เย่หยวนจ้องมองไปยังยอดเขายักษ์ใหญ่ที่ปกคลุมด้วยม่านเมฆตรงหน้าด้วยความรู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองกำลังค่อยๆ หลุดลอยออกจากร่าง
อย่างที่โบราณว่าไว้ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ชื่อเขาแห่งถงเทียนนั้นมันโด่งดังไปทั่วฟ้าอย่างที่ไม่มีใครจะไม่รู้จัก
ก่อนหน้านี้เย่หยวนได้คิดถึงภาพของเขาแห่งถงเทียนแห่งนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เมื่อได้เห็นมันจริงๆ ตอนนี้ เขาก็ยังต้องสั่นสะท้านไปถึงทรวงใน
ทุกคนว่าเขาแห่งถงเทียนนั้นเป็นเขาที่มีทุกแนวคิดบนมหาพิภพถงเทียนรวบรวมไว้ที่เดียวนี้ และดูท่ามันคงไม่ผิดเสียแล้ว!
เขาลูกนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลออกไปมาก แต่เย่หยวนกลับรู้สึกว่าตัวเขามองเห็นมันได้ไม่ชัดเจนนัก ราวกับว่ามีม่านหมอกบางอย่างมาบดบังสายตาไว้อย่างลึกลับ
เขารู้สึกได้ถึงกระแสลม คลื่นของยอดเต๋า รู้สึกว่าร่างกายทั้งร่างกำลังค่อยๆ ไกลเข้าสู่ยอดเขานั้น
“เย่หยวน! หยุดมองมันได้แล้ว!”
เย่หยวนนั้นรู้สึกราวกับตัวเองหลุดจากมนต์สะกดเมื่อได้ยินเสียนั้น ทำให้เขากลับมาได้สติในทันที
ร่างของเย่หยวนสั่นเทา เสื้อผ้าที่ใส่มาชุ่มเหงื่อไปจนเกือบทั่ว
“ก-เกิดอะไรขึ้น?” เย่หยวนถามด้วยความกลัว
“เจ้าช่วยเด็กคนนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมันกำลังแยกออกจากร่างแล้ว!” หวู่เฉินบอก
เย่หยวนนั้นตื่นตระหนกไม่น้อยก่อนจะหันหน้าออกไปมองและพบว่าหนิงเทียนปิงกำลังค่อยๆ มีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หลุดไหลออกไปจากร่าง
“เทียนปิง! กลับมา!”
เย่หยวนจะโกนลั่นทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหนิงเทียนปิงดีดกลับเข้าร่างได้ทัน
“น-นายใหญ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?” หนิงเทียนปิงถาม
หวู่เฉินบอก “พวกเจ้านั้นไม่มีพลังมากพอและกำลังจะพ่ายต่อพลังของยอดเต๋า! การมองเขาแห่งถงเทียนตรงๆ แบบนั้นมันจึงทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าหลุดลอยออกจากร่าง หากถูกกลืนเข้าไปในพายุยอดเต๋าแล้วคงถูกปานจนแหลกเป็นผงแน่!”
เย่หยวนตื่นตระหนกไม่น้อยเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปบอกหนิงเทียนปิงอีกครั้ง ทำให้คนทั้งสองเกิดความกลัวขึ้นมาจับใจ
สมชื่อเขาแห่งถงเทียนจริงๆ แค่มองนิดเดียวก็มากพอจะพรากวิญญาณผู้คนไป
โม่ลี่เฟยเองก็พูดตามขึ้นมา “เฮ้อ เด็กน้อย ข้ายังไม่ทันได้พูดอะไรจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าก็หลุดออกจากร่างไปเสียก่อนแล้ว!”
เพราะเขานั้นไม่ได้มีปราณเทวะที่รุนแรงดั่งหวู่เฉิน เขาจึงได้แต่ตะโกนออกไปอย่างไม่หยุดยั้งแต่หนิงเทียนปิงก็ไม่ได้ยินมันแม้แต่น้อย
หนิงเทียนปิงหายใจเข้าลึกก่อนจะบอก “เขาแห่งถงเทียนช่างยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ เรื่องที่ว่ามหาพิภพถงเทียนทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากมันก็คงไม่ผิดนัก!”
จู่ๆ เย่หยวนก็เกิดตัวสั่นสะท้านขึ้นมาราวกับว่ามีสายฟ้าฟาดลงกลางตัว เหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างออกได้!
แต่ทว่ามันก็เหมือนเขาไม่อาจจะเข้าใจมันได้
นี่เป็นความเข้าใจที่ผ่านมาและผ่านไปราวสายฟ้า เร็วจนเย่หยวนจับความคิดนั้นไว้ไม่ทัน
มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับถูกมดทั้งรังรุมกัดกินหัวใจ ความคันในอกในใจนี้มันยากเกินกว่าที่จะทนทานได้
“นายใหญ่ เป็นอะไรไป?” หนิงเทียนปิงเห็นท่าทางแปลกๆ ของเย่หยวนจึงอดไม่ได้ที่จะถาม
“เด็กน้อย เงียบปากก่อน! ดูท่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว อย่าได้ไปกวนเขา” โม่ลี่เฟยบอก
หนิงเทียนปิงนั้นไม่ค่อยเข้าใจความหมายนั้นสักเท่าใด แต่ก็เงียบปากลงตามที่อาจารย์สั่ง
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นพยายามนึกย้อนกลับไปถึงเสี้ยววินาทีนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถจำความคิดที่แล่นผ่านไปอย่างรวดเร็วนั้นได้
สุดท้ายเขาจึงได้แต่ถอนหายใจยาวออกมา
“เด็กน้อย เจ้าเข้าใจอะไรแล้วหรือ?” หวู่เฉินถาม
แต่เย่หยวนกลับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “มันรู้สึกเหมือนข้าจะใกล้จะเจาะกระดาษนี้ขาดแล้ว ขาดอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่กลับไม่สามารถที่จะผ่านมันไปได้”
หวู่เฉินเบิกตากว้าง “ไม่ต้องรีบไป ดูท่าการเดินทางมาครั้งนี้จะไม่พลาดแล้ว! เมื่อเจ้าได้เข้าเขาแห่งถงเทียนไป บางทีความคาใจใดๆ ทั้งหลายมันอาจจะคลี่คลายลงทันทีเลยก็ได้”
เย่หยวนพยักหน้ารับเมื่อได้ยินและพยายามบอกตัวเองว่าเช่นนั้นด้วย
“นายใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”
หนิงเทียนปิงนั้นเห็นท่าทางของเย่หยวนเมื่อสักครู่นี้เขาก็พอรู้ได้ว่าเย่หยวนน่าจะจับความคิดที่แล่นผ่านมาไว้ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...