จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1658

สรุปบท ตอนที่ 1658 วงแสงวิญญาณ: จอมเทพโอสถ

สรุปตอน ตอนที่ 1658 วงแสงวิญญาณ – จากเรื่อง จอมเทพโอสถ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1658 วงแสงวิญญาณ ของนิยายActionเรื่องดัง จอมเทพโอสถ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 1658 วงแสงวิญญาณ
คลื่นยักษ์ใหญ่กำลังไหลซัดในใจของเจียงเจิ้นเทา!

วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลของเขานั้นบ่มเพาะไปจนถึงระดับยอดสี่ศาสตร์แห่งการดูรัศมีของเขาเอาก็ถึงขั้นสุดของระดับสี่เช่นกัน แต่ทว่าเขากลับต้องรับแรงสะท้อนกลับมากมายขนาดนี้ด้วยการจ้องมองแคบครั้งเดียว

อนาคตโชคชะตาของเด็กคนนี้มันช่างยิ่งใหญ่และเจิดจ้านัก!

“ผู้อาวุโสเจียง ท่านใช้… ใช้ศาสตร์การดูรัศมีกับเย่หยวนงั้นรึ?” หลี่ซิงดูท่าจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

เจียงเจิ้นเทารู้ดีว่าตัวเองคงซ่อนเรื่องนั้นไว้ไม่ได้แล้วจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม “เมื่อได้ยินเรื่องที่ท่านว่ามาเมื่อสักครู่ เฒ่าคนนี้ก็เกิดสงสัยขึ้นมาในใจจึงได้ใช้ศาสตร์แห่งการดูรัศมีออกไป ไม่นึกเลยว่า… เฒ่าคนนี้จะยังอ่อนหัดและถูกผลของมันสะท้อนกลับมา!”

หลี่ซิงกล่าวขึ้นอย่างตระหนก “ผู้อาวุโสเจียงคงล้อเล่นแล้ว! ในเขตแดนของสามเมืองจักรพรรดินี้มีใครบ้างเล่าไม่รู้ว่าศาสตร์การดูรัศมีของท่านนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด จะเป็นไปได้อย่างไรที่ท่านจะยังอ่อนหัด?”

ตอนนั้นก็มีชายอีกสองคนก็เดินเข้ามา หนึ่งคือเจ้าเมืองไช่หรง และเจ้าคฤหาสน์สายรุ้งโลหิต หวังจ้าว

เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าดวงตาของเจียงเจิ้นเทามีเลือดไหลลงมาเป็นสายแบบนั้นพวกเขาก็หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด “ผู้อาวุโสเจียง เกิดอะไรขึ้นกับท่านกัน?”

หลี่ซิงจึงเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้ทั้งสองฟังก่อนที่พวกเขาจะหันมามองเย่หยวนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ดูท่าแล้วพวกเขาจะคาดเดาไม่ผิดจริงๆ

“ผู้อาวุโสเจียง ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเถ้าแก่เย่หยวนมีสีชะตาใด?” ไช่หรงถาม

เรื่องศาสตร์การดูรัศมีของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมิใช่เรื่องที่เป็นความลับใดๆ พวกเขารู้กันว่าสีชะตาผู้คนนั้นจะแบ่งออกได้เป็นเจ็ดสี เมื่อมองดูแล้วพวกเขาจะแยกออกมาได้

โดยมีสีแดงอยู่ระดับต่ำสุด และสีม่วงอยู่ระดับสูงสุด!

ปกติแล้วหากใครก็ตามที่มีชะตารัศมีสีม่วง หากพวกเขาไม่พลาดพลั้งไปก่อนพวกเขาก็จะบรรลุถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้อย่างแน่นอน

ยอดฝีมือที่ทิ้งประตูกดสวรรค์โบราณไว้เองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้รับการดูจากตระกูลเจียงและเขานั้นมีชะตารัศมีสีม่วงที่ส่องสว่างที่สุด

เจียงเจิ้นเทายิ้มออกมา “เฒ่าคนนี้ไม่เห็นอะไรเลย! แต่การที่เฒ่าคนนี้โดนสะท้อนกลับมาแบบนี้มันก็หมายความว่าเพื่อนตัวน้อยเย่หยวนคนนี้มีรัศมีจักรพรรดิแน่นอน!”

เพราะเขาแค่เหลือบมองมันก็แทบทำเขาตาบอดแล้ว!

“รัศมีจักรพรรดิ!” ยอดฝีมือทั้งสามร้องลั่น

รัศมีจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็เคยได้ยินมาก่อน แต่สำหรับเมืองหลวงบ้านนอกอย่างเมืองหลวงลาภสายน้ำนั้น มันไม่มีทางเลยที่จะมีรัศมีระดับนั้นปรากฏตัวขึ้นได้

เพราะเหล่าผู้คนที่มีรัศมีจักรพรรดินั้นล้วนแต่มีพรสวรรค์ที่สะท้านฟ้าดิน พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้เลย!

การเป็นเทพสวรรค์มันก็หมายความว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือบนจุดสุดยอดของโลกแล้ว เป็นตัวตนที่พวกเขาทั้งหลายได้แต่เงยหน้ามอง เป็นตัวตนที่พวกเขาไม่มีทางขึ้นไปเทียบเคียงได้ตลอดชีวิต!

หรือว่าชายหนุ่มคนนี้จะสามารถขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้จริงๆ ในวันข้างหน้า?

หวู่เฉินเคยบอกเรื่องพวกนี้กับเย่หยวนไว้แล้ว เย่หยวนจึงพอเข้าใจความหมายของรัศมีจักรพรรดิอยู่บ้าง

แต่เขาไม่คิดจะสนใจ เพราะสิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือวรยุทธบ่มเพาะที่เจียงเจิ้นเทาใช้ต่างหาก

เย่หยวนยกมือขึ้นมาคำนับก่อนจะกล่าว “ผู้อาวุโสเจียง เย่หยวนผู้นี้มีเรื่องอยากขอร้องท่าน”

ตอนนี้สายตาของทุกผู้คนที่ใช้มองเย่หยวนมันได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง

อนาคตเทพสวรรค์ เขามีค่าให้เอาใจมากแค่ไหน?

เจียงเจิ้นเทาพยักหน้ารับ “ว่ามาสิ”

เย่หยวนบอก “ผู้อาวุโสเจียง ท่านช่วยแสดงปราณเทวะของท่านให้ข้าชมอีกสักครั้งได้หรือไม่? ข้าอย่างจะลองเห็นมันตรงๆ ดูสักครั้ง”

เจียงเจิ้นเทานั้นตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธใดๆ เขาจึงใช้วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลและปล่อยปราณเทวะของตนเองออกมา

หลังมองดูปราณที่เจียงเจิ้นเทาปล่อยออกมาอย่างถี่ถ้วนแล้วเย่หยวนก็ต้องตัวสั่นไปทั้งร่าง

ปราณเทวะนี้มันช่างลึกลับเสียจริงๆ ที่สำคัญกว่าคือเย่หยวนกลับสัมผัสได้ถึงปราณเทวะโกลาหลจากปราณเทวะของเจียงเจิ้นเทา

จิงลู่พูดออกมาอย่างเย็นชา “ไม่มีทาง ข้าไม่ยอมรับ! ลุงหวง ข้าจะสังหารมันให้ได้! ก่อนอื่นก็เพื่อล้างแค้นที่มันทำไว้! อีกอย่างก็คือเพื่อแย่งชิงศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดมาจากมัน หากครั้งนี้เราพลาดไปอีกท่านพ่อคงต้องรออีกนานแสนนานกว่าจะได้มีโอกาสบรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์!”

ลุงหวงนั้นขมวดคิ้วแน่น “นายน้อย เรื่องนั้นอาจจะใช่ แต่ดูท่าทางที่สามขั้วอำนาจมีต่อเด็กคนนั้นแล้วเราคงลงมือไม่ได้ง่ายๆ แน่!”

“ข้าเองก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะลอบสังหารมันในเมือง เมื่อประตูกดสวรรค์โบราณเปิดออก มันจะต้องออกจากเมืองหลวงลาภสายน้ำแห่งนี้แน่ ถึงตอนนั้น…”

จิงลู่มีใบหน้าที่แสนชั่วช้าระหว่างที่พูดเรื่องพวกนั้นออกมา

ลุงหวงคิดอยู่นิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า “นายน้อยพูดมาก็มีเหตุผล! แค่ว่า… เด็กคนนั้นคงมีเบื้องหลังที่ไม่เล็ก หากอยากสังหารมันเราต้องเตรียมตัวกันให้ดี!”

จิงลู่พยักหน้า “อืม ท่านลองไปถามขอความช่วยเหลือจากท่านพ่อหน่อย บอกให้ท่านพ่อส่งยอดฝีมือมา! หึหึ แค่เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนเดียวกลับกล้ามาท้าทายนายน้อยคนนี้ นายน้อยคนนี้จะทำให้เจ้าได้รับรู้ถึงความสิ้นหวังเอง!”

“ขอรับ นายน้อย!” ลุงหวงตอบรับ

ในวันนี้ ที่ด้านเหนือของเมืองได้เกิดแสงส่องสว่างลงมาจากฟากฟ้า

แสงนับร้อยลำกำลังส่องลงมาจากท้องฟ้า ราวกับว่าเป็นแสงสปอตไลท์ที่ส่องลงมายังพื้นโลก

“วงแสงวิญญาณ! นี่มันวงแสงวิญญาณ! ประตูกดสวรรค์โบราณเปิดออกแล้ว!”

ปรากฏการณ์นี้มันทำให้นักยุทธในเมืองตื่นตัวขึ้นมาทันที

ในวินาทีต่อมาพวกเขาทั้งหลายก็รีบวิ่งมุ่งหน้าออกไปด้วยความเร็วที่สุดแสนจะบ้าคลั่ง

ที่รกร้างทางตอนเหนือของเมือง มีประตูหินยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่

ที่หน้าประตูนั้นมีวงแสงปรากฏขึ้นรอบ พร้อมด้วยภาพที่นักยุทธหลายต่อหลายคนต่างต่อสกันเพื่อแย่งชิงพื้นที่ในวงแสงนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ