“หัวเอ๋อ เจ้าทราบหรือไม่ว่าตนกระทำการผิดพลาด?”
ชายชุดคลุมดำเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น
“เรียนนายท่าน ข้า…ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว!”
หัวเอ๋อรวนเรใจเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังยอมรับความผิดพลาดของตน
ชายชุดคลุมดำค่อยๆเหลียวมองหันมาเอ่ยกล่าวน้ำเสียงชืดชาว่า
“สำหรับโถงนักฆ่าเจ้าหาได้ผิดไม่ แต่สำหรับโถงโอสถปีศาจ เจ้าทำได้ผิดพลาดอย่างมหันต์ ในตอนนี้ทั้งโถงโอสถปีศาจและโถงร้อยปัญญาต่างกดดันข้าในเวลาเดียวกัน ข้าประมุขโถงกำลังประสบปัญหาใหญ่!”
หัวเอ๋อเป็นนักฆ่าชั้นหัวแถวที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา ถึงโถงโอสถปีศาจจะเข้ามากดดัน แต่สุดท้ายเขายังคงสนับสนุนช่วยเหลือหัวเอ๋ออยู่เล็กน้อย
แต่เขาไม่คิดเลยว่า ในเวลาต่อมา แม้แต่โถงร้อยปัญญาเองจะเข้ามากดดันเขาเช่นกัน สิ่งนี้ยิ่งเพิ่มทวีความกดดันให้แก่เขาซึ่งเป็นประมุขโถงถึงสองทวีเท่า
โถงนักฆ่าโดยส่วนใหญ่มักทำเรื่องใต้ดินหรือในเงามืดและมิอาจปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะได้
ดังนั้นแล้วหน้าตาและศักดิ์ศรีของโถงโลหิตปรโลกจะขึ้นอยู่กับโถงโอสถปีศาจและโถงร้อยปัญญา
หน้าที่ของโถงนักฆ่าคือการลอบสังหาร
หัวเอ๋อในยามนี้รู้สึกหดหู่ใจถึงขีดสุด!
ตำแหน่งของเขาในโถงนักฆ่าใกล้เคียงกับตำแหน่งของเมิ่งฉีในโถงโอสถปีศาจ ดังนั้นเขาจึงไม่ฟังคำเตือนของเมิ่งฉี และยังกล่าวทิ้งท้ายเชิงท้าทายไว้ทิ้งทวน
แต่เขาไม่คาดฝันมาก่อนเลยว่า ณ ปัจจุบันกลับเป็นใบหน้าของเขาเองที่ถูกย้อนตบคืน
ชายชุดคลุมดำกวาดสายตากับจับจ้องเขาสีหน้าเมินเฉย กล่าวว่า
“เมื่อนักฆ่าทำภารกิจล้มเหลว ผลลัพธ์ที่ได้…เจ้าคงจะทราบดี”
ทั่วร่างกายาของหัวเอ๋อสั่นสะท้านหนัก แววตาที่ทอประกายเปี่ยมล้นความสิ้นหวัง
เดิมทีเขาคิดว่ามันเป็นงานใหญ่ที่สร้างเงินให้เขาจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่คิดว่า ชีวิตของเขาต้องมาจบลงเพราะภารกิจนี้แทน!
“จงลงมือเอง!”
น้ำเสียงของชายชุดคลุมดำเจือโศกเศร้าเล็กน้อย
กล่าวกันตามตรง กระทั่งเขาเองก็ไม่คิดว่าหัวเอ๋อทำอะไรผิดพลาด แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันคือเขาเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า บนผืนพิภพแห่งนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับคนอ่อนแอ!
สำหรับชายหนุ่มตนนั้นที่นามว่า บรรพกาลราตรี สามารถทำให้โถงใหญ่ทั้งสองออกโรงปกป้องได้พร้อมกัน แสดงว่าเขาเป็นคนที่มีน้ำหนักความสำคัญค่อนข้างสูง
จากที่กล่าวไปทั้งหมดสรุปได้ว่า หัวเอ๋อแค่โชคร้ายเกินไป
ใครขอให้เขายั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วกัน?
“อ๊ากกก…!”
สายตาสาดสะท้อนความเจ็บปวดแสนพรรณนา ร่างของมันระเบิดออกทันที
เกร๊ง!
ป้ายตราสีดำทมิฬตกลงบนพื้น
ชายชุดดำกวักมือเรียกเข้าตัว ป้ายตราสีดำทมิฬที่ตกอยู่ลอยขึ้นสู่มือเขาโดยตรง
…
หลังจากที่เย่หยวนกลับมาจากโถงร้อยปัญญา ขาก็เดินทางตรงไปที่โถงโอสถปีศาจอีกครั้งเพื่อชี้แนะบรรยายให้พวกเมิ่งฉี
เมิ่งฉีและคนอื่นๆล้วนได้รับประโยชน์มหาศาลโดยธรรมชาติ
แต่ความนี้คนที่มาฟังคำชี้แนะสั่งสอนของเย่หยวนมิได้มีเพียงแค่นั้น แม้แต่ประมุขโถงก็มาเข้าร่วมฟังเช่นกัน!
เขาเป็นนักปรุงโอสถปีศาจระดับสาม สถานะศักดิ์ของเขาเป็นที่เคารพนับถือยิ่งภายในเมืองหลวงคาโปนแห่งนี้
แม้แต่ปีศาจระดับชั้นแม่ทัพปีศาจยังยากที่จะพบเจอเขา
โอสถเพียงเม็ดเดียวที่หลอมกลั่นมาโดยฝีมือเขา ล้วนเป็นที่ปรารถนาของใครหลายๆคน
ทว่าคราวนี้เขากลับเป็นเหมือนนักเรียนอีกคนที่นั่งร่วมห้องกับเมิ่งฉีและคนอื่นๆเพื่อฟังเย่หยวนบรรยายเรื่องเต๋า
ในวันแรก เขายังคงสถานะศักดิ์ตนเองเอาไว้และซ่อนตัวหลบมุมยืนฟังอยู่เคียงข้าง
แต่พอมาวันที่สอง เขากลับนั่งร่วมโต๊ะเดียวกับพวกเมิ่งฉี ตั้งใจฟังเย่หยวนสั่งสอนอย่างเพียรตั้งใจ
เนื้อหาที่เย่หยวนบรรยายในครั้งนี้หาได้ลึกซึ้งมากมายนัก มันเป็นเพียงเรื่องยอดเต๋าแห่งโอสถในระดับพื้นฐาน
แต่สำหรับพวกเขา มันกลับกลายเป็นสิ่งมีค่าดั่งขุมสมบัติ
เย่หยวนกำหนดเป้าหมายที่นักปรุงโอสถปีศาจควรมุ่งพัฒนาอย่างชัดเจน และมอบวรยุทธหลอมกลั่นบางชนิดที่จำเป็นแก่พวกเขา
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบ เราไม่ควรดูถูกเพียงว่ามันเป็นทักษะพื้นฐานแสนเรียบง่าย ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมาตรฐานของพวกเมิ่งฉีมิได้แย่เลย แต่พวกเขาจำต้องฝึกฝนเรื่องพื้นฐานบางอย่างให้เหมาะสม รากฐานที่มั่นคงย่อมก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต
เมื่อเปรียบเทียบกับการบรรยายเรื่องเคล็ดวิชาลับหรือวรยุทธหลอมกลั่นอันลึกซึ้งแล้ว ดูเหมือนว่าการสอนทักษะพื้นฐานเพื่อปูรากฐานจะมีประสิทธิผลกว่าสำหรับพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...