ซันหานกำลังคิดที่จะร่ายภูมิหลังของตัวเองก่อนที่จะถูกเฒ่าขี้เมาปล่อยคลื่นพลังเข้าใส่ ซัวหานหน้าซีดเผือดลงทันทีที่รับมันไว้จนต้องคุกเข่าลงกับพื้นในทันที
เฒ่าขี้เมาบอก “เจ้ากล้าจะขู่ข้าเรอะ? อย่าว่าแต่ซัวชิหลงเลย ต่อให้จี้ฉุนมาเองข้าก็จะไล่มันให้หางจุกตูด!”
เฒ่าขี้เมาคนนี้มีพลังกดดันที่มหาศาลมาก เหล่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้ารอบๆ เองถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปตามๆ กัน
พวกเขานั้นไม่สามารถทนทานรับแรงกดดันจากเฒ่าขี้เมาคนนี้ได้เลย
“หึ! เก็บความอวดดีของเจ้าไว้ใช้ที่บ้านเถอะเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าเฒ่าคนนี้แล้วมันช่างไร้ค่า! แม้ว่าจะไม่มีใครลงมือได้เมื่ออยู่ใกล้เขาแห่งถงเทียน แต่แค่การกำจัดทารกเช่นเจ้าเฒ่าคนนี้แค่มองครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว!”
ตอนนี้พวกเขาจะยังเห็นเฒ่าขี้เมาเป็นแค่คนเมาได้อีกหรือ? ตอนนี้ที่พวกเขาเห็นตรงหน้าคือยอดฝีมือล้ำฟ้าคนหนึ่ง
ขนาดเย่หยวนเองก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันนั้น
แน่นอนล่ะว่าการสังหารซัวหานนั้นมันง่ายเสียยิ่งกว่าเหยียบมด เขาไม่ต้องโจมตีใดๆ ออกมาเลยด้วยซ้ำ
“น-นายใหญ่ เรา… เราจะมอบให้แล้ว!”
พูดจบซัวหานก็ทำท่าเหมือนหมดแรงไปทั้งร่าง
เฒ่าขี้เมาดึงพลังกลับมาและกล่าวขึ้น “เด็กน้อยที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง! ซัวชิหลงมันไม่ได้สั่งสอนเจ้าก่อนออกมาหรืออย่างไร?”
พลังกดดันที่ทุกคนสัมผัสได้ค่อยๆ เบาบางลง แต่สายตาแห่งความหวาดกลัวที่มองมายังเฒ่าขี้เมาก็ไม่เสื่อมตาม
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ว่าเมืองตีนใต้นี้มันแข็งแกร่งมากมายเพียงใด!
ซัวหานกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมาเลยแม้แต่น้อย
เขารู้สึกได้เลยว่าเฒ่าคนนี้คิดจะฆ่าผู้คนจริงๆ
ที่สำคัญอีกฝ่ายยังไม่คิดเกรงกลัวปู่ของเขาอย่างซัวชิหลงเลยแม้แต่น้อย!
และที่สำคัญจี้ฉุนคือใคร?
นั่นคือชื่อของเจ้าเมืองจักรพรรดิสวรรค์นที!
ตำนานจุดกำเนิดของเมืองที่ตีนเขาแห่งถงเทียนนี้มันมีหลายต่อหลายเรื่องเล่า
บ้างว่าพวกเขาดูแลโดยลูกหลานของจักรพรรดิเทพสวรรค์ บ้างว่ามันถูกควบคุมโดยเต๋าบรรพกาล!
แต่ที่แน่ๆ ในทุกเรื่องราวคือพวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่จะไปแตะต้องได้เลย!
ศิษย์ทั้งสองของเมืองจักรพรรดิสวรรค์นทียื่นป้ายไม้ออกมาให้เย่หยวนและหนิงเทียนปิงอย่างไม่เต็มใจนัก
หนิงเทียนปิงรับป้ายไม้มาและนำมันไปโบกตรงหน้าซัวหานด้วยรอยยิ้ม “นี่ๆ เรามีป้ายไม้แล้วนะ”
ซัวหานแทบคลั่ง!
ได้ใจ! ได้ใจไปก่อนเถอะ! อยากรู้จริงๆ ว่าพวกเจ้าจะรอดจากยอดเต๋าของเขาแห่งถงเทียนได้หรือไม่!
ซัวหานใช้วิธีนี้ปลอบใจตัวเองไว้ แต่จริงๆ มันก็ไม่ควรเรียกว่าการปลอบใจนัก เพราะเขารู้สึกได้ว่าเมื่อขึ้นไปถึงเย่หยวนต้องถูกบดขยี้อย่างแน่นอน
เฒ่าขี้เมาหันมามองซัวหานอีกนิดหน่อยก่อนจะสั่ง “พวกเจ้ากล้าท้าทายอำนาจแห่งผู้พิทักษ์ พวกเจ้าสองคนนั้นห้ามปีนเขาแห่งถงเทียนไปอีกสามปี!”
ซัวหานหน้าเสียอีกครั้งก่อนจะพยายามเปิดปากพูดอะไรออกมา แต่เมื่อนึกถึงภาพพลังอันน่าเกรงขามของเฒ่าขี้เมาแล้วเขาก็ได้แต่ต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไป
เพราะยิ่งพูด โทษมันก็จะยิ่งหนัก
ซัวหานนั้นไม่ได้โง่ถึงขั้นนัน เขาพอรู้จักแยกแยะอยู่บ้าง
เขาแค่ไม่เข้าใจว่ายอดฝีมือระดับนี้จะมาสนใจอะไรในเด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ากัน
คนทั้งสองนั้นหน้าซีดเผือดด้วยท่าทางราวกับกำลังจะร้องไห้
เมื่อผู้ยิ่งใหญ่ผิดหมางกัน คนผู้น้อยอย่างพวกเขานี่แหละที่จะลำบากแทน
ทั้งๆ ที่เป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางจะพูดอะไรออกมาได้
เฒ่าขี้เมาบอก “ที่นี่ เฒ่าคนนี้คือกฎ! ข้าบอกให้ทำอะไรก็จงทำอย่างว่าง่าย! เอาล่ะเริ่มการขึ้นเขาได้!”
ยามเกราะสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเริ่มปล่อยผู้คนเดินขึ้นไป
แต่ละคนต้องแสดงป้ายไม่ออกมาก่อนที่จะสามารถขึ้นไปได้
เย่หยวนหันมาหาเฒ่าขี้เมาก่อนจะยกมือขึ้น “ขอบพระคุณผู้อาวุโส!”
เฒ่าขี้เมายกเหล้าขึ้นดื่มและโบกมือเป็นการไล่ให้พวกเขารีบๆ ขึ้นไปได้แล้ว
เมื่อเห็นว่าร่างของเย่หยวนหายเข้าไปในเส้นทาง ประกายแห่งความกังวลก็กลับมาปรากฏในดวงตาของเฒ่าขี้เมา
เพราะไม่ว่าหวู่เฉินจะยืนยันยังไงว่าเย่หยวนจะไม่เป็นไร แต่นี่มันคือเขาแห่งถงเทียน มันคือสิ่งที่ทรงพลังและน่ากลัวที่สุดในโลกหล้า
และเย่หยวนนั้นเป็นถึงผู้สืบทอดของจอมเทพนิรันดร์ หากเขาต้องมาตายลงในที่แบบนี้ ความหวังแก้แค้นใดๆ ก็คงดับวูบลงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...