายสบตากันไปมา ทันใดนั้นมีคนหนึ่งกล่าวขึ้นทันทีว่า “ถูกต้องตามที่เจ้ากล่าวทุกประการ! ตามกฎที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของวังเทวะรัตติกาลฉายได้บัญญัติไว้ว่า นายน้อยคือผู้สืบทอดลำดับแรกในบรรดาทั้งหมด! แต่เพียงว่า…” ผู้อาวุโสคนนั้นคล้ายว่าพยายามจะกล่าวต่อ แต่กลับถูกเย่หยวนกล่าวแทรกขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

“เช่นนั้นก็ดี! พวกท่านทุกคนเป็นสมาชิกสภาอาวุโส ดังนั้นก็ควรรักษาจารีตประเพณีเอาไว้มิใช่เปลี่ยนแปลงตามใจชอบ! ถึงเขายังเด็กอ่อนด้อยประสบการณ์ แต่พวกท่านทราบได้อย่างไรว่า เขาจะไม่สามารถรับผิดชอบหน้าที่อันสำคัญนี้ได้? หรือพวกท่านมีตาทิพย์เห็นอนาคตกัน?”

เหล่าผู้อาวุโสที่ได้ฟังเหตุผลเช่นนี้ต่างก็พยักหน้าโดยไร้ซึ่งคำคัดค้านใด สุดท้ายนี้ทุกคนจำต้องมีการเริ่มต้น ประสบการณ์สั่งสมขึ้นได้จากครั้งแรกเสมอ และพวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า นายน้อยผู้ไร้ประสบการณ์คนนี้ ในวันข้างหน้าอาจกาลยเป็นประมุขวังที่มีวิสัยทัศน์กว้างขวางก็เป็นได้

เย่หยวนกล่าวต่ออย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ข้าขอสนับสนุนไป๋เฉินให้ขึ้นเป็นประมุขวังคนต่อไปในนามของอาจารย์! หากผู้ใดมีข้อกังขาหรือเห็นต่างก็จงก้าวออกมาสู้กับข้าได้เลย! เชิญ!”

อวดดีและหยาบคาบเกินไป! กลยุทธ์แผนการใดๆล้วนแต่เป็นเสือกระดาษต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริง! เพียงว่าเมื่อได้ฟังคำกล่าวนี้ของเย่หยวน ทุกคนล้วนแล้วแต่เห็นเป็นเรื่องตลก เพราะไม่ว่าอย่างไร เย่หยวนก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

แม้แต่ไป๋เฉินในยามนี้ยังต้องเหงื่อตกเช่นกัน ไป๋ซิ่วผู้นี้เป็นถึงเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นปลาย ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าท่านอาจารย์เย่หลายขุม แต่เขาพยายามสงบสติอารมณ์ลงโดยไว ไป๋เฉินไม่ต้องการทำให้ท่านอาจารย์ของเขาเสียหน้าเช่นนี้แน่นอน

คู่ดวงเนตรของไป๋ซิ่วหรี่แคบลงเล็กน้อย แรงกดดันแห่งอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นปลายหอบใหญ่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ เขากล่าวขึ้นพร้อมน้ำเสียงทุ้มต่ำสุดหยั่งลึกว่า “ความหมายของเจ้าคือ…ต้องการให้ข้าท้าทายเจ้า?”

เย่หยวนเค้นเสียงหึคำหนึ่งและกล่าวว่า “ไม่ใช่ท่าน แต่เป็นพวกท่านทุกคน โจมตีพร้อมกันทีเดียวจะได้ไม่ต้องเสียเวลา!”

“อวดดีนัก!”

“โง่งมสิ้นดี!”

“หยิ่งผยอง!”

ในท้ายที่สุดนี้ความเย่อหยิ่งของเย่หยวนก็ไปกระตุ้นโทสะของเหล่าผู้อาวุโสทุกคนจนเดือดดาล

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า “หุบปากแล้วเข้ามา!”

ไป๋ซิ่วค่อยๆลุกขึ้นและก้าวแช่มเดินเข้ามาใกล้พลางแสยะยิ้มแสนเย็นชากล่าวว่า “หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ตำแหน่งประมุขวังจะเป็นของไป๋เฉินโดยไม่มีข้อแม้ใดอีก ว่าอย่างไร?”

เนื่องจากท่านประมุขวังคนก่อนไม่อยู่แล้ว ดังนั้นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ก็คือไปซิ่ว หากเอาชนะไป๋ซิ่วได้ ก็แสดงว่าทอดสายตาทั่ววังเทวะรัตติกาลฉายแห่งนี้คบไม่มีใครเป็นคู่มือได้อีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ