ในเมืองหลวงคาโปนแห่งนี้ยังมีใครเป๋ากางเกงไม่เปียกเมื่อเห็นเขา?
ทว่าวันนี้เขาผู้แสนน่ากลัวกลับถูกเด็กเหลือขอไล่ต้อนซะจนมุม และเขาไม่สามารถหงุดหงิดอารมณ์เสียใส่เด็กตรงหน้าได้ด้วยซ้ำ
หากเป็นคนอื่น เขาคงสำแดงใช้พลังเพื่อข่มขู่กดดันไปนานแล้ว หรือหยิบใช้วิธีต่างๆ เพื่อให้คู่สนทนายอมจำนน
แต่สำหรับเย่หยวนผู้นี้ สิ่งเหล่านั้นกลับไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!
ข่มขู่?
แน่นอนว่าทำได้ ทว่ามีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก!
คุนหมิงถอนหายใจและกล่าวว่า
“ไม่ว่าเงื่อนไขใดที่นายน้อยบรรพกาลราตรีต้องการ อย่าลังเลที่จะเอ่ยกล่าว ตราบใดที่ไม่เกินความสามารถของโถงนักฆ่า พวกเราย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน”
คู่สายตาของเย่หยวนพลันสว่างวาบ ฉายแววจับจ้องไปที่คุนหมิงโดยไวและกล่าวถามว่า
“จริงรึ?”
คุนหมิงคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นในพลันเอ่ยขึ้นว่า
“ข้ายังมีทางเลือกอื่นหรือไม่?”
เย่หยวนยิ้มกว้าง ยามสนทนากับคนฉลาด ทุกอย่างมักเป็นไปอย่างราบรื่นเสมอ
“ข้าต้องการให้ท่านช่วยส่งสาสน์ท้าทาย!”
เย่หยวนกล่าวตอบ
คุนหมิงขมวดคิ้วขึ้นถักแน่นทันที
“นายน้อยบรรพกาลราตรีคิดจะสู้กับไคซินหรืออย่างไร? แต่เจ้าหาใช่คู่มือของเขาไม่!”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ใช่คู่มือของเขาหรือไม่กลับเป็นธุระของข้า ท่านเพียงช่วยเหลือข้าอย่างสองอย่างเท่านั้นก็นับว่าเพียงพอ”
สีหน้าของคุนหมิงฉายแววจริงจังขึ้นทันตา และเอ่ยถามขึ้นว่า
“อย่างสองอย่าง?”
คุนหมิงตระหนักได้ว่า เย่หยวนมิได้ตามล้างแค้นโดยอาศัยอารมณ์เป็นที่ตั้ง ในทางตรงข้าม เขามิได้คิดแก้แค้นโดยไม่มีแบบแผนใดๆ
สีหน้าการแสดงออกอันไม่แยแสของเย่หยวน มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาตระเตรียมแผนการมาแล้วเป็นอย่างดี
ในความเป็นจริง แม้แต่เรื่องที่คุนหมิงเดินทางมาขอโทษเย่หยวนเช่นนี้ มันก็อยู่ในการคำนวณแล้วเช่นกัน
เย่หยวนคิดวิเคราะห์ทุกอย่างมาแล้วเบ็ดเสร็จ และรอคุนหมิงมาขอโทษขอโพยอยู่
ชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ
การเดินหมากโดยอาศัยขุมกำลังของฝ่ายอื่นเพื่อพิฆาตฝ่ายอื่นด้วยกัน มันเป็นแผนการของเย่หยวนที่คุนหมิงคาดไม่ถึง
แน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ และทั้งหมดต้องขอบคุณความแข็งแกร่งและศักยภาพเฉพาะตัวของเย่หยวน มิฉะนั้นประมุกโถงทั้งสองจะยอมออกโรงเช่นนี้ได้อย่างไร พวกเขาหาใช่คนโง่ไม่
ในที่สุดคุนหมิงก็เข้าใจแล้วว่า ไฉนประมุขโถงทั้งสองถึงมองชายหนุ่มคนนี้ในมุมมองที่แตกต่าง และต้องการออกโรงปกป้องเขาถึงขั้นนี้
เย่หยวนหยิงถุงที่บรรจุผงโอสถเอาไว้ออกมาและกล่าวว่า
“ภายในถึงนี้มีผงโอสถบรรจุไว้อยู่ คงมิใช่เรื่องยากที่จะลอบผสมมันลงไปให้ไคซินกินโดยไม่รู้ตัว นี่คงหาใช่เรื่องยากสำหรับนักฆ่า?”
สีหน้าการแสดงออกของคุนหมิงเปลี่ยนไปอย่างมากและกล่าวว่า
“ไม่มีทาง! แม้ว่าโถงโลหิตปรโลกจะไม่เกรงกลัวต่อตำหนักเจ้าเมือง แต่การวางยาพิษให้นายน้อยแห่งตำหนักเจ้าเมืองนับเป็นเรื่องร้ายแรง ข้าไม่สามารถทำได้เจ้าได้!”
เย่หยวนคลี่ยิ้มยางกล่าวขึ้นว่า
“ท่านประมุขโถงไม่ต้องห่วงไป ผงโอสถเหล่านี้ไม่ถึงขั้นเอาชีวิตเขา และมิได้ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของเขามิแต่น้อย ด้วยสิ่งนี้เขาไม่มีทางทราบแน่ว่าตนถูกวางยา”
คุนหมิงขมวดคิ้วเข้มกล่าวว่า
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไรว่ามิได้ยืมมัดคนอื่นฆ่าคน?”
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า
“ข้ายังมีอยู่อีกถึงหนึ่ง หากท่านไม่เชื่อก็สามารถพิสูจน์ได้ แต่ต้องเตรียมใจให้ดีเพราะมันมีผลต่อจิตใจของท่าน”
คุนหมิงสะดุ้งเฮือก แววตื่นกลัวฉายสะท้อนผ่านแววตาทันควัน
สิ่งที่นักปรุงโอสถปีศาจระดับสองหลอมกลั่นขึ้นมา กลับมีผลกับเขาจริงๆ?
เพียงถุงบรรจุผงโอสถเล็กๆ นี้ถุงเดียว กลับสร้างภัยคุกคามได้ขนาดนี้จริงรึ?
ต้องทราบเสียก่อนว่า โอสถที่นักปรุงโอสถระดับสองหลอมกลั่นขึ้นมา มันแทบไม่มีผลอะไรกับจอมทัพปีศาจเลย ดังนั้นแล้วนับประสาอะไรกับจอมทัพปีศาจขั้นสุดอย่างคุนหมิงกัน?
คุนหมิงตระหนักทราบชัดแจ้งว่า เย่หยวนเป็นนักปรุงโอสถปีศาจที่น่าเกรงขามยิ่ง การที่อีกฝ่ายกลัวเช่นนี้ย่อมทราบความตื่นตระหนกได้เป็นธรรมดา
แม้คุนหมิงจะไม่ทราบว่าสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไร แต่สำหรับไคซิน นี่เป็นเรื่องร้ายแรงแน่นอน!
เมื่อเห็นสีหน้าการแสดงออกของคุนหมิง เย่หยวนก็ยิ้มกล่าวว่า
“ถุงนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่า เขาและข้าจะต่อสู้กับภายใต้กฎอย่างยุติธรรม ตราบใดที่เขากินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว จะไม่มีใครจับได้แน่นอนว่าท่านเป็นคนทำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...