จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1571

ตอนที่ 1571 สรวงสวรรค์แปรเปลี่ยน
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลินตงเอ่ยกล่าวด้วยความสุภาพระมัดระวังคำพูดของตน แต่กระนั้นเขาก็รู้สึกประหลาดใจมากอยู่ดี

เดือนก่อน เย่หยวนส่งเขามายังเมืองหลวงหวูเมิ่งเพื่อมาสืบเรื่องของฉินเซียว

เย่หยวนมีการวางแผนเตรียมการมาก่อนเสมอ ก่อนที่จะลงมือเคลื่อนไหวอะไร

ระหว่างสืบสวนหลิงตงหาได้พบปัญหาอันใดไม่ ทว่าขณะนั้นเองเขากลับแปลกใจครั้งแล้วครั้งเล่า

หลินตงหาได้แปลกใจเพราะความยากง่ายของตัวภารกิจ แต่แปลกใจที่ไฉนเย่หยวนถึงพิถีพิถันเก็บทุกรายละเอียดขนาดนี้ ก่อนลงมือทำสิ่งต่างๆ

กล่าวได้ว่านี่ยิ่งกว่าแผนลอบสังหาร ระหว่างสืบสวนเย่หยวนไม่เคยทิ้งร่องรอยใดให้ฝ่ายตรงข้ามสงสัยเลยสักนิด

ผู้อาวุโสวัยเยาว์ผู้นี้ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมา ทั้งเด็ดขาดและมีวุฒิภาวะไม่สอดคล้องกับอายุเลย

หากให้ดูถูกเขาเพียงเพราะอายุน้อยกว่า พวกมันล้วนแต่ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่!

หลินตงรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสเย่ผู้นี้ฉลาดเกินเด็กทั้งยังเป็นคนที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์แห่งการต่อสู้หรือศาสตร์แห่งโอสถ ล้วนแกร่งกล้าโดดเด่นทั้งคู่ ทั้งยังเป็นคนที่มองผ่านอ่านสถานการณ์เฉียบขาด ไร้ซึ่งจุดอ่อนอย่างแท้จริง!

สำหรับเย่หยวนที่ได้รับการแต่งตั้งจนกลายมาเป็นผู้อาวุโสแห่งหอโอสถได้ นี่หาใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน

ในตอนนี้ ความขัดแย้งระหว่างผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสรองทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน บางทีการปรากฏตัวขึ้นของผู้อาวุโสคนใหม่อาจกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญระหว่างศึกของทั้งสอง

“ฉินเซียว เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

หลินตงเอ่ยเสียงเย็นถามออกไป

“ข้า…ข้า…”

จิตใจของฉินเซียวในยามนี้ถูกบดขยี้จะไม่เหลือดี เขาตระหนักดีว่าชีวิตของตนในตอนนี้มันได้จบลงแล้ว

เย่หยวนกล่าวน้ำเสียงชืดเย็นขึ้นว่า

“ดูเหมือนว่าท่านเจ้าเมืองฉินจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ผู้พิทักษ์หลินทำลายจุดตันเถียนให้อีกฝ่ายพิการเดี๋ยวนี้ และนำไปขังที่คุกใต้ดินในตำหนักเจ้าเมือง รอวันไต่สวนในเมืองจักรพรรดิในภายหลัง ส่วนจ้าวอี้ก็เช่นกัน ทำลายจุดตันเถียนให้พิการและโยนเข้าคุกใต้ดินไปเช่นกัน เหวินอี้หยาง เนื่องจากถูกบังคับใช้เป็นเครื่องมือโดยจำนน โทษไม่ถึงความตาย แต่ก็ยากที่จะรอดดพ้นทุกข้อกล่าวหา ปลดเขาออกจากตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของสถานศึกษาหวู่เมิ่งและให้อัสนีคำรนขึ้นรับตำแหน่งแทน ส่วนฉินจ้าวหยุน…ประหารชีวิตทันที!”

เมื่อกล่าวจบถึงประโยคสุดท้าย จิตสังหารของเย่หยวนพลันปะทุเดือดขึ้นทันใด

ทุกคนบนท้องถนนปิดปากเงียบกริบรราวกับจักจั่นกลางฤดูหนาว ยามนี้กำลังตื่นตะลึงกับสง่าราศีดั่งราชาของเย่หยวน

ทุกเขาทราบดีว่า ตระกูลฉินที่ปกครองเมืองหลวงหวูเมิ่งมานับแสนปี ยามนี้ได้จบสิ้นลงแล้ว!

การปฏิวัติครั้งใหญ่ในวันนี้นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งเช่นกัน

ฟุบ!

ในเวลานั้นเอง ฉินจ้าวหยุนเร่งเร้าพลังทั้งหมดออกมาและตีฝีเท้าทะยานหนีขึ้นขอบไฟในทันใด

หลินตงรวนหัวเราะอยู่คำหนึ่งและชี้นิ้วออกไปใส่อีกฝ่ายเล็กน้อย

บูมมม!

ฉินจ้าวหยุนยังไม่ทันบินออกไปไกล กลับถูกดัชนีระเบิดร่างเป็นจุณไม่เหลือแม้แต่เศษซาก

ด้วความแข็งแกร่งของฉินจ้าวหยุน เขาหรือจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของหลินตงได้?

สีหน้าการแสดงออกของเหวินอี้หยางเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มแสนขมขื่นใจ

สำหรับฉินเซียวและจ้าวอี้ สีหน้ามืดมนเปี่ยมล้นความสิ้นหวังสุดหัวใจ

แต่พวกเขาก็ไม่คิดแม้แต่จะต่อต้านเลย

หลินตงผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป!

กระทั่งฉินเซียวยังหาใช้คู่มือของหลินตง

“จุจุ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า ตำหนักเจ้าเมืองและตระกูลฉินจะมาจบสิ้นลงแบบนี้”

“นี่นับว่าสมควรแล้ว! หลายปีมานี้ตระกูลฉินมันหน้าด้านไร้ยางอายเกินไป! ทำตัวราวกับทรราชในเมืองหลวงหวูเมิ่ง!”

“เย่หยวนคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ เพียงยี่สิบปีก็สามารถไต่เต้าจากศิษย์ของสถานศึกษาหวูเมิ่งจนกลายมาเป็นผู้อาวุโสแห่งหอโอสถได้! การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต่อให้ใช้เวลาเป็นหมื่นปีก็ยังเป็นไปไม่ได้!”

“หากฉินเซียวสำนึกในบุญคุณของเย่หยวนตั้งแต่ตอนนั้น เขาคงไม่มีจุดจบเช่นนี้กระมัง?”

ท่ามกลวงสงครามระหว่างสองฝ่ายนับยี่สิบปี ในที่สุดก็จบลง

ท้ายที่สุดนี้ทุกอย่างจบลงด้วยการกลับมาและบดขยี้ทุกสิ่งของเย่หยวน ทำเอาขากรรไกรทุกคนค้างเติ่งหุบไม่ลง

ทุกคนไม่คิดไม่ฝันเลยว่า การหวนคืนกลับมาครั้งนี้ของเย่หยวนจะมาเหนือเมฆปานนี้!

ภายในตำหนักเจ้าเมือง อัสนีคำรนก้มกราบเย่หยวนลงบนพื้นในทันทีที่เห็น แต่เย่หยวนกลับรีบตรงไปพยุงร่างของเขาขึ้นมาแทนและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านอาจารย์อัสนีคำรน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเกินไป ท่านคืออาจารย์ที่ช่วยเหลือในยามคับขันมาโดยตลอด ท่านเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของข้าก็มิปาน อนาคตของสถานศึกษาหวูเมิ่งต้องฝากฝังในมือท่านแล้ว!”

อัสนีคำรนเหงื่อเย็นแตกพลักทั่วทั้งแผ่นหลัง เขากล่าวขึ้นด้วยความเคารพยิ่งว่า

“ท่าน…ท่านผู้อาวุโสเย่…”

“ท่านอาจารย์อัสนีคำรน พวกเราหาใช่คนอื่นคนไกล เรียกข้าว่าเย่หยวนดังเดิมเถอะ”

เย่หยวนยิ้มกล่าว

อัสนีคำรนพยักหน้าและกล่าวว่า

“ผู้อาวุโสเย่ เราอัสนีคำรนไม่สามารถรับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้!”

เห็นได้ชัดว่าความสัมผัสระหว่างอัสนีคำรนและเย่หยวนหาใช่ในฐานะศิษย์อาจารย์มานานแล้ว

แม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังถูกโข้นลงอย่างง่ายดาย เขาย่อมทราบดีถึงสถานะความแตกต่างระหว่างเขากับเย่หยวนในปัจจุบัน ดังนั้นเขาจะกล้าเรียกขานชื่อเย่หยวนหวนๆได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ