แสงคมดาบพุ่งทะลวงตัดฟ้าดิน พิฆาตอสูรปีศาจโลกันตร์ขาดครึ่งท่อน บูมมม!
ในเวลาเดียวกันพลันได้ยินเสียงกระแทกดังปัง ร่างเย่หยวนถูกสงบินออกไปโดยตรง
“พร๊วดดด!”
เย่หยวนกระอักเลือดสดคำโต แต่ไม่ช้าแช่มรอเร่งปรับตำแหน่งการยืนทันทีกลางอากาศ ก่อนจะกลับเข้ากลุ่มขบวนป้องกัน กลางเวหาสูง เย่หยวนปลดปล่อยคมดาบออกไปหลายสิบเล่มเพื่อตัดทะลวงอสูรปีศาจเหล่านั้น
“ท่านอาจารย์เย่!”
ดวงตาของไป๋เฉินแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำขณะตะโกนร้องเรียกลั่น หาใช่เพราะเย่หยวนช่วยสกัดเอาไว้ทันท่วงที เกรงกว่าไป๋เฉินต้องตายไปแล้วแน่นอน
“ข้าสบายดี! เจ้าพวกนี้เร็วเกินไป ระวังตัว!” เย่หยวนกล่าวเสียงเคร่งขรึม
เย่หยวนรู้สึกดังว่า เลือดภายในร่างกายกำลังเดือดปะทุขึ้นมา ยามนี้พลังปราณภายในกายชักพาสู่สถานการณ์โกลาหล โชคยังดีที่ร่างกายเนื้อของเขาได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก และวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้อยังเป็นเคล็ดสมบัติศักดิ์สิทธิ์กายาเต่าดำ ดังนั้นพลังป้องการจึงสูงลิบลิวประดุจปราการเหล็กกล้าชั้นหนา ผลกระทบเพียงครั้งเดียวไม่สามารถสร้างความเสียหายขั้นร้ายแรงให้แก่เย่หยวนได้เลย
ไป๋เฉินขบกรามแน่น มากอารมณ์เอาแต่ตำหนิตนเองไปมา
“ใครบอกกันว่าผู้รุกรานต่างแดนล้วนเลวทรามต่ำช้ากัน?! ท่านอาจารย์ของข้าให้ความสำคัญในมิตรภาพยิ่งกว่าชีวิตของตนเสียอีก! เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่า ท่านอาจารย์เย่คุณธรรมสูงส่งกว่าคนของแดนนภาบรรพตไม่รู้กี่เท่า! ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ข้าอ่อนแอเกินไป! ข้าอยากจะแข็งแกร่งกว่านี! ข้าไม่อยากเป็นภาระของท่านอาจารย์อีกแล้ว!”
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของไป๋เฉินชุกโชนพุ่งพล่านออกมาจากร่างกาย
“ฆ่า!”
ทวนยาวของไป๋เฉินแกร่งกล้าเปี่ยมพลังอย่างไรที่ติ พร้อมทะลวงโจจมตีฝ่าด้านหน้าไม่มีปรานี ในกรณีนี้ คล้ายว่าไป๋เฉินได้บรรลุรู้แจ้งอะไรบางอย่างภายในใจ เพราะแต่เดิมเขาไม่สามารถไล่กวดอสูรปีศาจโลกันตร์ได้เลย ทว่ายามนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละเรื่อง!
ปลายทวนควงสะบัด ชักช้าแปรควงทะลวงเจาะด้วยความเร็วเต็มสูบ
บูมมม!
กระบวนทวนเข้าพิฆาตอสูรปีศาจโลกันตร์ดับไม่เหลือ!
มือของเย่หยวนหยุดตัวทวนเล็กน้อยก่อนจะเหวียงไปโดนคนอื่นเป็นลูกหลง เย่หยวนคลี่ยิ้มกว้างชื่นชมในตัวอีกฝ่าย
“ฮ่าๆ ในที่สุดข้าก็ทำได้!” ไป๋เฉินโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น
“ทำได้ดีมาก แต่ควรต้องระวังอีกนิด!” เย่หยวนกล่าวเตือน
สีหน้าไป๋เฉินผันเปลี่ยนดูจริงจังขึ้นหลายสวน เขาพยักหน้ารับทราบและร่ายเพลงทวนอีกกระบวนใหญ่ออกไปอีกครั้ง! ในพริบตาต่อมา พวกอสูรปีศาจนับร้อยตัวถูกซัดกระเด็นออกไปทั้งหมด บนกำแพงชั้นหินหนืดปรากฏเป็นร่องรอยหลุมมากมายโดยทั่ว
เย่หยวนเพียงคนเดียวสามารถกวาดล้างอสูรปีศาจเหล่านี้ไปได้กว่าครึ่ง มิฉะนั้นพรรคพวกของเขาคงได้รับบาดเจ็บหนักจากศึกนี้เป็นแน่
ไป๋เฉินรุกขึ้นหน้าตรงมาหาเย่หยวนพร้อมท่าทีเชิงต้องการตำหนิตนเอง เขากล่าวว่า “ท่านอาจารย์เย่ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! ที่ทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บเช่นนี้!”
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าทำได้ดีมากแล้ว! อสูรปีศาจโลกันตร์เหล่านี้หาใช่สิ่งที่เจ้าสามารถต่อกรได้เลยด้วยซ้ำในตอนนี้ แต่เจ้าแสดงให้เห็นแล้วว่า ในที่สุดเพลงทวนของเจ้าก็พัฒนาขึ้นมาก! ยินดีด้วย!”
ด้วยความแกร่งกล้าของไป๋เฉิน สกัดกั้นทำลายจังหวะของพวกมันพร้อมกันหนึ่งถึงสองตัวยังพอทำเนา แต่ระดับพลังความแกร่งกล้าของพวกมันบางตัว ทรงพลังเกือบถึงอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า แล้วนี่จะเป็นสิ่งที่เขาสามารถจัดการตามลำพังได้อย่างไร? ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ไป๋เฉินผึกปรือเพลงทวนอย่างหนัก เพื่อปรารถนาที่จะไต่ไปให้ถึงขอบเขตความสำเร็จเฉกเช่นเดียวกับเย่หยวนที่แสดงให้ดูในคราวนั้น ทั้งหมดนี้เขาย่อมอยากให้เย่หยวนได้เห็นกับตาสักครั้งโดยธรรมชาติ และในที่สุดนี้ เพลงทวนของเขาก็ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้พลังต่อสู้ของไป๋เฉินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“หุหุ เพลงดาบของผู้อาวุโสสูงสุดเย่หยวนช่างน่าประทับใจเสียจริง! การเผชิญหน้ากับพวกอสูรปีศาจโลกันตร์นับร้อยตัวเช่นนี้โดยมิให้ใครตายลงได้ นับว่าน่าทึ่งยิงนัก!”
ในเวลานั้นเอง กลุ่มคนอื่นๆก็ร่อนลงมาจากท้องเวหาสู่พื้นดิน ซึ่งเป็นฮั่นเทียนหยานคนแรกทีเอ่ยปากกล่าวเสียดสีทันที
เย่หยวนทราบดีว่าพวกเขามาถึงนานแล้ว แต่ก็ยังเฝ้าดูอยู่บนฟ้าอย่างเฉยเมย โดยไม่คิดยื่นมือมาช่วยเหลือใดๆ เลย เป็นไปได้ว่า คนพวกนี้ต้องการจะให้ฝ่ายวังเทวะรัตติกาลฉายประสบความสูญเสียและได้รับบาดเจ็บสาหัส
ภาพฉากที่ไป๋เฉินพลาดท่าจนเกือบถูกอสูรปีศาจโลกันตร์ฆ่าตาย ฮั่นเทียนหยางเองก็เฝ้ามองอยู่จากที่สูงด้วยความตื้นเต้นลุ้นระทึกยิ่ง
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงที่สุดคือ แท้จริงแล้วเย่หยวนยังคงสามารถรักษาเสถียรภาพความแข็งแกร่งของตนได้ ถึงขั้นแบ่งเวลามาช่วยชีวิตไป๋เฉินได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกัน แม้คำกล่าวนี้จะเต็มไปด้วยถ้อยคำเสียดสี แต่มันก็ยังสื่อเป็นคำชื่นชมได้อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...