เสียงของหรงซูลอยไกลออกไปเรื่อยๆ จากนั้นห้องโถงทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบงันทันที ตอนนี้แม้แต่เสียงเหรียญตกลงพื้นก็คงดังจนทุกคนได้ยิน
เวลาหลายหมื่นปีมานี้ไม่มีใครกล้าที่จะโยนหรงซูลงนรกฟอกเทพมาก่อน แต่เย่หยวนกลับกล้าที่จะทำมัน!
หรงซูเป็นใคร?
เขาคือยอดคนที่ดูแลเรื่องราวในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มาหลายหมื่นปี
ต่อให้เป็นอดีตผู้อาวุโสใหญ่เจิ่งชีก็ไม่กล้าที่จะว่ากล่าวเขาใดๆ มากนัก
และเอาเข้าจริงเจิ่งชีนั้นมีเรื่องราวไม่พอใจกับหรงซูมาแต่เก่าก่อนมากมาย เพียงแค่ว่าเขานั้นยอมเลือกที่จะกลืนความไม่พอใจเหล่านั้นลงคอไปอย่างไม่ปริปากบ่น
เพราะยังไงเสียหอยุทธก็ต้องการความช่วยเหลือสนับสนุนจากหอโอสถอย่างมาก
ต่อให้เป็นซวนอี้ที่ขึ้นมารับจำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่แทน เรื่องราวภายในจริงๆ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากมาย
เล่งหยูนั้นไม่พอใจหรงซูมาก แต่ก็ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรกับตัวเขาตรงๆ
แต่วันนี้เย่หยวนกลับกล้าที่จะลงมือทำ!
การขังไว้ในนรกฟอกเทพสามเดือนนั้นเป็นเวลาที่ไม่นานเลย แต่ไม่ว่าจะยังไงการลงโทษนี้มันก็เป็นการลงโทษที่แสนจะรุนแรงอยู่ดี
ที่สำคัญกว่าก็คือสำหรับหรงซูแล้ว คนที่ยิ่งใหญ่ถือยศศักดิ์แบบเขาแล้ว มันจะเป็นความอับอายที่หาใดมาเปรียบไม่ได้
หลังออกมาแล้วเขาจะยังมีหน้าไปสู้ผู้คนได้อย่างไร?
เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาที่สุดสะพรึง
ทุกคนรู้ดีว่าการเปลี่ยนหัวหน้านั้นมันย่อมส่งผลความเปลี่ยนแปลงต่อภาพรวมขององค์กรไป แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มันจะไม่รุนแรงไปหน่อยหรือ?
เพราะตำแหน่งของหรงซูในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แห่งนี้มันแสนจะยิ่งใหญ่ กลุ่มก้อนของเขานั้นฝังรากลึกลงไปจนถึงแก่นของเมือง แค่โยนเขาลงนรกฟอกเทพนั้นมันไม่มีทางที่จะขุดรากถอนโคนอำนาจของเขาได้เลย
เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหรงซูต่างหันมามองเย่หยวนอย่างไม่เป็นมิตร
ผู้อาวุโสใหญ่คนใหม่นี้ยังขาดประสบการณ์ไปมาก เขาคิดจริงๆ หรือว่าจะล้มหรงซูได้จริง?
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เขาแค่นั่งลงบนที่นั่งทรงเกียรติและหันไปมองหน้ทุกผู้คนก่อนจะเปิดปากขึ้นพูด “จากวันนี้ไป หากมีใครกล้าขัดขืนหัวหน้าของตนพวกมันจะต้องรับโทษเดียวกับหรงซู! นอกจากนั้นผู้อาวุโสคนนี้เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่ง ข้าจึงต้องการจะแจกจ่ายผลประโยชน์ให้แก่ทุกคนไป จากวันนี้เป็นเวลาสามเดือน เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายสามารถมาหาข้าเพื่อใช้แต้มความดีแลกกับการให้ข้าหลอมโอสถให้ได้! พวกเจ้าจะให้ข้าหลอมโอสถให้ศิษย์ของพวกเจ้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน!”
เมื่อเย่หยวนบอกไปเช่นนั้นเขาก็พบว่าเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างแสดงท่าทีไม่สนใจออกมา ไม่มีใครคิดที่จะมาหาเขาเพื่อขอให้หลอมโอสถให้แน่
แต่แม้สถานการณ์เช่นนี้ เย่หยวนก็คาดเดาถึงมันไว้หมดแล้ว
หรงซูนั้นมีเส้นสายที่ลึกลงในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มาก เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายนั้นไม่ว่าจะมาจากหอยุทธหรือหอโอสถต่างไม่กล้าที่จะลบหลู่เขา
เพราะตอนนี้สงครามเพิ่งเริ่มยังไม่มีท่าทีว่าใครจะแพ้หรือชนะ มีหรือที่พวกเขาจะกล้าเสี่ยงเลือกข้างไปก่อนแต่แรกแบบนั้น?
แต่เป็นเวลานั้นเองที่หนิงจื่อหยวนที่เงียบมาตลอดการประชุมเปิดปากขึ้นถามเย่หยวนด้วยสีหน้าแสนตื่นเต้น “ผู้อาวุโสใหญ่ ข้าสงสัยว่า… ท่านจะสามารถหลอมโอสถทะยานสมุทรแยกมิติได้หรือไม่?”
เย่หยวนหันไปมองหนิงจื่อหยวนอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าคนที่เข้ามาหาในครานี้คนแรกจะเป็นเขา
เพราะการที่ลุกขึ้นมาถามเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าเขาไม่ไว้หน้าหรงซูแล้ว
แต่หากลองคิดดู เย่หยวนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย
เพราะเทียบกับการแตกหักกับหรงซูแล้ว หนิงจื่อหยวนนั้นเลือกที่จะเพิ่มพลังของตนแทน
เมื่อมาถึงระดับหนิงจื่อหยวน มันก็มีโอสถไม่กี่อย่างที่จะเพิ่มพลังฝีมือของเขาไปได้
และหนึ่งในนั้นก็คือโอสถทะยานสมุทรแยกมิตินี้นี่เอง
เมื่อมาถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วทุกสิ่งอย่างต่างไม่พึ่งพาพลังปราณอีกต่อไป สิ่งที่พวกเขาทั้งหลายต้องพัฒนานั้นคือพลังโลก
หนิงจื่อหยวนนั้นหยุดติดที่อาณาจักรราชันพระเจ้าแปดดาวมานานหลายต่อหลายปี และไม่มีทีท่าว่าจะบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวได้เสียที
เขานั้นไปหาหรงซูหลายต่อหลายคราเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยหลอมโอสถทะยานสมุทรแยกมิติ หรงซูลองดูหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลวมาตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...