แม้ว่าอาณาจักรพลังของไป๋เฉินจะยังไม่เพียงพอต่อหน้าประมุขวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์
แต่หากเป็นในดินแดนนภาบรรพต เขาคือผู้ไร้เทียมทาน!
“หื้ม?”
เพียงไป๋เฉินส่งเสียงกรนรองออกไปเล็กน้อย ก็เปรียบดั่งสายอัสนีลั่นคำรนจนทำให้ประมุขวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์ร่นถอยออกไปหลายสิบก้าวต่อกัน
มีธารเลือดไหลซิบออกมาจากมุมปากของประมุขวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์ เพียงเค้นเสียงตอบ ก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บถึงภายในได้แล้ว
“ขะ แข็งแกร่งนัก!”
“สิ่งที่ท่านประมุขวังกำลังสำแดงอยู่เป็นแค่ขุมพลังอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าเท่านั้น แต่เขากลับสามารถทำร้ายยอดเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าได้จนบาดเจ็บโดยใช้เพียงเสียง! นี่…นี่คือความแกร่งกล้าของจักรพรรดิดินแดน?”
ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างยิ่งกับวิธีการนำใช้ของไป๋เฉิน!
เหล่าผู้อาวุโสอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าที่อยู่ด้านหลังประมุขวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์ ต่างถอดสีหน้ากันยกใหญ่ เมื่อเห็นภาพฉากนี้
“นี่…เราชายชรา มู่เจี้ยนทำความเคารพท่านจักรพรรดิดินแดน!”
แม้เขาจะไม่เต็มใจอย่างยิ่งต่อการกระทำเช่นนี้ของตน แต่มู่เจี้ยนตระหนักดีว่า ความแตกต่างระหว่างตัวเขากับไปเฉินมันมากมายมหาศาลเพียงใด!
และเขาเองก็ไม่ยอมตายเช่นนี้แน่นอน!
ขณะที่เขาคุกเข่าลง เหล่าผู้อาวุโสอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าอีกเจ็ดคนที่เหลือก็เร่งคุกเข่าตามทันที
“พวกเราเจ็ดผู้อาวุโสแห่งวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์ ทำความเคารพท่านจักรพรรดิดินแดน!”
ไป๋ซิ่วดูตื่นอกตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะเร่งนำกลุ่มคนของวังเทวะรัตติกาลฉายก้มศีรษะคารวะต่อหน้าไป๋เฉินว่า
“ทำความเคารพท่านจักรพรรดิดินแดน!”
ไป่เฉินเอ่ยกลาวน้ำเสียงเย็นชืดว่า
“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป วังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์จะถูกยุบลงและไม่มีอีกต่อไป วังเทวะรัตติกาลฉายจะขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งของวังนภาบรรพตศักดิ์สิทธิ์แทน และปกครองดินแดนนภาบรรพตแห่งนี้ต่อไป!”
สายตาคู่นั้นของมู่เจี้ยนแลดูจริงจังขึ้นทันควัน และร้องอุทานขึ้นด้วยความไม่เต็มใจว่า
“ท่านจักรพรรดิ นี่…นี่…”
ไป๋เฉินเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อยและเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นสะท้านว่า
“อย่างไร? ต้องการคัดค้าน?”
สัมผัสได้ถึงจิตสังหารดุจคมมีดของไป๋เฉิน มู่เจี้ยนตื่นตระหนกยิ่งกลางใจและเร่งกล่าวตอบทันทีว่า
“มิกล้า! มู่เจี้ยนคนนี้มิกล้า!”
น้ำเสียงและท่าทีของไป๋เฉินดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อว่า
“ไป๋คนนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกในฐานะจักรพรรดิดินแดน ตราบใดที่พวกเจ้ารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เจ้าก็สามารถขอคืนตำแหน่งได้ทุกเมื่อ”
ดวงตาของมูเจี้ยนสว่างไสวขึ้นทันทีและรีบกล่าวว่า
“มู่เจี้ยนมิกล้า! ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป มู่เจี้ยนจะเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่างของท่านจักรพรรดิ ด้วยขุมกำลังที่ข้ามี จะมีเพื่อสนับสนุนวังเทวะรัตติกาลฉายต่อไปในภายภาคหน้า!”
ไป๋เฉินเค้นเสียงเป็นคำตอบอย่างแผ่วเบา และเหลียวมองไปทางเย่หยวน
ขณะเดียวกับเย่หยวนยังคงขยับขยายสายตาจับจ้องไป๋เฉินแลดูสนใจไม่น้อย หลังจากควบคุมเต๋าแห่งดินแดนนี้ได้ ท่าทางการวางตัวย่อมเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติ
ขอบเขตความรู้อันไกลโพ้นของเขามิได้อยู่ในระดับเดียวกันกับผู้คนเหล่านี้อีกต่อไป
ไป๋เฉินสะบัดแขนเสื้อยาวและคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนทันที
“ศิษย์ไป๋เฉินขอบพระคุณท่านอาจารย์เย่สำหรับความช่วยเหลือที่ผ่านมาทั้งหมด ครั้งนี้ท่านทำให้ข้าราวกับเกิดใหม่อีกครั้ง ท่านอาจารย์เย่เปรียบเสมือนท่านพ่อของดินแดนนภาบรรพตทั้งมวล ขอเพียงท่านอาจารย์ให้คำชี้แนะ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ พวกเราดินแดนนภาบรรพตยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี!”
ไป๋เฉินกล่าวขึ้นพร้อมสีหน้าท่าทีแสนจริงจังขึงขัง
พลางได้ยินคำกล่าวของไป๋เฉินเช่นนั้น สีหน้าการแสดงออกของทุกคนพลันแปรเปลี่ยนในทันใด
สถานะศักดิ์ของไป๋เฉินในปัจจุบันแตกต่างไปจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
เขาเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ หากต้องการสังหารเย่หยวนกลับทำได้โดยง่าย
แต่ไป๋เฉินเคารพนับถือเย่หยวนยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งปวง และยังยกย่องเย่หยวนในฐานะตัวตนที่อยู่เหนือหัวเขาไปอีกขั้น ถึงขนาดเรียกว่าท่านพ่อของจักรพรรดิอีกทีหนึ่ง
ขอเพียงเย่หยวนเต็มใจต้องการปรารถนาสิ่งใด ไป๋เฉินสามารถเรียกลมฟ้าลมฝนได้ทุกเมื่อในดินแดนนภาบรรพตแห่งนี้!
อย่างไรก็ตามแต่ เหล่าผู้คนพวกนี้ยังประเมินเย่หยวนต่ำเกินไป!
หากเป็นคนอื่นๆ ชีวิตและความตายของพวกเขาล้วนขึ้นอยู่กับความเมตตาของไป๋เฉินแล้วในดินแดนนภาบรรพตแห่งนี้
แต่สำหรับเย่หยวนกลับไม่ใช่!
เต๋าแห่งดินแดนนภาบรรพตเป็นเพียงส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของหุบเขาถงเทียนแห่งมหาพิภพถงเทียนเท่านั้น
เย่หยวนที่สามารถควบคุมหุบเขาถงเทียนจำลองได้ ย่อมมิได้ด้อยกว่าผู้ควบคุมเต่าแห่งดินแดนนภาบรรพตเลย
หากไป๋เฉินมีเจตนาชั่วจริงๆ เย่หยวนย่อมพึ่งพาพลังของหุบเขาถงเทียนจำลองเพื่อขึ้นต่อกรได้แน่นอน
นอกจากนั้นยังกล่าวได้ว่า เย่หยวนก็อยู่ในระดับชั้นเดียวกับไป๋เฉินเช่นกัน
ในสายตาของเย่หยวน ไป๋เฉินก็เป็นแค่เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าธรรมดาคนหนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...