เพราะขยะพวกนั้นมันไม่มีทางที่จะไล่ตามเขาทันได้ไปชั่วชีวิต
แต่เย่หยวนั้นต่างออกไป!
เด็กน้อยคนนี้มันมีพรสวรรค์ที่มากล้นเกินไป ที่สำคัญด้วยพลังการต่อสู้ที่เหนือฟ้านั้นทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเขากลับสามารถต่อสู้รับมือกับยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวได้อย่างไม่ยากเย็น
หากคนเช่นนี้เติบโตขึ้นไปได้ เขาคงเป็นภัยร้ายที่วัดค่าความอันตรายไม่ได้เลย!
“การจะสังหารเจ้าลงตอนนี้มันคงเป็นเรื่องที่ยากเกินมือข้า แต่หากแค่ทำให้เจ้าต้องพบความลำบากในชีวิตต่อจากนี้ไปมันก็พอทำได้”
เย่หยวนยิ้มออกมาระหว่างพูด เป็นรอยยิ้มที่แม้แต่ข่านซัวยังต้องขนลุก
“เจ้า… เจ้าคิดจะทำอะไร? เด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ากลับคิดจะมาทำร้ายผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้รึ?” ข่านซัวปั้นหน้าเข้าสู้ด้วยคำขู่ แต่ภายในใจของเขานั้นไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่แสดงออกมา
เย่หยวนขยับนิ้ว แสดงให้เห็นเข็มสีเงินปรากฏออกมาที่ปลายนิ้ว
เข็มสีเงินนี้มันคือสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ!
เขามองดูใบหน้าของข่านซัวด้วยรอยยิ้มที่แสนเยือกเย็น “เฮอะ แค่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้า? ข้าจะบอกให้นะว่านายน้อยคนนี้คือผู้อาวุโสแห่งหอโอสถเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์! เห็นเข็มเงินนี่ไหม? นี่คือเข็มที่อาบไปด้วยน้ำตาปีศาจสวรรค์สลายกระดูกระดับสาม ของแบบนี้… เจ้าเองก็คงเคยได้ยินชื่อมันมาก่อนกระมัง?”
ข่านซัวจ้องมองไปอย่างรุนแรงท่าร่างของเขาอ่อนแรงลงทันทีที่ได้ยินจนเกือบจะถูกแรงโน้มถ่วงกดจนตัวตาย
“เจ้า… เจ้าไปรู้วิธีหลอมของแบบนั้นมาจากไหนกัน?” ข่านซัวกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ
น้ำตาปีศาจสวรรค์สลายกระดูกนั้นคือพิษร้ายที่แสนรุนแรงในหมู่เผ่าปีศาจ มันรุนแรงจนไม่มีพิษใดเทียบเคียง
ด้วยน้ำตาปีศาจสวรรค์สลายกระดูกระดับห้า เพียงหยดเดียวมันก็มากพอที่จะสังหารยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์อย่างเขาให้ตายลงได้นับร้อยครั้ง!
และแม้อาณาจักรนภาสวรรค์ระดับสาม นั้นจะไม่สามารถสังหารเขาลงได้ แต่มันก็ต้องทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาพในตอนนี้ หากเขาต้องโดนพิษเข้าไปอีก มันคงทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลงมาก ถึงตอนนั้นต่อให้เย่หยวนยืนมองนิ่งๆ เขาก็คงโดนสนามแรงโน้มถ่วงนี้กดทับจนแบนราบแน่
หากอาวุธในมือเย่หยวนนั้นเป็นเครื่องรางนภาสวรรค์ข่านซัวคงไม่คิดที่จะเกรงกลัว เพราะเครื่องรางนภาสวรรค์มันไม่สามารถเจาะการป้องกันของเขาได้แม้แต่น้อย!
แต่ทว่าในมือของเย่หยวนนั้นกลับเป็นสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ!
นี่มันคืออาวุธร้าย!
ข่านซัวมองดูเข็มในมือเย่หยวนพร้อมมือของเขาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ฟุ่บ!
ข่านซัวปลดปล่อยพลังที่คานแรงโน้มถ่วงไว้ทั้งหมดออกเพื่อรีบมุ่งหน้าหนีออกไป
ระหว่างที่เขารีบหนีออกไป ข่านซัวก็ต้องกระอักเลือดอย่างรุนแรง ร่างกายทั้งร่างของเขาอ่อนแรงมากเมื่อต้องมาอยู่ใต้สนามแรงโน้มถ่วงตรงๆ เช่นนี้
ตุบ…
เขาพุ่งตัวไปในระยะหนึ่งพันเมตร ในคราเดียวจนสุดท้ายหมดแรงล้มหน้าทิ่มพื้นลง
ซ่งหยูและเล่ออี้เองก็มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน พวกเขาทั้งสองหันมามองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
และแน่นอนว่าเย่หยวนเองก็หยิบขวดใบเล็กออกมาใหม่ นั่นทำให้คนทั้งสองต้องขนลุกชันทันที
ตอนนี้ไม่ต้องถามแล้ว ขวดใบเล็กนั้นมันไม่มีทางเป็นโอสถไปได้แน่!
มีหรือที่พวกเขาจะให้เวลาเย่หยวนหยิบเข็มออกมาอีก? หลังได้เห็นเรื่องของข่านซัวแล้วพวกเขาทั้งสองจึงตัดสินใจพุ่งตัวหนีออกไปในทันที
ด้วยการหลบหนีในครั้งนี้มันทำให้พวกเขาทั้งสองต้องเจอกับแรงกดทับอันมหาศาลเช่นกัน
ทั้งสามคนหนีออกไปจนสุดทาง ต่างคนต่างกระอักเลือดออกมาตามๆ กัน เป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อจนเกินจะบรรยาย
ไม่ไกลไปนักเกาหยุนเองก็มีใบหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน
เพราะเขาไม่คิดเลยว่าเย่หยวนจะใช้แค่เข็มเล็กๆ ในการข่มขู่ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์จนพวกเขาต้องมามีสภาพเช่นนี้
เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าคนทั้งสามที่หนีไปไกลก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จะรีบวิ่งไปไหนกันเล่า? ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง จะจริงจังอะไรขนาดนั้นกัน? ข้านั้นคือนักนักหลอมโอสถ มีหรือที่จะพกพิษติดตัวไปไหนมาไหนด้วย?”
“อ่อก!”
“อ่อก!”
“อ่อก!”
คนทั้งสามกระอักเลือดออกมาพร้อมๆ กันหลังได้ยินเช่นนั้นอย่างมิได้นัดหมาย
เจ้าเด็กคนนี้มันข่มขู่ผู้คนให้กลัวแทบตายโดยที่จริงๆ ไม่มีอะไรกับตัวเลย
“เย่หยวน เจ้า! หากข้าผู้นี้รักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้วข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าให้มีชีวิตรอดแน่! แต่ให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ข้าก็ไม่สนใจ!” ซ่งหยูจะโกนออกมา
ตอนนี้กำลังของคนทั้งสามนั้นเหลืออยู่แค่ไม่ถึง หนึ่งในสิบ เพราะอาการบาดเจ็บที่ได้รับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...