หลังผ่านไปได้หลายวัน ในที่สุดโถงบัลลังก์ม่วงก็มาถึงหุบเขาหนึ่ง
แต่จู่ๆ โถงบัลลังก์ม่วงกลับเหมือนเข้าไปติดอะไรสักอย่างและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แม้แต่คืบเดียว
“นายใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกัน?” หนิงเทียนปิงถามอย่างตื่นตระหนก
เย่หยวนจึงขมวดคิ้วแน่น “เหมือนว่ามันจะมีตัวอะไรที่เรากำจัดไม่สิ้นซากเลยวกกลับมาไล่กัดเราอีกนะ มาเถอะ ออกไปดูมันหน่อย”
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เมื่อคนทั้งสองเผยร่างออกมาก็มีลูกศรธนูจำนวนนับสิบพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
หนิงเทียนปิงหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เห็นมัน “นายใหญ่ระวัง!”
ปกติแล้วพวกเขาคงสามารถหลบลูกศรอันคมกริบเหล่านี้ได้ไม่ยาก
แต่ตอนนี้มันเหมือนกับพวกเขากำลังยืนอยู่ในหล่มโคลนที่ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขาลงอย่างมาก
เย่หยวนรู้สึกได้ว่าแม้แต่แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาเองก็ไม่สามารถใช้ออกมาได้เช่นกัน!
ตอนนี้พวกเขากำลังติดอยู่ในค่ายกลอันทรงพลัง
แต่สิ่งที่อันตรายเสียยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือเมื่อเหล่าลูกศรเหล่านั้นมันเข้ามาในเขตของค่ายกลแล้ว มันกลับไม่ช้าลงเหมือนผู้คนด้านใน แต่กลับยิ่งเร่งความเร็วขึ้นแทน
มันเป็นจังหวะเวลาที่พอดิบพอดีจนไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้เข้าไปในโถงบัลลังก์ม่วงอีกครั้ง
ในเวลานั้น เย่หยวนจึงร้องคำรามขึ้น
แสงสีทองสาดออกมาจากร่างของเขาและลายสีฟ้านั้นเองก็ราวกับลุกขึ้นมามีชีวิตก่อนจะพุ่งออกไปวนรอบตัวเย่หยวน
ตอนนี้ร่างทั้งร่างของเย่หยวนรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาล
เสียงมังกรคำรามของเขาดังทะลุฟ้า!
มันคือเสียงแห่งเทพมังกรที่ไม่ได้เห็นมานานแสนนาน!
ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงนั้นตื่นตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้ามาก
เขาไม่เคยรู้เลยว่านายใหญ่ของเขายังมีไม้เด็ดแบบนี้เก็บซ่อนไว้อยู่
คลื่นเสียงอันรุนแรงกระแทกออกมาจากร่างของเขาและทำลายลูกศรเหล่านั้นลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี
เรื่องพลังของเสียงแห่งเทพมังกรนี้ เย่หยวนเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะรุนแรงได้ถึงขั้นนั้น
เหล่าลูกศรเหล่านี้ดูท่าแล้วคงเป็นเครื่องรางนภาสวรรค์ชั้นสูงแน่ มันถึงได้ดูอันตรายได้ปานนั้น
ที่สำคัญนอกจากนี้แล้วมันยังมีค่ายกลที่เสริมพลังให้ลูกศรอีก พวกมันสามารถเข้ามาด้านในได้โดยไม่ถูกพลังของค่ายกลขัดขวางเลย
เดิมทีเย่หยวนคิดแค่ว่าจะคำรามและเบี่ยงวิธีของลูกศรเหล่านั้นไปด้วยเสียงแห่งเทพมังกร แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันจะถึงขั้นทำให้ลูกศรเหล่านั้นแหลกเละเป็นชิ้นๆ แบบนี้ได้
เสียงคำรามที่ทำลายเครื่องรางนภาสวรรค์ได้ เจ้าเสียงแห่งเทพมังกรนี้มันจะต้องทรงพลังแค่ไหนกัน?
เย่หยวนนั้นตื่นเต้นในหัวใจมาก เพราะเขารู้ได้เลยว่าทุกอย่างมันต้องเกิดขึ้นเพราะเจ้าลายสีฟ้านี้แน่ๆ
หลังจากหลบรอดวินาทีสังหารนั้นได้ หนิงเทียนปิงก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลท่วมกาย
เขารู้ดีว่าเมื่อสักครู่นี้พวกเขาถูกล้อมและทางข้างหน้ามันมีแต่ประตูนรกที่รออยู่
หากไม่ได้เย่หยวนช่วย ตัวเขาคงมีรูเพิ่มขึ้นอีกหลายรู
และที่ด้านนอกค่ายกลนั้นก็มีกลุ่มคนที่ปรากฏตัวขึ้นบนเนินเขา
เซียงหยุนเฟยถาม “หัวหน้าเหอ ไหนเจ้าอวดนักอวดหนาว่าศรตัดวายุของเจ้ามันดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ทำได้แค่นี้รึ? แค่เสียงคำรามครั้งเดียวจากเจ้าเด็กคนนั้นศรของเจ้ากลับกลายเป็นผุยผงไป! เป็นผุยผงเลยนะ! ข้าอุตส่าห์เอาทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดมาให้แล้วแท้ๆ แต่เจ้าตอบแทนมันได้แค่นี้หรือ?”
ที่ด้านนอกค่ายกลใหญ่นี้พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของเสียงแห่งเทพมังกรของเย่หยวนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...