เสียงคำรามกู่ลั่นจากทางไกล ฉินเทียนหนานพุ่งกระโจนเข้าใส่เขาราวกับหมาบ้า
กลิ่นอายแห่งขุมพลังอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเข้าครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ พลังวิญญาณโดยรอบไร้เสถียรกระเพื่อมสั่นไหว
เขาเห็นว่าเย่หยวนอยู่ตัวคนเดียว เช่นนั้นจึงหวังเร่งตัดตอนรวบฆ่าเย่หยวนทันทีในอึดใจ กระบวนจู่โจมถาโถมดุจสายฟ้าแทบไม่มีโอกาสให้ปิดหู
หากฆ่าเย่หยวนที่อยู่นอกอาณาเขตหอมหาสมบัติได้ นี่เท่ากับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวพันอันใดกับหอมหาสมบัติเช่นกัน
เย่หยวนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่ร่างของเขาจะเหาะลอยขึ้นฟ้าไป
ฉินเทียนหนานเปรียบเสมือนเสืออันหิวโหยที่กำลังตะครุบเหยื่อ แต่น่าเสียดายที่พลาดไป
เย่หยวนทราบดีว่า ด้วยวิชาขี่ดาบนี้ ทำให้เขายืนอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใดก็ไม่อาจโจมตีเขาโดยได้
ทอดสายตาเสาะหาภายในเมืองหลวงหวูเมิ่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสัมผัสตัวเขาได้
เย่หยวนยืนตระหง่านนิ่งบนท้องนภาอย่างภาคภูมิและกล่าวสีหน้าเจือรังเกียจว่า
“ฉินเทียนหนาน กลับเป็นตระกูลฉินของเจ้าที่เป็นฝ่ายแหกกฎก่อน! เย่คนนี้เข้าร่วมงานชุมนุมร้อยเมือง ในขณะที่เจ้าส่งเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าและพรรคพวกตามล่าข้า แต่สุดท้ายกลับล้มเหลว เรื่องนี้ข้าทนได้! แต่คราวล่าสุด ข้าได้ออกไปทพภารกิจนอกดินแดน เจ้ากลับฝ่าฝืนกฎส่งฉินเทียนไปตามล่าข้า ทั้งยังส่งสมาชิกตระกูลฉินวางแผนชั่วดักทำร้ายพี่ชายข้าจนพิการ!”
เสียงของเย่หยวนในปัจจุบันเปรียบดั่งระฆังยักษ์กึกก้องทั่วมุมเมือง ผู้คนทั่วท้องถนนที่ได้ยินต่างระเบิดความโกลาหลขึ้นในทันใด
“พวกตระกูลฉินนี่มากเกินไปแล้ว ใช้กำลังรังแกผู้อ่อนแอกว่า แถมยังใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนี้ลอบทำร้ายศิษย์ของสถานศึกษา”
“ที่เมืองหลวงหวูเมิ่งได้รับชัยชนะจากงานชุมนุมร้อยเมืองครั้งนี้ ทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้เย่หยวน จนทำให้ท่านเจ้าเมืองได้รับรางวัลเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์สี่ดาว ทว่าคนพวกนี้กลับใช้วิธีสกปรกจัดการกับเย่หยวน ใจคอพวกมันทำด้วยอะไรกัน!”
“เหอะ ตระกูลฉินมีอำนาจบาตใหญ่ ปกคลุมท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียว แต่ท่านเจ้าเมืองกลับนิ่งเฉยไม่ยอมออกมาแทรกแซงช่วยเหลือ สิ่งนี้น่าผิดหวังที่สุดแล้ว”
…
ตระกูลฉินเห็นแก่ตัวทั้งยังเอาแต่ใจตนเองมานานหลายปีแล้ว จึงมีหลายต่อหลายคนที่รู้สึกไม่พอใจเป็นทุนเดิม
ยิ่งได้ฟังคำกล่าวของเย่หยวน ยิ่งไปกระตุ้นความเกลียดชังในใจของสาธารณชนเข้าไปใหญ่ ผู้คนจำนวนมากต่างคาดเดาพฤติกรรมของตระกูลฉินได้ทันที
อย่างไรก็ตามแต่ ฉินเทียนหนานกลับหาได้ใส่ใจฟังเรื่องพวกนี้เลย สายตาของเขาจ้องเย่หยวนเขม็งและเอ่ยน้ำเสียงขรึมว่า
“เจ้าเจอเทียนเอ่อแล้วจริงๆ! ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
เย่หยวนแสยะยิ้มกล่าวว่า
“คิดว่าอย่างไร? ข้ากลับมาแต่เขากลับหายสาบสูญ ยังไม่รู้สึกตัวอีกรึ?”
“เป็นไปไม่ได้! ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าจะฆ่าเทียนเอ๋อได้อย่างไร?”
ฉินเทียนหยานคำรามลั่น
เขาเก็บซ่อนความหวังไว้ลึกๆมาโดยตลอดว่า ฉินเทียนอาจจะล่าช้าเพราะติดปัญหาอะไรบางอย่างเท่านั้น
ทว่าตอนนี้เย่หยวนกลับเอ่ยปากพูดออกมาเอง แน่นอนว่าฉินเทียนหนานทำใจเชื่อไม่ลงแน่นอน และพลางคิดไปว่า เย่หยวนจงใจยั่วโทสะเขาเสียมากกว่า
เย่หยวนยิ้มเยาะเล็กน้อยและกล่าวเสียงเย็นว่า
“ในความเห็นของเจ้าคิดว่าอย่างไร? ข้าสังหารหลินซิ่งกับฉินเจิ้ง ทั้งยังพวกที่เหลือได้ภายในเศษเสี้ยวเวลา ความจริงก็คือความจริง พวกของเจ้าได้ตายสิ้นแล้ว!”
คล้อยหลังได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ สีหน้าของฉินเทียนหนานพลันซีดขาวสลดในทันใด ความหวังสุดท้ายที่เขารั้งได้ถูกเย่หยวนสะบั้นขาดสิ้นแล้ว
“ฉินเทียนตายแล้วจริงๆ! สวรรค์! เย่หยวนทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”
“ฟังว่าฉินเทียนระงับระดับพลังของตนมานานมากแล้ว ตราบใดที่เขาพอใจ ย่อมสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าได้ทุกเมื่อ! เย่หยวนคนนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ!”
“แม้ว่าหลินซิ่งจะเป็นที่รู้จักในนามอันดับสองของสถานศึกษา ทว่านางก็อยู่ต่างระดับจากความแกร่งกล้าของฉินเทียนโดยสิ้นเชิง!”
“ตอนนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว! เหล่าเยาวชนเสาหลักที่แกร่งกล้าที่สุดแห่งตระกูลฉิน ล้วนถูกเย่หยวนเด็ดหัวจนเกลี้ยง!”
…
ฉินเทียนได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งแห่งสถานศึกษาหวูเมิ่งมานานหลายร้อยปีแล้ว เขาได้รับยกย่องว่าเป็นบุคคลที่มีโอกาสสูงสุดที่จะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ในรอบหนึ่งแสนปี ความแกร่งกล้าเขาเป็นอย่างไรสามารถเห็นได้ในทันที
แต่ยอดอัจฉริยะระดับชั้นนั้นยังต้องตายลงด้วยเงื้อมมือของเย่หยวน!
ในเงื้อมมือของเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นต้นเท่านั้น!
ผลลัพธ์เช่นนี้ต่างไม่มีใครคาดถึง
แต่สิบปีผ่านไป เย่หยวนเป็นเพียงคนเดียวที่กลับมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงความเป็นไปได้มากมาย
และหนึ่งในความเป็นไปได้ที่มีโอกาสสูงสุดคือ ฉินเทียนน่าจะตายลงแล้ว!
“เด็กเด็กน้อยผู้เย่อหยิ่ง กล้าปีนเกลียวขึ้นศีรษะตระกูลฉินของข้าเชียวรึ?!”
ในเวลานั้นเอง รัศมีแรงกดดันอันไร้เทียมทานพลันปะทุขึ้นสู่ท้องนภากลางฝูงชน กลิ่นอายสุดน่าสะพรึงเข้าจับตัวเย่หยวนไว้ในทันที
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้เย่หยวนไม่สามารถป้องกันได้โดยสมบูรณ์
ท่ามกลางฝูงชนของตระกูลฉิน ปรากฏร่างหนึ่งเหาะทะยานออกมา!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั้นคือท่านบรรพบุรุษของตระกูลฉิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...