เพราะในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์กลับมีร้านโอสถเล็กๆ ที่ขายแต่โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมาเปิดขึ้น
เรื่องในครานี้มันเหมือนไฟลามทุ่ม เผาไหม้คนทั้งเมืองหลวงไปอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าร้านขายโอสถของเย่หยวนในตอนนี้มีแถวต่อยาวอย่างที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่
ในจำนวนคนที่มาต่อนั้น ส่วนมากจะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้า
เพราะแม้โอสถนี้มันจะดีแค่ไหน แต่เหล่านักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญญาพอจะจ่ายผลึกปราณเทวะออกมาเป็นร้อยล้าน
ต่อให้มันเป็นโอสถที่หาง่ายที่สุด พวกเขาก็ยังไม่มีผลึกปราณเทวะพอจะซื้อมันได้
ที่ปลายแถว มีคนๆ หนึ่งบ่นขึ้น “แถวยาวฉิบ นี่ต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่กันเนี่ย?!”
จนอีกคนตอบขึ้น “งั้นเจ้าจะทำยังไง? เถ้าแก่คนนั้นเขาบอกว่าหากใครลัดแถวจะไม่ขายโอสถให้! กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นสถานที่ภายใต้การดูแลของ สามขั้วอำนาจใหญ่ เจ้ากล้าจะก่อเรื่องใดๆ ไหมล่ะ?”
“แต่แถวยาวขนาดนี้ ไม่ว่าเถ้าแก่คนนั้นจะมีโอสถขั้นเทวะโมฆะมากมายเพียงใดมันก็อาจจะขายหมดได้เหมือนกัน!”
“ข้าได้ยินมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้าไปแลกซื้อโอสถได้ทันที น่าเสียดายที่ข้านั้นไม่มีมันสักชิ้น เฮ้อ!”
…
ตอนนี้ชื่อเสียงของร้านขายโอสถนั้นโด่งดังมากและเย่หยวนก็ได้ประกาศออกมาว่าหากใครมีศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวจะสามารถเข้ามาแลกซื้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะได้โดยไม่ต้องรอ
ในเวลาแค่ครึ่งวันเย่หยวนได้ศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาวมาแล้วถึง สามชิ้น
แน่นอนว่าเขาก็ต้องแลกมันกับโอสถราคาแพงออกไปเช่นกัน
ในเวลาครึ่งวันมานี้ เย่หยวนได้ขายโอสถไปแล้วมากกว่า หนึ่งร้อยเม็ด ทำให้กระเป๋าเงินของเขากลับมาตุงอีกครั้ง
เพราะในเวลาแค่ครึ่งวันนี้เขาทำเงินไปได้มากกว่าหมื่นล้านแล้ว
หากหักมันกับค่าต้นทุนในการหลอม เย่หยวนก็ได้กำไรมาแล้วราว เจ็ดพันถึงแปดพันล้าน
ตอนนี้โอสถที่เย่หยวนขายนั้นส่วนมากจะเป็นโอสถระดับต่ำ
เพราะคนที่จะหยิบผลึกปราณเทวะออกมาจ่ายเป็นพันล้านเพื่อแลกกับโอสถระดับความยากสูงๆ นั้นมันมีไม่มาก
“เอาล่ะ วันนี้พอเท่านี้ เก็บร้าน! ใครที่ยังอยากได้โอสถอีกให้มารอวันพรุ่งนี้แต่เช้า”
ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เย่หยวนจึงออกคำสั่งไล่ลูกค้าทันที
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างก็แตกตื่นทันควัน
“ไม่นะ! ข้าอุตส่าห์มาถึงหน้าแถวได้แล้วทั้งที ทำไมเข้าถึงคิดจะเก็บร้านหนีไปดื้อๆ อย่างนี้เล่า?”
“ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย? ใครมันทำการค้าอย่างเจ้ากัน?”
“นี่เด็กน้อย! พ่อเจ้าคนนี้รอในแถวมานับครึ่งวัน แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าจะเก็บร้าน? หากเจ้ากล้าไปก็ลองสิ ข้าจะจัดการเจ้าลงตรงนี้เลย!”
เย่หยวนหันไปมองนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นและตอบกลับไป “ดีมาก ข้าจำหน้าเจ้าได้แล้ว เจ้าลืมเรื่องที่จะซื้อโอสถจากร้านข้าไปได้เลย ต่อให้เจ้ามีเงินเป็นภูเขาข้าก็ไม่ขายให้!”
นั่นทำให้นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นตอบกลับมาอย่างโกรธเคือง “ได้สิ หากเจ้ากล้า! ถ้าเจ้ามีปัญญาจะอยู่รอดล่ะก็นะ อย่าได้คิดออกจากกลุ่มเครือข่ายสวรรค์เชียว ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าหักขาทิ้งเสีย!”
และจู่ๆ ก็มีคลื่นพลังอันรุนแรงกระแทกตัวเขาก่อนจะพูดขึ้น “อะไรนะ? เจ้าคิดจะทำร้ายน้องเย่รึ?”
ใบหน้าของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นเปลี่ยนทีทันที ตอนนี้เขาหน้าเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว
เพราะคลื่นพลังนี้มันถูกปล่อยออกมาจากนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาว มันจะเป็นใครไปได้นอกจากหนิงเทียนปิง?
“ข้า… ฮ่าฮ่า ล้อเล่น ข้าจะไปกล้าทำอะไรเถ้าแก่ได้อย่างไร?”
ยอมแพ้ในเสี้ยววินาที!
นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนนั้นคิดว่าเย่หยวนนั้นตัวคนเดียว ใครจะไปรู้ว่าเขามีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวคอยช่วยเหลือ?
“ดีแล้วที่เจ้าไม่กล้า มิเช่นนั้น… เจ้าคงไม่ได้มีชีวิตไปเห็นตะวันอีก! เฮอะ!” หนิงเทียนปิงหัวเราะเย้ย
คนๆ นั้นเหงื่อไหลท่วมกายก่อนจะบอกว่าเขาไม่คิดทำอะไรจริงๆ ดูท่าแล้วคงกลัวจนขี้หดตดหาย
หนิงเทียนปิงเดินมาหาเย่หยวนและยื่นแหวนให้ “น้องเย่ นี่คือวัตถุดิบสมุนไพรที่ท่านสั่งมา ข้าไปหาซื้อมันมาจนครบแล้ว!”
เย่หยวนนั้นมอบรายชื่อยาวเหยียดให้หนิงเทียนปิง จึงทำให้หนิงเทียนปิงต้องใช้เวลาทั้งวัน พลิกเมืองทั้งเมืองเพื่อหาซื้อยาสมุนไพรเหล่านั้นมาจนครบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...