“ใครกัน หยุดนะ! หืม? เจ้า… ท่านผู้อาวุโสเย่หยวน!” ยามคนนั้นเบิกตาโพลงทันทีหลังจากจำใบหน้าของเย่หยวนได้
“โอ้? เจ้ารู้จักข้าด้วย?” เย่หยวนยิ้ม
ยามคนนั้นจึงยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสเย่คงล้อเล่นแล้ว ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มีใครบ้างที่ไม่รู้จักท่าน!”
เย่หยวนหัวเราะออกมา “ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ทุกคนต่างรู้จักข้าในนามเจ้าคนไม่เอาไหน!”
ยามคนนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีที่ได้ยิน “ผู้อาวุโสเย่ ไม่ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไรคฤหาสน์เจิ่งของพวกเรานั้นจะไม่มีใครผู้ใดกล้าพูดจาว่าร้ายท่านแบบนั้นแน่ รวมไปถึงข้าน้อยคนนี้ด้วยเช่นกัน! ผู้อาวุโสใหญ่นั้นเคยได้ถูกท่านช่วยชีวิตไว้ หากมีใครกล้าพูดจาว่าร้ายผู้มีพระคุณ หากเป็นเรื่องเล็กน้อย มันผู้นั้นจะถูกไล่ออกจากคฤหาสน์เจิ่งทันที หากเป็นเรื่องร้ายแรง มันผู้นั้นจะต้องโทษประหารสถานเดียว!”
เย่หยวนไม่คิดไม่ฝันว่าเจิ่งชีจะถึงกับใช้มาตรการแบบนี้ในการปิดปากทุกคนไว้ แต่แค่นี้มันก็แสดงให้เห็นถึงความภักดีและน้ำใจสหายเช่นกัน
เย่หยวนจึงพยักหน้ารับ “แล้วผู้อาวุโสใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อได้ยินคำถามนั้นยามคนดังกล่าวก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “เฮ้อ สภาพของผู้อาวุโสใหญ่นั้นแย่ลงไปทุกวัน ผู้อาวุโสใหญ่ซวนอี้เองก็พยายามอย่างสุดความสามารถในทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถจะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้ ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่นั้นไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้แล้ว”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นทันที “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ก่อนที่เย่หยวนจะจากไปเขายังตรวจดูร่างกายของเจิ่งชีอย่างดี และคิดว่าอาการมันน่าจะยังไม่ทรุดจนถึงขั้นลุกไม่ได้เร็วปานนี้
เมื่อได้ยินยามคนนั้นเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่ให้ฟัง ความโกรธแค้นในจิตใจของเย่หยวนก็ปะทุขึ้นอีกครา
ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ของเมืองจักรพรรดิยอดสันติออกมาจากการเก็บตัวและได้ข่าวเรื่องการจากไปของเกาหยุน จึงออกมาหาเขาถึงที่
ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ผู้นั้นมาเพื่อหาเรื่องเย่หยวนและเจิ่งชีอย่างเต็มตัว
แต่เมื่อเขามาถึงเขากลับได้รับข่าวว่าเย่หยวนได้ออกจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ไปก่อนแล้ว
เมื่อยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์มาถึงเช่นนั้น เรื่องราวมันจึงไม่มีทางที่จะจบลงได้ง่ายๆ แน่
กำลังของเมืองจักรพรรดิยอดสันตินั้นเหลือล้ำกว่าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มาก ฝ่ายนั้นมียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ถึงสี่คน ส่วนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมีแค่สอง
หลังจากยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์คนนั้นมาถึง เขาก็สั่งให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ลงโทษประหารเย่หยวนและส่งเขาหน่วงเทพบรรพกาลมาเสีย
นอกจากนั้นเขายังส่งให้ศิษย์คนหนึ่งของเกาหยุนมาท้าดวลกับเจิ่งชี บอกว่ามันเป็นการแก้แค้นให้อาจารย์
มันเป็นเรื่องราวที่คล้ายกับเรื่องของเจิ่งชีไม่มีผิดเพี้ยน
ต่างกันก็แค่ตอนนั้นเกาหยุนนั้นเป็นคนเจ้าเล่ห์มากกลใช้กลยุทธและอุบายในการทำร้ายอีกฝ่ายลง
แต่เรื่องราวในครั้งนี้มันไร้สาระอย่างไม่มีคำเปรียบ
เพราะสภาพร่างกายของเจิ่งชีในตอนนี้มีหรือที่จะทนรับการต่อสู้ได้อีก?
แต่ทว่าเจิ่งชีกลับเลือกที่จะยืนกรานในคำของตัวเองและบอกว่าเรื่องราวของการสังหารเกาหยุนที่เหวอัญเชิญปีศาจนั้นเป็นฝีมือของเขาแต่เพียงผู้เดียว เย่หยวนไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ด้วย
นอกจากนั้นเขายังกล้าที่จะรับคำท้า
และแน่นอนว่าผลมันก็ออกมาอย่างไม่ต้องคาดเดา
เจิ่งชีแพ้อย่างราบคาบและบาดเจ็บหนักด้วยน้ำมือของศิษย์เกาหยุนคนนั้น ตอนนี้เขาจึงมีสภาพกึ่งเป็นกึ่งตาย
เย่หยวนนั้นโกรธแค้นกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเมื่อได้ยิน คลื่นพลังของอาณาจักรวายุพระเจ้าของเขาหลั่งไหล่ออกมาสู่โลกภายนอก “ล้างแค้นบ้าบออะไร? นี่มันคิดจะมาขโมยเขาหน่วงเทพบรรพกาลชัดๆ”
ยามคนนั้นมีพลังเพียงแค่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้า เมื่อต้องมาเจอกับแรงกดดันจากเย่หยวนแล้วหน้าของเขาจึงถอดสีทันที
ยามคนนั้นตื่นตะลึงอยู่ในใจ เพราะตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนมิได้อยู่ในอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าอีกต่อไปแล้ว
คลื่นพลังระดับนี้มันต้องเป็นอาณาจักรราชันพระเจ้าแน่!
ผู้อาวุโสเย่บรรลุแล้วจริงๆ ?
เย่หยวนเริ่มรู้สึกตัวถึงสภาพดูไม่จืดของยาม เขาจึงรีบเก็บคลื่นพลังกลับเข้าตัวไปทันที “เจ้าเข้าไปบอกพวกเขาว่าข้ากลับมาแล้ว”
ยามคนนั้นรีบตอบ “ผู้อาวุโสเย่คงล้อเล่นแล้ว ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่นั้นอยู่ในสวน ผู้อาวุโสใหญ่ซวนอี้และผู้อาวุโสใหญ่เล่งหยูเองก็เช่นกัน เรียนเชิญ!”
เย่หยวนพยักหน้ารับและหยิบโอสถเม็ดหนึ่งออกมาโยนให้อีกฝ่ายไป “ขอบคุณที่ลำบาก นี่ข้าให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...