และภายในก็เปี่ยมไปด้วยพลังงานอันมหาศาล
เย่หยวนไม่คิดจะลังเลและเริ่มก้าวเดินออกไปทันที
เมื่อเข้าไปด้านในความมืดมิดนั้นเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงพลังงานที่เข้ามาปะทะอย่างแรง ราวกับว่ามันต้องการจะผลักเขาออกไปจากความมืดมิดนี้
เย่หยวนเดินมาจนสุดทางนี้ เขาไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากหวู่เฉินเลย
เขาใช้พลังของตัวเองล้วนๆ ในการก้าวเดินมาจนถึงตรงนี้!
แต่พลังของเขานั้นมันยังไม่มากพอจะเทียบเคียงกับเทพถ่องแท้
แต่เมื่อพลังงานวิญญาณมหาศาลถูกปล่อยออกมา เย่หยวนก็รู้สึกว่าร่างของตัวเองกลับมาเบาหวิวอีกครั้ง
การเข้ามาในที่แห่งนี้นั้น นักยุทธจะเข้ามาได้แค่จิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นพลังงานนี้เองมันก็ถูกปล่อยออกมากดแค่จิตวิญญาณของนักยุทธ
แต่พลังของไข่มุกสยบวิญญาณมันรุนแรงจนเกินไปในเรื่องนี้
ต่อให้เป็นเทพถ่องแท้ก็ต้องคุกเข่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน!
ด้วยเหตุนั้นเย่หยวนจึงค่อยๆ เดินหน้าเข้าไปเรื่อยๆ ในห้วงความมืดอันไร้สิ้นสุด
“เรื่องนี้มันเพราะว่าเจ้ายังไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้หรอกนะ ไม่เช่นนั้นชายแก่คนนี้คงไม่ต้องช่วยอะไรเจ้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าจะสามารถผ่านเข้ามาได้สบายๆ” หวู่เฉินยิ้มบอก
เย่หยวนเองก็ยิ้มรับ “ยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้ผู้นั้นคงกำลังตามหาทายาทในอาณาจักรราชันพระเจ้า ถึงได้ทำแบบนี้ล่ะมั้ง? เขาคงไม่เคยคิดว่าจะมีใครในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามาถึงได้ขนาดนี้”
หวู่เฉินพยักหน้ารับ “แน่นอน อาณาจักรราชันพระเจ้านั้นมีพลังสร้างโลก ถึงจะเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ก่อนจะถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วนั้นอาจจะเรียกได้ว่าพวกเขาทั้งหลายเป็นได้แค่ครึ่งพระเจ้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแม้แต่น้อย”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างเหนื่อยใจ “น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเปิดโลกของตนเองได้จนทำให้เขาต้องผิดหวัง”
หวู่เฉินยิ้มออกมา “สมบัติสืบทอดจากยอดฝีมืออาณาจักรเทพถ่องแท้มันช่วยอะไรเจ้าได้ไม่มากหรอก คงมีแต่สมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำเท่านั้นที่จะพอช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง”
ระหว่างที่คุยไปเดินไป จู่ๆ ก็เกิดแสงสว่างขึ้นกลางความมืดของนภาฤกษ์ เป็นแสงที่สว่างจนแทบไม่กล้ามองตรงๆ
“นี่หรือคือสมบัติที่สืบทอดมาจริงๆ สินะ?”
เย่หยวนเดินเข้าไปจนถึงหน้าดวงแสงนั้นในทันที
แต่ทว่าตอนนั้นเองที่จู่ๆ ก็เกิดคลื่นพลังอันน่าเกรงขามกระแทกออกมาจนทำให้เย่หยวนหน้าเสียไปไม่น้อย
คลื่นพลังอันน่าเกรงขามนี้มันรุนแรงจนเกินไป ทำให้เย่หยวนแทบจะต้องหมดสติลง!
และก็เกิดเงาร่างยักษ์ขึ้นมาบนท้องฟ้าสีดำ เขาก้มลงมองมายังเย่หยวนอย่างเย็นชา
สายตานั้นมันผสมผสานไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง
ก่อนที่ร่างยักษ์นั้นจะพูดขึ้น “ไม่นึกเลยว่าผู้ที่มาถึงที่นี่ได้เป็นคนแรกจะเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า ข้าผู้นี้ผิดหวังนัก”
พลังอันอ่อนนุ่มค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเย่หยวนไว้ ทำให้เย่หยวนกลับมาสู่สภาพสมบูรณ์ได้อีกครั้ง
เขาหันหน้าไปมองยังร่างใหญ่นั้นก่อนจะบอก “ประตูกดสวรรค์โบราณแห่งนี้คงเป็นท่านผู้อาวุโสใช่หรือไม่ที่ทิ้งมันไว้”
เย่หยวนนั้นหน้ามืดไปแค่ไม่กี่วินาทีก่อนจะกลับมาเป็นปกติได้ เรื่องนี้มันทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงไม่น้อย
แต่หลังจากหายตื่นตะลึง ร่างนั้นก็ส่ายหัวออกมา “เจ้ามีฝีมือไม่น้อย แต่พรสวรรค์ของเจ้ามันช่างต้อยต่ำ! อายุขัยกว่า 500 ปีแล้วแต่กลับยังไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้! เจ้าไม่เหมาะจะรับการสืบทอดจากข้า!”
ดูท่ายอดฝีมือคนนี้จะมีเงื่อนไขในการรับผู้สืบทอดที่สูงไม่น้อย เขาจึงปฏิเสธเย่หยวนตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น
เพราะขนาดจิงลู่อายุห้าร้อยปีนั้นยังสามารถไปถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ แต่คนระดับนั้นก็ยังไม่ตรงเงื่อนไขของเขาอยู่ดี
ต่อให้เย่หยวนจะเดินมาจนถึงตรงนี้ได้ เขาเองก็มีพลังบ่มเพาะที่ต่ำจนเกินไป เขาจึงเลือกที่จะไม่สนใจเช่นกัน
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้โกรธเคืองใดๆ เขาแค่ยิ้มตอบกลับไป “เย่ผู้นี้เดินมาจนถึงที่นี่แล้ว ข้าจะเอาสมบัติไปหรือไม่ท่านก็คงห้ามไม่ได้”
“โอหัง!”
ยอดฝีมือคนนี้เดือดดาลทันทีที่ได้ยิน เขาชี้นิ้วออกมาและส่งพลังที่ทำให้แม้แต่ท้องฟ้ายังต้องเปลี่ยนสี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...