เมื่อพวกเขาทั้งหลายร่อนตัวลงเรียบร้อยกู่ฮั่นก็รีบก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนในทันที
“ผู้อาวุโสเย่ ข้าขอร้อง กลับไปช่วยอาจารย์ข้าด้วยเถอะ!” กู่ฮั่นกล่าวขึ้นด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ
ตอนที่พวกเขาบินออกมาจากวงล้อมเมื่อสักครู่เย่หยวนบังเอิญได้ดึงตัวกู่ฮั่นออกมาด้วย
เพราะการที่เด็กคนนี้กล้าที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมาในสถานการณ์เมื่อสักครู่ มันแสดงให้เห็นได้อย่างดีว่าตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนที่มีจิตใจคับแคบเลวร้ายใดๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมันเป็นเพียงเพราะว่าตัวเขาหยิ่งยโสและไม่ยอมใครก็เท่านั้น
เย่หยวนได้ยินแบบนั้นจึงหันไปพูด “เมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ของพวกเจ้านั้นมีสงครามกับพวกปีศาจมานานปีและควรจะเป็นคนที่เกลียดชังพวกมันที่สุดแท้ๆ แต่พอหลิงจี้คุนได้เจอหน้าพวกปีศาจ เขากลับเลือกที่จะทำตัวสุภาพอ่อนน้อมกับพวกมัน ทำไมข้าถึงต้องไปช่วยคนแบบนี้ด้วย?”
เย่หยวนเองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไร แต่เรื่องที่อีกฝ่ายทำมันทำให้เขาทนรับไม่ไหวจริงๆ
กู่ฮั่นได้แต่กัดฟันตอบกลับไป “ท่านอาจารย์ได้ดูแลข้ามาอย่างดี ข้าคงปล่อยให้ท่านตายไปทั้งๆ แบบนี้ไม่ได้! ผู้อาวุโสเย่… หากท่านไม่คิดจะช่วยเช่นนั้นข้าก็ขอกลับไปช่วยท่านอาจารย์ด้วยตัวเองแล้วกัน!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “งั้นก็จงกลับไปเถอะ ข้าแค่บังเอิญช่วยเจ้ามาด้วย หากตอนนี้เจ้าคิดอยากตายเอง มันก็เป็นเรื่องของเจ้าแล้วใครจะมาห้าม?”
ใบหน้าของกู่ฮั่นเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนและรีบมุ่งตรงไปยังที่ที่พวกเขาจากมาในทันที
แต่เพียงแค่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว สายตาสีแดงฉานนับไม่ถ้วนก็หันมาจ้องมองกู่ฮั่นในทันที
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
หนูยักษ์แทะกระดูกนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาเขา
สภาพของกู่ฮั่นตอนนี้เหมือนคนที่โดนสาดถังน้ำแข็งใส่หน้า เส้นขนในร่างกายของเขาลุกชันไปทั้งร่าง
พร้อมๆ กันนั้นสนามพลังงานก็เข้ามาปกคลุมตัวเขาในทันที ทำให้กู่ฮั่นไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย
อาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามันอ่อนแอเกินกว่าที่จะสู้ที่นี่
ตุบ!
กู่ฮั่นพยายามที่จะก้าวถอยกลับมา แต่เท้าเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดก้อนหินจนล้มลง
“ช-ช่วยด้วย”
เป็นจังหวะนั้นเองที่เงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมดาบในมือ
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ
ด้วยการสะบัดดาบครั้งเดียวของเงาร่างนี้ มันทำให้หนูยักษ์แทะกระดูกกลายพันธุ์ร่างขาดออกจากกันเป็นสองท่อนในทันที
เขาคนนี้คือเย่หยวน ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้ากู่ฮั่นก่อนจะพูดขึ้น “ยังอยากกลับไปอยู่ไหม?”
กู่ฮั่นส่ายหัวจนมันแทบหลุดออกจากบ่า พร้อมท่าทางสั่นกลัวอย่างสุดขีด
เป็นเวลานี้นี่เองที่เขาได้เห็นว่าฝีมือของตัวเองและเย่หยวนมันห่างชั้นกันมากมายแค่ไหน
เพราะเมื่อเขามาเจอสัตว์อสูรพวกนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะต่อสู้ขัดขืนกลับไป
แต่เย่หยวนนั้นสังหารมันลงอย่างง่ายดายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก
หากตอนนี้กู่ฮั่นคิดจะกลับไป มันก็คงไม่ต่างจากการเดินไปหาที่ตายเท่านั้น
ฉุบ! ฉุบ! ฉุบ!
ตอนนี้หนูยักษ์แทะกระดูกอีกหลายตัวเริ่มหันมาสนใจทางนี้กันมากขึ้นและมุ่งหน้าตรงมาในทันที
ส่วนเย่หยวนนั้นก็ยังสะบัดดาบไปมาราวกับชาวนาที่กำลังเกี่ยวข้าว เก็บเกี่ยวชีวิตของเหล่าหนูยักษ์แทะกระดูกลงอย่างง่ายดาย ไม่มีพวกมันตัวไหนที่ทนรับเขาได้มากกว่าหนึ่งกระบวนท่า
“ใจเย็นๆ พวกเฒ่าเหล่านั้นมันหนังเหนียวตายยาก แต่ละคนต่างเป็นยอดฝีมือที่มีพื้นฐานหนักแน่น ต่อให้พวกหนูยักษ์แทะกระดูกมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน การจะสังหารพวกนั้นลงมันคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก” เย่หยวนพูดออกมาอย่างเฉื่อยชาพร้อมสะบัดดาบในมือไม่หยุด
ตอนนี้ไม่ใช่แค่กู่ฮั่นเท่านั้น แม้แต่เจิ่งชีและคนจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็เพิ่งจะเคยเห็นเย่หยวนลงมือจริงๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรก ตอนนี้จิตใจของพวกเขาเองก็อยู่ไม่สงบไม่ต่างจากกู่ฮั่น
เย่หยวนเคยหลบการโจมตีของกู่ฮั่นด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติโดยที่ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป
แต่ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนนั้นน่ากลัวแค่ไหน!
หากตอนนั้นเย่หยวนตอบโต้กลับไปจริงๆ กู่ฮั่นคงไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้แน่ๆ
“แท้จริงแล้วผู้อาวุโสเย่ไม่ได้เก่งกาจแค่เรื่องแนวคิดแห่งห้วงมิติ ความน่ากลัวที่แท้จริงของเขานั้นมาจากการผสมผสานแนวคิดต่างๆ”
“ใครจะไปคิดว่าเขาจะผสานแนวคิดแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติได้ขนาดนี้ ผู้อาวุโสเย่นั้นคืออัจฉริยะอย่างแท้จริง! ของแบบนี้มันยากกว่าการเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติธรรมดาๆ มากมายนัก!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผู้อาวุโสเย่นั้นมีอะไรเก็บซ่อนไว้อีกมากมาย! เราไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าหากเขาเอาจริงขึ้นมา เขาจะแข็งแกร่งขึ้นได้อีกมากมายแค่ไหน!”
…
เดิมเมื่อทุกคนเห็นว่าเย่หยวนเข้าไปสู้ พวกเขาก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...