จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1489

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1489 มาแล้วจากไปเพื่ออันใด?
ตอนที่ 1489 มาแล้วจากไปเพื่ออันใด?
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ท่านไคซิน โปรดรอก่อน!”

ไคซินพาเหลียนฮวาเข้ามาในโถงโอสถปีศาจ แต่ทันทีทันใดพวกเขากลับถูกหยุดโดยนนักปรุงโอสถปีศาจระดับหนึ่ง

แม้ว่าสถานะของไคซินจะสูงมากภายในเมืองหลวงแห่งนี้ แต่ภายในโถงโอสถปีศาจแห่งนี้เอง เขาก็ไม่กล้ารั้นเอาแต่ใจเช่นกัน

“อ่า พี่หลู่เหอ ข้านัดหมายกับท่านเมิ่งฉีเมื่อสิบวันก่อน และมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดคุยกับเขา”

ไคซินประสานมือให้พลางเอ่ยกล่าว

แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงนักปรุงโอสถปีศาจระดับหนึ่ง แต่เขาก็เป็นหนึ่งศิษย์ของท่านเมิ่งฉี เช่นนั้นแล้ว คนสถานะศักดิ์ทั่วไปมิอาจก้าวก่ายได้

หลู่เหอกล่าวว่า

“ต้องขออภัยท่านไคซินจริงๆ ตอนนี้ท่านอาจารย์กำลังพบกับอาคันตุกะคนสำคัญในโถงชั้นใจ และเขาได้สั่งไว้ว่าห้ามผู้ใดเข้าไปรบกวนเด็ดขาด!”

ไคซินขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า

“แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีข้องดเว้นงั้นรึ? ข้ามาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของตำหนักเจ้าเมือง หาใช่เรื่องไม่สำคัญเช่นกัน! นอกจากนี้ข้านัดหมายกับเขาไว้แล้วเมื่อสิบวันก่อน”

“เอ่อ…”

สีหน้าของหลู่เหอยามนี้ดูลำบากใจจริงๆ สถานะของไคซินเองก็หาใช่ชนชั้นกินเจไม่

ยิ่งไปกว่านั้นไคซินที่มาในคราวนี้หาได้มาในฐานะตัวเขาเอง แต่เป็นในฐานะตำหนักเจ้าเมือง

แม้ว่าโถงโลหิตปรโลกจะหาได้เกรงกลัวตำหนักเจ้าเมือง แต่หาใช่ว่าจะไว้หน้ากัน

“เหตุใด…ไม่เป็นการดีกว่ารึ หากพี่หลู่เหอจะส่งทอดต่อคำพูดของข้าไปให้ท่านเมิ่งฉี บางทีเขาอาจจะเข้าใจและไม่ไล่ข้าไปเช่นนี้”

ไคซินประสานมือกล่าวตอบ

หลู่เหอครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้ากล่าวตอบว่า

“เข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะลองไปถามท่านอาจารย์ดู”

ขณะที่หลู่เหอเหลียวหลังจากไป เหลียนฉวายิ้มกล่าวขึ้นว่า

“สงสัยเหลือเกินว่าท่านเมิ่งฉีพบเจอผู้ใดเข้า ไฉนถึงละเลยเรื่องของเราไปสนิท”

ไคซินยิ้มตอบว่า

“การที่ปฏิเสธเรื่องของเราตั้งแต่นอกประตูได้ เกรงว่าอาคันตุกะคนสำคัญนั้นอาจเป็นนักปรุงโอสถปีศาจระดับสาม”

เหลียนฮวาพยักหน้าอย่างค่อนข้างเห็นด้วยกับเรื่องนี้

และบังเอิญนัก ฟางอวี้เองก็ตรงเข้ามาในโถงโอสถปีศาจเช่นกันในเวลานี้

พอเห็นไคซินและเหลียนฉวา ฟางอวี้พลันใจสั่นระรัวแอบสังหรณ์ไม่ดีขึ้นทันใด

โถงโอสถปีศาจกำลังจะเปิดตัวโอสถชนิดใหม่ขึ้นเร็วๆนี้ และพวกเขาล้วนต้องการโอสถชนิดนี้ในปริมาณที่สูงมาก ดังนั้นเหล่ากลุ่มอำนาจต่างๆจึงไม่คิดรีรอชักช้า

ในบรรดากลุ่มอิทธิพลที่จ้องฉกชิงไปก่อนและยังเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดคือ ตำหนักเจ้าเมือง

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเมิ่งฉีและคนอื่นๆจะไม่ต่างจากกองขยะเลยในสายตาเย่หยวน แต่โอสถที่ผลิตขึ้นนี้ล้วนได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองหลวงคาโปน

ภายในเผ่าปีศาจมีนักปรุงโอสถปีศาจเก่งๆอยู่จำนวนน้อยนิด

ตำหนักเจ้าเมืองได้รับข่าวเรื่องโอสถชนิดใหม่มานานแล้ว ดังนั้นไคซินจึงนัดหมายกับเมิ่งฉีตั้งแต่สิบวันก่อนเพื่อพบพานในวันนี้

ไคซินยิ้มกว้างประดับใบหน้าทันที ขณะกล่าวว่า

“หุหุ น้องฟางอวี้ เกรงว่าเจ้ามาช้าไปเสียหน่อย ท่านเมิ่งฉีไม่พบแขกอื่นแล้วในวันนี้”

สีหน้าการแสดงออกของฟางอวี้บิดเบี้ยวน่าเกลียดยิ่ง พร้อมเอ่ยเสียงเยียบเย็นว่า

“ตำหนักเจ้าเมืองของท่านได้กินเนื้อสด ไยไม่ทิ้งน้ำแกงให้คนอื่นดื่มกิน? คราวนี้ตระกูลฟางขอสู้กับท่านอย่างจริงจัง!”

ไคซินระเบิดหัวเราะและกล่าวว่า

“เหอะ ข้ากำลังจะเข้าไปจัดการธุระเรื่องนี้กับท่านเมิ่งฉี แล้วเจ้ายังมีอะไรมาต่อกร? ฮ่าๆ หากต้องการสู้นัก คราวนี้ก็ควรมาให้ไวกว่านี้”

กล้ามเนื้อเส้นประสาทบนใบหน้าของฟางอวี้กระตุกเกร็งไปหมด ยามนี้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความพ่ายแพ้

รากฐานของสี่ตระกูลใหญ่ยังคงตื้นเขินกว่ามาก เมื่อเทียบกับฝ่ายตำหนักเจ้าเมือง!

มีทั้งเงินและอำนาจ ทุกครั้งที่มีโอสถชนิดใหม่ออกมา พวกเขาล้วนเสนอราคาที่สูงกว่าปกติถึงสามส่วน แล้วนี่จะไปแข่งขันด้วยได้อย่างไร?

ในขณะนั้นเอง หลู่เหอก็เดินออกมาจากโถงภายในด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างน่าเกลียดนัก

เมื่อไคซินที่กำลังยืนรออยู่ ภายในใจหลู่เหอพลันสั่นระรัวโดยมิตั้งใจ

“พี่หลู่เหอ ท่านเมิ่งฉีกล่าวอย่างไรบ้าง?”

ไคซินเอ่ยถามขึ้นทันที

หลู่เหอกล่าวตัดพ้อว่า

“ท่านไคซินโปรดกลับมาใหม่! ข้าต้องขออนุญาตให้ท่านกลับไปก่อนในวันนี้ แต่ท่านก็ยังดึงดัน! จนเมื่อครู่ข้าถูกท่านอาจารย์ดุด่าไปยกใหญ่ เท่านี้ท่านพอใจหรือยัง?”

เห็นได้ชัดว่า หลู่เหอเองก็ไม่เกรงใจเช่นกัน

ดูท่าจะโดนดุด่ามาไม่เบา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ