แต่ไม่ว่าจะรอเท่าไหร่ก็ไม่มีข่าวคราวของลี่เอ๋อ ลู่เอ๋อหรืออิ้งหมัวหู่เลย
หลายปีมานีเย่หยวนจึงไม่สามารถที่จะตั้งใจบ่มเพาะได้อย่างเต็มที่ ได้แต่นั่งรอข่าวคราวของพวกเขาทุกวี่วัน
เมื่อเวลายิ่งผ่านไป เย่หยวนก็ยิ่งอดรนทนรอไม่ไหวมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะจริงๆ ตั้งแต่ร้อยปีก่อนแล้วที่เจียงยู่ถังได้เชิญเย่หยวนไปที่เมืองหลวงจักรพรรดิ แต่เย่หยวนนั้นยังมีสัญญาห้าร้อยปีให้ต้องรอจึงได้แต่ปฏิเสธไป
และตอนนี้เขายิ่งไปไม่ได้หนักกว่าเก่า
เจียงยู่ถังนั้นมองดูใบหน้าของเย่หยวนและบอก “วางใจเถอะ เหล่าน้องสะใภ้ต้องปลอดภัยได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์แน่!”
เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “พี่เจียง คำพูดเหล่านั้น แม้แต่ตัวท่านเองก็ยังไม่เชื่อมันเลยใช่ไหม?”
เจียงยู่ถังได้แต่หัวเราะแห้งๆ ตอบกลับมาหลังถูกดักคอแบบนั้น
มหาพิภพถงเทียนนั้นมันแสนจะยิ่งใหญ่ มีความอันตรายรอคอยอยู่ทุกที่ แถมเหล่าคนที่ออกไปนั้นก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายใดๆ จะเกิดอะไรขึ้นด้านนอกมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ตอนนั้นเมื่อเห็นพวกลี่เอ๋อจากไป เรื่องที่เย่หยวนกังวลที่สุดก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นี่เอง แต่เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าสุดท้ายมันจะมาเกิดขึ้นจนได้
เหตุผลที่เขาตั้งสัญญาไว้ที่ห้าร้อยปีก็เพื่อไม่อยากให้พวกเขาทั้งหลายไปไหนกันไกลมากนัก
เมื่อได้มาเห็นสภาพในตอนนี้ เย่หยวนก็ได้รู้ว่าสุดท้ายเรื่องราวต่างๆ มันก็ไม่เห็นดั่งหวังอยู่ดี
เจียงยู่ถังเห็นเย่หยวนกำลังลำบากเช่นนั้นเลยกล่าว “อย่าได้โทษตัวเองมากไปเลย มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดฝันให้เกิดขึ้น หากมีอะไรให้โทษก็ต้องโทษที่ความเก่งกาจเกินไปของเจ้านั่นแหละ! การได้อยู่เคียงข้างเจ้านั้นมันคงเป็นภาระที่หนักหน่วงไม่น้อยเลยทีเดียว!”
เย่หยวนมองดูเจียงยู่ถังและอดไม่ได้ที่จะต้องหันหน้าหนี
แต่ทว่าสิ่งที่เจียงยู่ถังบอกมามันเป็นสิ่งที่เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ ในหัวใจไม่ใช่คำพูดประจบใดๆ
แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนการประจบแค่ไหนก็ตามแต่
ผ่านมาหลายปีนี้ เจียงยู่ถังและเย่หยวนก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และเขาก็ย่อมรับรู้ถึงพรสวรรค์ที่เหนือล้ำของเย่หยวนด้วยเช่นกัน
ยอดอัจฉริยะแบบนี้ คนธรรมดาที่ได้อยู่เคียงข้างคงรู้สึกกดดันไม่น้อยเลยทีเดียว
และนี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกลี่เอ๋อจากไป
เจียงยู่ถังบอกต่อ “เจ้าต้องลองมองด้านดีๆ บ้างนะ เจ้าลองคิดดูสิ ตอนนี้พวกเขานั้นออกไปฝึกตัวข้างนอก บางทีอาจจะมีโชคดีได้ไปเจอหรือได้รับอะไรที่เหนือคาดมาก็ได้นะ?”
เย่หยวนคิดไปหน่อยและพยักหน้า “คงคิดได้แค่นั้นเรื่องจริงๆ”
เจียงยู่ถังบอก “งั้นต่อไปเจ้าคิดจะทำอย่างไร?”
เย่หยวนตอบ “อีกไม่กี่ปีข้างหน้าหากยังไม่มีข่าวคราว ข้าวางแผนไว้ว่าจะไปที่เมืองจักรพรรดิเลิศประกาย!”
เจียงยู่ถังหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่ได้ยิน “เมืองจักรพรรดิเลิศประกาย! นั่นมันเขตแดนของตระกูลเจียนนี่!”
ในมหาพิภพถงเทียนนี้มีเมืองจักพรรดิอยู่มากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาเหล่านั้นทำการปกครองหล้าโดยที่ไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนภายนอกรับรู้มากมายนัก
แต่เมืองจักรพรรดิบางเมืองนั้นก็จะมีชื่อเสียงที่แสนโด่งดังทะลุฟ้า จนทุกผู้คนในมหาพิภพถงเทียนได้รับรู้ถึงชื่อนั้น
หนึ่งในนั้นคือเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย
เหตุผลที่มันโด่งดังก็เป็นเพราะว่านี่คือเมืองในเขตแดนของตระกูลเจียน
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมีลูกหลานกระจายตัวอยู่ทั่วมหาพิภพถงเทียนไปหมด แต่หนึ่งในตระกูลลูกหลานที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นก็คือตระกูลเจียน
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว! ศาสตร์การดูคลื่นพลังของตระกูลเจียนนั้นหาใครเทียบไม่ติด ข้าเองจึงอยากจะขอเชิญให้พวกเขาได้ลงมือช่วยเหลือ อย่างน้อยๆ ข้าก็อยากแน่ใจว่าพวกลี่เอ๋อยังไม่ตาย”
เจียงยู่ถังหน้าถอดสีทันที “ตระกูลเจียนนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ทะนงตน แค่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวไปขอเช่นนี้เจ้าคิดหรือว่าจะมีใครมาสนใจเจ้า?”
เย่หยวนบอก “ครั้งก่อนที่ข้าออกเดินทางฝึกฝนตัว ข้าได้ไปรู้จักกับคนจากตระกูลเจียนคนหนึ่ง ข้าจะไปถามขอร้องให้เขาช่วย เพราะสุดท้ายหากไม่ได้รับข่าวของพวกเขาทั้งหลายอย่างนี้ต่อไปข้าเองก็คงบ่มเพาะใดๆ ไม่ได้เช่นกัน”
เจียงยู่ถังนั้นตื่นตะลึงในหัวใจ เขาไม่คิดไม่ฝันว่าเย่หยวนจะมีสายสัมพันธ์กับคนตระกูลเจียนแบบนี้!
เพราะคนตระกูลเจียนนั้นชื่อเสียงในเรื่องการดูคลื่นพลัง คนที่พวกเขาทั้งหลายคิดจะคบค้าสมาคมด้วยจึงต้องเป็นยอดคนมากพรสวรรค์เท่านั้น
คนธรรมดาๆ ไม่มีทางเข้าตาพวกเขาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...