กลุ่มควันหมอกสีเขียวพวยพุ่งออกมาจากหม้อหลอมโอสถ เม็ดโอสถที่อยู่ข้างในยามนี้กลับกลายมาเป็นเศษโอสถไปเสียแล้ว
เย่หยวนถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าวว่า
“ล้มเหลวอีกแล้ว! หรือเป็นไปได้ไหมว่า โอสถที่ใช้รักษาทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถหลอมกลั่นขึ้นมาได้จริงๆ?”
เพื่อช่วยเหลือเซี่ยะจิ้งอวี๋ในการซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ครึ่งปีนี้เย่หยวนทดลองและล้มเหลวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
เขาพยายามไม่น้อยกว่าหนึ่งพันวิธี แต่สุดท้ายผลลัพธ์เดียวที่เขาได้รับตอนท้ายคืนความล้มเหลว
มีสูตรโอสถกว่าหมื่นสูตรที่อยู่ในหัวของเขา
และท้ายที่สุดทั้งหมดล้วนไม่ได้ผลเลย
เพื่อที่จะคิดค้นสูตรโอสถใหม่เอี่ยมขึ้นมานี้ อาจกล่าวได้ว่าเย่หยวนครุ่นคิดจนสมองแทบระเบิด
อย่างไรก็ตามผลที่ตามากลับต้องทำให้เขาผิดหวังอยู่ดี
“เจ้าทำดีที่สุดแล้ว แม้จอมเทพโอสถจะเป็นขุมพลังระดับพระเจ้า แต่นั่นก็หาใช่ว่าจะสามารถกำหนดสรรพสิ่งบนผืนพิภพนี้ได้ มีหลายต่อหลายครั้งเช่นกันที่ศักยภาพของมนุษย์มิสามารถไปถึงจุดนั้นได้ โอสถที่ใช้รักษาทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ ข้าเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนในมหาพิภพถงเทียนนี้เช่นกัน กล่าวง่ายกว่าทำมากแม้เจ้าจะพัฒนาตัวเองไปเพียงใด”
ร่างของหวู่เฉินปรากฏขึ้นพร้อมปลอบโยนเขา
เย่หยวนยิ้มกล่าว
“ข้าไม่มีทางยอมแพ้แค่นี้แน่นอน ในความเป็นจริง ตลอดครึ่งปีมานี้ การทนลองของข้าดูเหมือนจะเข้าใกล้ความสำเร็จมากแล้ว! เหลือเพียงหน้าต่างบานข้างหน้าที่ข้ายังมิอาจลอดผ่านไปได้เท่านั้นจวบจนตอนนี้ และมันทำให้ข้ารู้สึกหดหู่อย่างมาก รู้ได้ว่าเลยว่า ตราบใดที่ข้าลอดผ่านมันไปได้ ความแกร่งกล้าในศาสตร์แห่งโอสถของข้าจะพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง!”
หวูเฉินเหลือบมองเย่หยวนด้วยความประหลาดใจ ราวกับเขามิเคยทราบเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน
เขาตระหนักดีว่าหากเทียบเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ระดับชั้นความแข็งแกร่งในศาสตร์แห่งโอสถของเย่หยวนเหนือไปกว่าจอมเทพนิรันดร์ไปแล้ว
ก้าวไปอีกระดับหนึ่งที่ว่า แม้แต่หวู่เฉินยังไม่กล้าจินตนาการด้วยซ้ำ!
หรือเป็นไปได้ไหมว่า ชายหนุ่มคนนี้จะไม่มีขีดจำกัด?
“ธารน้ำรินไหลยามเกิดร่องน้ำ ตั้งใจมากไปอาจปิดกั้นร่องน้ำโดยมิตั้งใจ ไฉนเจ้าไม่ใช้เวลาระหว่างนี้พักผ่อนจิตใจดูก่อน มันอาจทำให้เจ้าคิดอะไรออกบ้าง”
หวู่เฉินเอ่ยกล่าวขึ้น
เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า
“ถึงเวลาที่ข้าต้องออกจากการเก็บตัว ข้าเกรงว่าใครบางคนจะรอข้าจนเบื่อไปแล้ว”
ทันทีที่เย่หยวนออกจากการเก็บตัว หลงซานก็ยืนรอเขาอยู่หน้าประตูห้องนานแล้ว
“นายท่าน มีอาคันตุกะจากโถงโลหิตปรโลกรอท่านอยู่ในโถงจัตุรัสนานแล้ว”
หลงซานกล่าวขึ้น
เย่หยวนพยักหน้าดล็กน้อยและกล่าวว่า
“เจ้าออกไปก่อน ที่เหลือเดี๋ยวข้าจัดการเอง”
กล่าวย่างไปสองก้าว เย่หยวนเหลียหลังกลับมาเล็กน้อยและกล่าวว่า
“เจ้าไปหาฟางอวี้เพื่อเอาไปสมุนไพรวิญญาณมา บอกว่าข้าสั่งให้เดินทางมารับ นี่คือรายการสูตรโอสถ จะว่าไป เจ้าติดอยู่ในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามาครึ่งขั้นนานแล้วกระมัง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงซานสั่นสะท้านหนักโดยมิตั้งใจ ก่อนเร่งคุกเข่าพร้อมความอิ่มเอมใจที่พลุ่งพล่านไม่หยุดหย่อน ก่อนกล่าวว่า
“ผู้ต่ำต้อยคนนี้ติดอยู่ในระดับชั้นนี้มานานกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันปีแล้ว!”
เย่หยวนก่นเสียง‘อืม’เล็กน้อยก่อนกล่าวว่า
“พรสวรรค์ของเจ้าค่อนข้างดีมิใช่น้อย เจ้าที่เดินทางมายังมหาพิภพถงเทียนได้ ในขั้นต้นควรจะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เกิดเรื่องพวกนี้เสียก่อนเลยล่าช้าไป เมื่อพิจารณาจากความตั้งใจและขยันแข็งขันในช่วงสองสามปีมานี้ ข้าจะให้เจ้าทะลวงผ่านไปได้แน่นอน!”
ทั่วกายาหลงซานสั่นสะท้านหนักหน่วง ขณะกล่าวขึ้นว่า
“หลงซานขอบพระคุณนายท่าน!”
เย่หยวนเอ่ยปากยินยอมเสร็จสิ้น และหันหลังจากไปทันที
หลงซานประสานมือกำหมัดแน่นพร้อมใบหน้าแดงก่ำ เนื่องด้วยความตื่นเต้นสุดหัวใจ
ในรอบแสนปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ในที่สุด จิตใจของเขาที่อ่อนแออยู่ในจุดต่ำสุดก็เริ่มกระเพื่อนขึ้นอีกครั้งพร้อมคลื่นความปีติยินดีที่ล้นพ้นในหัวใจ
เป็นเวลากว่าหนึ่งแสนปีเต็มที่ เขาคร่ำครวญเศร้าโศกกับชะตาชีวิตอันน่าเวทนาของตนตลอดเวลา
เสมือนกับว่าร่างของเขาได้จมมืดลงในบ่อโคลนอันมืดมิดไม่รู้วันคืน จนกระทั่งเย่หยวนปรากฏตัวขึ้นมา
หลงซานไม่คิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนจากดินแดนพฤกษานิรันดร์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นยิ่งเฉกเช่นเย่หยวนจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...