แต่เขาก็ไม่สามารถจะกล่าวเถียงใดๆ ออกไปได้
เขาอยากก้มหัวกระดิกหางไหม?
แน่นอนสิว่าอยาก!
อยากจนแทบคลั่งเลยล่ะ!
จะมีใครบ้างที่จะปฏิเสธโอกาสในการบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาว?
หากเย่หยวนให้โอกาสเขาได้ก้มกราบ เขาก็ย่อมต้องทำอย่างแน่นอน!
แต่ปัญหาคือ เย่หยวนจะให้โอกาสเขาไหม?
หนิงจื่อหยวนนั้นปล่อยคลื่นพลังที่แสนหนักหน่วงออกมาจากร่าง
นั่นคือพลังที่เป็นของอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวอย่างแน่นอน!
ตัวเขา ฉีเฟิงนั้นหลงใหลในพลังนั้นอย่างมาก!
เมื่อหันไปดูอีกครา ตอนนี้เขาก็ได้เห็นว่าเหล่าผู้เฒ่าเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง ยังจะมีร่องรอยของไม้ใกล้ฝั่งให้ได้เห็นอีกหรือ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนิงชางไห่คนนั้นที่บรรลุสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าเจ็ดดาวได้ในคราเดียว ตอนนี้เขาจึงมีสิทธิที่จะเข้าร่วมสมาคมผู้อาวุโสของเมืองแล้วด้วย!
ตระกูลหนิงกำลังจะได้ที่นั่งผู้อาวุโสไปอีกตำแหน่ง!
เรื่องนี้มันแสนจะยิ่งใหญ่
“หึ ผู้นำตระกูลเรานี่ฉลาดจริงๆ ครานี้ตระกูลหนิงเราคงเฉิดฉายแสงจ้าจนเงาทับตระกูลหนิงสิ้นแน่!”
“ในวันข้างหน้า ตระกูลหนิงเราจะรับทำตามคำสั่งผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนอย่างไม่ขัด!”
“โอ้ พวกเจ้าเองก็รีบๆ ไปหาทางทำให้ผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนใจเย็นลงเถอะนะ! ฮ่าๆ”
เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหนิงนั้นต่างแสดงท่าทางอวดดีออกมาอย่างมากมาย ภาพตรงหน้านี้มันเหมือนกับภาพของตัวร้ายที่ได้เหลิงในพลังไม่มีผิด
แต่ทว่าพวกเขานั้นก็มีสิทธิที่จะอวดดีได้
เพราะพวกเขารู้ดีว่าในวันข้างหน้าคงไม่มีตระกูลใดเทียบเคียงตระกูลหนิงได้อีกแล้ว
เย่หยวนนั้นคงไม่ใจจืดใจดำกับตระกูลอื่นๆ ไปได้ตลอด แต่เขานั้นก็คงไม่มีทางดูแลตระกูลอื่นดีเหมือนตระกูลหนิงแน่
มันคือความแตกต่างในสายสัมพันธ์ที่มี
หนิงจื่อหยวนนั้นหัวเราะ “ฉีเฟิง อย่าได้หาว่าข้าไม่เตือนเลยนะ เจ้าคงพยายามใช้สมองที่มีเพื่อหาวิธีจะตัดสายสัมพันธ์กับหรงซูเอาเถอะ นั่นคงเป็นความหวังสุดท้ายของเจ้าแล้ว ฮ่าๆๆ”
พูดจบหนิงจื่อหยวนก็พากลุ่มคนเดินจากไป
ฉีเฟิงนั้นได้แต่ขมวดคิ้วอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
และไม่ใช่แค่ฉีเฟิง แต่รวมไปถึงเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ ด้วย
เพราะในคำพูดนั้นของหนิงจื่อหยวนมันแฝงคำใบ้ไว้อยู่!
…
เวลาสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาสามเดือนมานี้หรงซูต้องทนทุกข์ทรมานถูกกัดกินจิตใจไปจนทำให้ร่างของเขาผอมบางลงอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากมาจากนรกฟอกเทพได้หรงซูก็กัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น “เย่หยวน เจ้าคิดว่าได้เป็นผู้อาวุโสใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบรึ? ชายแก่คนนี้จะสั่งสอนเจ้าเองว่าอะไรมันควรยุ่งไม่ควรยุ่ง!”
หรงซูไม่คิดจะกลับที่พักเสียด้วยซ้ำและมุ่งหน้าตรงไปที่บ้านตระกูลฉีทันที
แต่สิ่งไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นตรงหน้าเขา เพราะคนที่ออกมาต้อนรับเขานั้นหาใช่ฉีเฟิง แต่เป็นฉีซงแทน
คนที่ตระกูลฉีส่งออกมารับเขาคือฉีซง เมื่อได้เห็นหรงซูฉีซงก็ยกมือขึ้นคารวะทันที “ฉีซงคารวะผู้อาวุโสที่สาม”
หรงซูหน้าเสียทันทีที่ได้ยิน “ฉีซง เจ้าเรียกข้าว่ายังไงนะ?”
จากผู้อาวุโสใหญ่ลงมาเป็นผู้อาวุโสที่สอง จากผู้อาวุโสที่สองลงมาเป็นผู้อาวุโสที่สาม เรื่องนี้มันทำให้หรงซูปวดใจอย่างมาก และยังเป็นเรื่องที่หรงซูอับอายที่สุดด้วย
แต่ฉีซงคนนี้กลับพูดมันออกมา!
แต่ว่าฉีซงก็ตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย “ผู้อาวุโสที่สาม เรื่องราวทั้งหลายนี้ล้วนเป็นการตัดสินใจของท่านเจ้าเมือง! ข้า…ฉีซงผู้นี้เป็นแค่ผู้น้อยคนหนึ่ง ผู้อาวุโสที่สามเองก็ถูกขังในนรกฟอกเทพมาถึงสามเดือนแล้ว ขออย่าได้ทำให้ผู้น้อยต้องลำบากไปกว่านี้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...