“นั้นมันกลิ่นอายแห่งเต๋า! นั้นกลิ่นอายแห่งเต๋าจริงๆ! มัน…มันคือสิ่งใดกัน?”
“ข้าเองก็รู้สึกได้เช่นกัน! กลิ่นอายแห่งเต๋านี้ทั้งทรงพลังและอบอุ่น ประดุจดั่งว่าข้าได้ย้อนกลับสู่ครรภ์มารดาอีกครั้งหนึ่ง!”
“ช่างวิเศษโดยแท้! ไฉนข้ารู้สึกดั่งว่า ตรงหน้าเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง?”
…
เมื่อทุกคนเห็นผลไม้นั้น พวกเขาแต่ละคนต่างเผยท่าทีตื่นตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่
พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งเต๋าได้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่รู้จักว่าสิ่งนี้คือผลวิญญาณเต๋า!
แต่เย่หยวนรู้จัก!
“นั้นคือผลวิญญาณเต๋า! ผลวิญญาณเต๋าแห่งดินแดนนภาบรรพต! ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า จะได้พบมันที่นี่จริงๆ!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นเจือน้ำเสียงมากอารมณ์
“ผลวิญญาณเต๋า?”
ไป๋เฉินอุทานกล่าวพร้อมท่าทีแสนงุนงง
เย่หยวนยิ้มและกล่วว่า
“หากกินมันเข้าไปแล้วเจ้าจะกลายมาเป็นจักรพรรดิแห่งดินแดนนภาบรรพต เต๋าแห่งดินแดนนี้จะยอมรับเจ้าเป็นผู้ปกครองคนใหญ่ ในดินแดนแห่งนี้จะไม่มีใครไร้เทียมทานไปกว่าเจ้าอีกแล้ว! จากนั้นเจ้าจะสามารถเดินทางออกจากดินแดนเล็กๆแห่งนี้สู่มหาพิภพที่กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งกว่าได้!”
“ฟู่ววว…”
ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นต่างพากันสูดไอเย็นแช่มลึกสุดขั้วปอดด้วยความเหลือเชื่อ เจือตื่นตะลึงต่อวาจาคำกล่าวของเย่หยวน
แววตาของแต่ละคนเริ่มจับจ้องไปที่ผลวิญญาณเต๋าประดุจแผดเผามันทั้งเป็น เสมือนต้องการจะไขว่คว้ามาเป็นของตน
“หากพวกเจ้าคิดอยากแสวงหาความตายนักก็เชิญ! ข้าจะไม่ห้ามปรามใดๆ!”
เย่หยวนกล่าวเตือนเสียงเย็นชืด
เขาจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่? ใครก็ตามที่ได้ฟังดังนั้นต่างรู้สึกโลภกันทั้งสิ้น
“ผู้อาวุโสสูงสุด ท่าน…ท่านหมายความว่าอย่างไรรึ?”
เย่หยวนเอ่ยตอบทีท่าเฉยเมยว่า
“สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เจ้าคิดหรือว่าจะได้มาโดยง่าย? หากไม่เชื่อกลองดูได้ แต่ก่อนไปเลาะกระดูกมาให้พวกข้าสักชิ้น เผื่อเป็นของดูต่างหน้ายามเจ้าไม่อยู่แล้ว!”
เขาคนนี้ขนลุกซู่วเย็นสะท้านยันหนังศีรษะในทันใด เปลวเพลิงแห่งความโลภของแต่ละคนดับมอดลงในพริบตา
“เย่หยวน ภายในนั้นมีศิลาชีวิตนิจนิรันดร์อยู่ด้วย! มันอยู่ภายในเกาะนั้น!”
ทันทีทันใดหวู่เฉินโพล่งกล่าวขึ้นทันทีอย่างกระวนกระวายใจ
เย่หยวนเบิกตากว้างสว่างประกายตื่นเต้นสุดขีด
ส่วนเศษหินสีขาวน้ำนมทั่กระจัดกระจายอยู่โดยรอบเกาะ พวกมันเหล่านั้นหาใชใดอื่นนอกเสียจากศิลาชีวิตนิจนิรันดร์!
สำหรับเขาแล้วศิลาชีวิตนิจรันดร์เหล่านี้มีค่าเสียยิ่งกว่าผลวิญญาณของดินแดนนภาบรรพตเสียอีก
“ผู้อาวุโสสูงสุด ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? คงมิใช่ว่าได้แต่ยืนดูอยู่เฉยๆ?”
เย่หยวนกล่าวตอบว่า
“ด้วยสภาพตอนนี้ของข้า ข้าไม่สามารถผ่านจุดนี้ไปได้เลย! รั้งรออยู่ตรงนี้ไปก่อนจะปลอดภัยกว่า รอจนข้าจะฟื้นพลังเสร็จ”
กล่าวจบเย่หยวนก็ปลีกตัวนั่งขัดสมาธิ ณ มุมหนึ่ง และตบโอสถเข้าปาก นั่งดูดซับฤทธิ์โอสถโดยไว
เวลาค่อยๆผ่านไป ความกังวลเริ่มสั่งสมมากขึ้นต่อเนื่อง
เสน่ห์ความน่าดึงดูดของผลวิญญาณเต๋ามันแสนยั่วยวนเกินไป แม้เย่หยวนจะเอ่ยปากเตือนแล้วตาม แต่หลายต่อหลายคนในยามนี้ก็เริ่มต้านทานความโลภไม่ไหวแล้วเช่นกัน
“ทุกคนอยู่นิ่งๆอย่าขยับไปไหน! หากใครผลีผลามออกไปโดยปราศจากความยั้งคิด ก็อย่าตำหนิว่าข้าไร้ซึ่งความเมตตา!”
ไป๋ซิ่วกดเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเตือนทุกคนอีกระลอก
เขายังคงรู้สึกผิดที่ตัวเองบันดาลโทสะตบฝ่ามือใส่เย่หยวน ตราบาปยังคงสลักลึกฝังใจ
ดังนั้นคำเตือนของเย่หยวนก่อนหน้า กล่าวได้เป็นคำสั่งของจักรพรรดิหยกที่จำต้องเชื่อฟังอย่างไร้ข้อกังขา
นอกจากนี้อย่างที่เย่หยวนกล่าวไปล้วนถูกต้องแล้ว ของวิเศษระดับนี้จะได้มาโดยง่ายได้อย่างไร?
ดังนั้นเมื่อเย่หยวนบอกว่ามันอันตราย แสดงว่าหนทางเบื้องหน้าต้องอันตรายอย่างแน่นอน!
ทันทีทันใดพลังปราณเทวะในร่างเย่หยวนก็ปะทุขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
เย่หยวนเบิกตาโตทั้งสองข้าง และกรอกโอสถทั้งขวดเทเข้าปากในคราวเดียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...