จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1456

สรุปบท ตอนที่ 1456: จอมเทพโอสถ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1456 – จอมเทพโอสถ โดย Internet

บท ตอนที่ 1456 ของ จอมเทพโอสถ ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1456 ขุมพลังที่แท้จริงของตระกูลฉิน
ตอนที่ 1456 ขุมพลังที่แท้จริงของตระกูลฉิน
โดย
Ink Stone_Fantasy
“เย่หยวน เจ้ากล้าก่อโศกนาฏกรรมต่อหน้าสาธารณชนบนพื้นถนนได้อย่างไร?!”

เสียงคำรามกู่ลั่นจากทางไกล ฉินเทียนหนานพุ่งกระโจนเข้าใส่เขาราวกับหมาบ้า

กลิ่นอายแห่งขุมพลังอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเข้าครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ พลังวิญญาณโดยรอบไร้เสถียรกระเพื่อมสั่นไหว

เขาเห็นว่าเย่หยวนอยู่ตัวคนเดียว เช่นนั้นจึงหวังเร่งตัดตอนรวบฆ่าเย่หยวนทันทีในอึดใจ กระบวนจู่โจมถาโถมดุจสายฟ้าแทบไม่มีโอกาสให้ปิดหู

หากฆ่าเย่หยวนที่อยู่นอกอาณาเขตหอมหาสมบัติได้ นี่เท่ากับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวพันอันใดกับหอมหาสมบัติเช่นกัน

เย่หยวนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่ร่างของเขาจะเหาะลอยขึ้นฟ้าไป

ฉินเทียนหนานเปรียบเสมือนเสืออันหิวโหยที่กำลังตะครุบเหยื่อ แต่น่าเสียดายที่พลาดไป

เย่หยวนทราบดีว่า ด้วยวิชาขี่ดาบนี้ ทำให้เขายืนอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใดก็ไม่อาจโจมตีเขาโดยได้

ทอดสายตาเสาะหาภายในเมืองหลวงหวูเมิ่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสัมผัสตัวเขาได้

เย่หยวนยืนตระหง่านนิ่งบนท้องนภาอย่างภาคภูมิและกล่าวสีหน้าเจือรังเกียจว่า

“ฉินเทียนหนาน กลับเป็นตระกูลฉินของเจ้าที่เป็นฝ่ายแหกกฎก่อน! เย่คนนี้เข้าร่วมงานชุมนุมร้อยเมือง ในขณะที่เจ้าส่งเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าและพรรคพวกตามล่าข้า แต่สุดท้ายกลับล้มเหลว เรื่องนี้ข้าทนได้! แต่คราวล่าสุด ข้าได้ออกไปทพภารกิจนอกดินแดน เจ้ากลับฝ่าฝืนกฎส่งฉินเทียนไปตามล่าข้า ทั้งยังส่งสมาชิกตระกูลฉินวางแผนชั่วดักทำร้ายพี่ชายข้าจนพิการ!”

เสียงของเย่หยวนในปัจจุบันเปรียบดั่งระฆังยักษ์กึกก้องทั่วมุมเมือง ผู้คนทั่วท้องถนนที่ได้ยินต่างระเบิดความโกลาหลขึ้นในทันใด

“พวกตระกูลฉินนี่มากเกินไปแล้ว ใช้กำลังรังแกผู้อ่อนแอกว่า แถมยังใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนี้ลอบทำร้ายศิษย์ของสถานศึกษา”

“ที่เมืองหลวงหวูเมิ่งได้รับชัยชนะจากงานชุมนุมร้อยเมืองครั้งนี้ ทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้เย่หยวน จนทำให้ท่านเจ้าเมืองได้รับรางวัลเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์สี่ดาว ทว่าคนพวกนี้กลับใช้วิธีสกปรกจัดการกับเย่หยวน ใจคอพวกมันทำด้วยอะไรกัน!”

“เหอะ ตระกูลฉินมีอำนาจบาตใหญ่ ปกคลุมท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียว แต่ท่านเจ้าเมืองกลับนิ่งเฉยไม่ยอมออกมาแทรกแซงช่วยเหลือ สิ่งนี้น่าผิดหวังที่สุดแล้ว”

ตระกูลฉินเห็นแก่ตัวทั้งยังเอาแต่ใจตนเองมานานหลายปีแล้ว จึงมีหลายต่อหลายคนที่รู้สึกไม่พอใจเป็นทุนเดิม

ยิ่งได้ฟังคำกล่าวของเย่หยวน ยิ่งไปกระตุ้นความเกลียดชังในใจของสาธารณชนเข้าไปใหญ่ ผู้คนจำนวนมากต่างคาดเดาพฤติกรรมของตระกูลฉินได้ทันที

อย่างไรก็ตามแต่ ฉินเทียนหนานกลับหาได้ใส่ใจฟังเรื่องพวกนี้เลย สายตาของเขาจ้องเย่หยวนเขม็งและเอ่ยน้ำเสียงขรึมว่า

“เจ้าเจอเทียนเอ่อแล้วจริงๆ! ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”

เย่หยวนแสยะยิ้มกล่าวว่า

“คิดว่าอย่างไร? ข้ากลับมาแต่เขากลับหายสาบสูญ ยังไม่รู้สึกตัวอีกรึ?”

“เป็นไปไม่ได้! ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าจะฆ่าเทียนเอ๋อได้อย่างไร?”

ฉินเทียนหยานคำรามลั่น

เขาเก็บซ่อนความหวังไว้ลึกๆมาโดยตลอดว่า ฉินเทียนอาจจะล่าช้าเพราะติดปัญหาอะไรบางอย่างเท่านั้น

ทว่าตอนนี้เย่หยวนกลับเอ่ยปากพูดออกมาเอง แน่นอนว่าฉินเทียนหนานทำใจเชื่อไม่ลงแน่นอน และพลางคิดไปว่า เย่หยวนจงใจยั่วโทสะเขาเสียมากกว่า

เย่หยวนยิ้มเยาะเล็กน้อยและกล่าวเสียงเย็นว่า

“ในความเห็นของเจ้าคิดว่าอย่างไร? ข้าสังหารหลินซิ่งกับฉินเจิ้ง ทั้งยังพวกที่เหลือได้ภายในเศษเสี้ยวเวลา ความจริงก็คือความจริง พวกของเจ้าได้ตายสิ้นแล้ว!”

คล้อยหลังได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ สีหน้าของฉินเทียนหนานพลันซีดขาวสลดในทันใด ความหวังสุดท้ายที่เขารั้งได้ถูกเย่หยวนสะบั้นขาดสิ้นแล้ว

“ฉินเทียนตายแล้วจริงๆ! สวรรค์! เย่หยวนทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”

“ฟังว่าฉินเทียนระงับระดับพลังของตนมานานมากแล้ว ตราบใดที่เขาพอใจ ย่อมสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าได้ทุกเมื่อ! เย่หยวนคนนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ!”

“แม้ว่าหลินซิ่งจะเป็นที่รู้จักในนามอันดับสองของสถานศึกษา ทว่านางก็อยู่ต่างระดับจากความแกร่งกล้าของฉินเทียนโดยสิ้นเชิง!”

“ตอนนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว! เหล่าเยาวชนเสาหลักที่แกร่งกล้าที่สุดแห่งตระกูลฉิน ล้วนถูกเย่หยวนเด็ดหัวจนเกลี้ยง!”

ฉินเทียนได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งแห่งสถานศึกษาหวูเมิ่งมานานหลายร้อยปีแล้ว เขาได้รับยกย่องว่าเป็นบุคคลที่มีโอกาสสูงสุดที่จะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ในรอบหนึ่งแสนปี ความแกร่งกล้าเขาเป็นอย่างไรสามารถเห็นได้ในทันที

แต่ยอดอัจฉริยะระดับชั้นนั้นยังต้องตายลงด้วยเงื้อมมือของเย่หยวน!

ในเงื้อมมือของเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้นเท่านั้น!

ผลลัพธ์เช่นนี้ต่างไม่มีใครคาดถึง

แต่สิบปีผ่านไป เย่หยวนเป็นเพียงคนเดียวที่กลับมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงความเป็นไปได้มากมาย

และหนึ่งในความเป็นไปได้ที่มีโอกาสสูงสุดคือ ฉินเทียนน่าจะตายลงแล้ว!

“เด็กเด็กน้อยผู้เย่อหยิ่ง กล้าปีนเกลียวขึ้นศีรษะตระกูลฉินของข้าเชียวรึ?!”

ในเวลานั้นเอง รัศมีแรงกดดันอันไร้เทียมทานพลันปะทุขึ้นสู่ท้องนภากลางฝูงชน กลิ่นอายสุดน่าสะพรึงเข้าจับตัวเย่หยวนไว้ในทันที

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้เย่หยวนไม่สามารถป้องกันได้โดยสมบูรณ์

ท่ามกลางฝูงชนของตระกูลฉิน ปรากฏร่างหนึ่งเหาะทะยานออกมา!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั้นคือท่านบรรพบุรุษของตระกูลฉิน!

“เย่หยวนเป็นอาคันตุกะนักหลอมโอสถของหอมหาสมบัติ เจ้าหรือมีสิทธิ์แตะต้องคนของข้า?”

สีหน้าการแสดงออกของฉินจ้าวหยุนมืดลงทันใด เขากล่าวน้ำเสียงขรึมว่า

“เด็กคนนี้ฆ่าทั้งเทียนเอ๋อ เจิ้งเอ๋อและเป่ยเอ๋อ มันไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกับตระกูลฉินได้! ข้าไม่สนอะไรทั้งนั้น หากเจ้ากล้าปกป้องมันในวันนี้ เราชายชราเองก็กล้าฆ่ามันเช่นกัน!”

เห็นได้ชัดว่า ยามนี้ฮินจ้าวหยุนบ้าดีเดือดไปกันใหญ่แล้ว ตั้งแต่ได้ยินว่าฉินเทียนถูกฆ่าตาย

เมื่อห่านเทียนได้ยินเช่นนั้นจึงกรนเสียงเย็นสะท้านตอกว่า

“อาศัยเพียงเจ้า?”

ความแกร่งกล้าของเขาก็ไม่มากไม่น้อยเช่นกัน แค่ฉินจ้าวหยุนคนเดียวทำอะไรเขาไม่ได้แน่

แล้วจะไปฆ่าเย่หยวนได้อย่างไร?

ทว่าใครจะไปทราบว่า ฉินจ้าวหยุนกลับตะคอกเสียงเย็นชากลับไปว่า

“ห่านเทียน เจ้ากำลังประเมินความแข็งแกร่งของตระกูลฉินต่ำเกินไป!”

สีหน้าการแสดงออกของห่านเทียนแปรเปลี่ยนไปทันที กองทหารจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่มาจากไหนมิทราบ เข้าปิดล้อมทั่วทั้งถนนทุกสายทันที

ทันทีทันใดรัศมีกลิ่นอายอันไร้เทียมทานอีกขุมหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ร่างหนึ่งสวมชุดเกราะเต็มยศสีดำทมิฬเหาะทะยานขึ้นมา

“ท่านประมุขหอห่าน หอมหาสมบัติกับเมืองหลวงหวูเมิ่งก็แบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันอยู่เสมอ ต่างฝ่ายตรงสุขใจ แล้วไฉนต้องแตกหักเพียงเพราะเด็กคนหนึ่ง?”

ผู้ที่ส่งเสียงเอ่ยกล่าวขึ้นมาคือ แม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงจ่าวอี้!

จ่าวอี้คนนี้เองก็เป็นยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้นเช่นกัน!

การปรากฏตัวของคนๆนี้ ได้เพิ่มแรงกดดันให้แก่ห่านเทียนอย่างมหาศาล

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น!

ทันทีทันใด กลับมีรัศมีแรงกดดันอีกหนึ่งพุ่งทะยานเสียดนภาสูงขึ้นมา หยุดอยู่ข้างกายฉินจ้าวหยุน หันหน้าเข้าเผชิญกับห่านเทียน

ยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าอีกคนหนึ่ง!

เพียงว่าสีหน้าของเขาคนนี้ค่อนข้างรวนเรซับซ้อน พร้อมทอดสายตามองเย่หยวนด้วยความสงสาร

เขาคนนี้มิใช่ใดอื่นนอกเสียจาก อาจารย์ใหญ่แห่งสถานศึกษาหวูเมิ่ง เหวินอี้หยาง!

…………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ