จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1703

สรุปบท ตอนที่ 1703 เพราะตาเจ้ายังไม่บอด!: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 1703 เพราะตาเจ้ายังไม่บอด! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1703 เพราะตาเจ้ายังไม่บอด! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1703 เพราะตาเจ้ายังไม่บอด!
“น้องชายท่านนี้ข้าเห็นว่ากระดูกของเจ้านั้นเปี่ยมไปด้วยพลังที่เหนือล้ำ แต่เจ้านั้นมีธงพิบัติ! มาเร็ว ให้ข้าได้ช่วยทำนายแก้ไขความหายนะนั้นให้แก่เจ้าเอง!”

“น้องชายท่านนี้ ข้าผู้นี้คือทายาทโดยตรงจากตระกูลเจียน ดูสีหน้าเจ้าหม่นหมอง ดูท่าคงเพิ่งเจอเรื่องเลวร้ายมา! มาเร็ว มาให้ข้าผู้นี้ได้ช่วยบอกหาทางแก้ไขปัญหานั้นให้แก่เจ้าเอง”

“สูงใหญ่ดั่งภูผา ทอดยาวดั่งสายน้ำ เดินทางตากลมฝน น้องชายท่านมาที่นี่เพื่อหาผู้คนใช่หรือไม่?”

ภายในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นมันเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่แสนเป็นเอกลักษณ์

เย่หยวนเดินผ่านถนนไปด้วยความรู้สึกที่เหมือนหลงเข้ามาในดงหมอดูข้างถนน มีแต่คนตะโกนจะมาบอก มาดูดวงชะตาของเขาให้อย่างไม่มีหยุดพัก

บ้างก็พูดอะไรที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ จนทำให้ผู้คนอาจจะหลงเชื่อไปได้หากไม่ได้ลองฟังดีๆ

“คนพวกนี้มันคิดจะมาหลอกลวงต้มตุ๋นผู้คนกันเต็มที่เลยใช่ไหมเนี่ย? มันจะมีใครโง่หลงเชื่อจริงๆ หรือ?” เย่หยวนถามหวู่เฉินด้วยสภาพดูไม่จืด

แต่หวู่เฉินกลับตอบมา “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่การหลอกลวงต้มตุ๋นใดๆ ทั้งสิ้น”

เย่หยวนนั้นประหลาดใจกับคำตอบนั้นมาจนต้องถามขึ้น “ไม่ใช่? หรือว่าพวกเขาเหล่านี้จะมองเห็นอนาคตผู้คนได้จริงๆ?”

หวู่เฉินพยักหน้ารับ “ได้สิ! วิชาของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นเกี่ยวพันกับดวงชะตา คนเหล่านี้ที่มาเปิดร้านข้างทางนั้นต่างมีสายเลือดของตระกูลเจียนอยู่ มันแค่น้อย หากผู้ที่มีดวงชะตาแข็งแกร่งจริงๆ พวกเขาจะอ่านไม่ออก แต่คนที่ดวงชะตาแข็งแกร่งปานนั้นมันจะมีมากมายได้หรือ? คนส่วนใหญ่นั้นมีแต่คนธรรมดาๆ เหล่านักยุทธเช่นเราๆ นั้นล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตโดยฝากมันไว้กับโชคชะตาเป็นส่วนใหญ่ บ้างอาจจะถึงขั้นมาที่เมืองนี้เพื่อให้หมอดูเหล่านี้ทำนายดวงชะตาก่อนจะเข้ามิติวิเศษไปเสียด้วยซ้ำ แล้วคนเหล่านั้นจะมีสักกี่คนที่ได้พบตระกูลเจียนจริงๆ? นั่นทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นตัวเลือกแรกไปทันที แม้ว่ามันอาจจะไม่แม่นยำนัก แต่มันก็ยังพอช่วยให้พวกเขาทั้งหลายลูบๆ คลำๆ หาทางเดินหลบรอดจากหายนะไปได้”

เย่หยวนเองก็ตื่นตกใจมากเมื่อได้ยิน เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะลึกลับซับซ้อนถึงขนาดนี้

เพราะคนเหล่านี้มันดูเลื่อนลอยจนไม่มีอะไรให้เขารู้สึกเชื่อถือได้เลย

เย่หยวนไม่คิดว่าพวกเขาทั้งหลายนี้จะมีความสามารถใดๆ ด้วยซ้ำ

เย่หยวนเองจึงตื่นตกใจมากเมื่อได้รู้ความจริง ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้จะต้องแข็งแกร่งปานไหนกันถึงขนาดที่ว่าแค่เศษของสายเลือดยังทำให้มีพลังวิเศษสามารถมองดูชะตาผู้คนได้แบบนี้

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายถึงได้มีนักยุทธอยู่มากมายปานนี้ ดูท่าคนทั้งหลายนี้ล้วนแล้วแต่จะมาเพื่อรับการทำนายดวงชะตาของตน

มันต่างจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ เพราะนักยุทธส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนนอกทั้งสิ้น

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้านั้นมีให้เห็นเกลื่อนกลาดตามถนน

จะพูดว่ามีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าเดินกันเต็มท้องถนนไปหมดก็คงไม่ผิดนัก

“คนพวกนั้นน่าจะพอรู้ว่าศาลามายาล้ำนั้นอยู่ที่ใด ไปถามดูกัน” เย่หยวนบอกหนิงเทียนปิง

แต่จู่ๆ ก็มีเด็กสาวเดินเข้ามากล่าวทักทายเย่หยวนอย่างแผ่วเบา “นายท่าน ดูดวง? มาบ้านข้า พ่อข้ามีวิชาการดูดวงอยู่บ้าง”

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดที่จะมาดูดวงใดๆ แต่แรกแล้วและแค่คิดที่จะถามทางเท่านั้น แต่เด็กสาวคนนี้มีสภาพร่างกายที่แสนน่าสังเวช เย่หยวนจึงใจไม่แข็งพอที่จะกล่าวปฏิเสธออกไป

“งั้น…ดูดวงหน่อยแล้วกัน! เทียนปิงเจ้าไปสิ” เย่หยวนบอก

หนิงเทียนปิงยืนนิ่งไปพักหนึ่งพร้อมยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าตัวเอง “ข-ข้า?”

เย่หยวนกล่าวดุด้วยรอยยิ้ม “ข้าสั่งให้ไปก็ไปสิ จะมาเรื่องมากอะไรอีก?”

หนิงเทียนปิงจึงรีบพยักหน้าทันที “ขอรับ!”

เหล่าร้านดูดวงข้างทางนั้นมีให้เห็นกันเกลื่อนถนน แค่มองผ่านไปก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่ได้เก่งกาจใดๆ

ไม่ไกลออกไปจะมีร้านที่ป้ายเขียนด้วยลายหวัดพร้อมปล่อยคลื่นพลังออกมา ดูท่าแล้วร้านนั้นคงเป็นร้านระดับสูงไม่ผิดแน่

ที่หน้าร้านทั้งหลายนั้นมีเสียงผู้คนร้องเรียกลูกค้าไม่ขาดสาย พยายามดึงตัวคนที่เดินผ่านไปมาให้เข้ามาดูดวง

พวกที่กล้าจะตะโกนเสียงดังนั้น ค่อนข้างจะมีลูกค้าไม่น้อย

ส่วนบ้านของเด็กสาวคนนี้มันช่างดูรกร้าง ไม่มีใครคิดที่จะสนใจเลยแม้แต่น้อย

ดูท่าเหล่าคนที่ออกมาตั้งร้านริมถนนแบบนี้คงเป็นผู้ที่มีสายเลือดแสนเบาบางจางกว่าสิ่งใด ทำให้แม้แต่ตระกูลเจียนก็ไม่คิดที่จะต้อนรับพวกเขา

พวกเขาจึงต้องออกมาทำมาหากินด้วยวิธีการเช่นนี้แทน

ดูท่าตั้งแต่ที่เขาได้พบเย่หยวน ชะตาของเขามันจะมีแต่พุ่งสูงพัฒนาขึ้นไปไม่หยุด!

หนิงเทียนปิงบอก “งั้น…นายใหญ่ข้าล่ะ?”

เมื่อหนิงเทียนปิงถาม สีหน้าของชายแก่คนนั้นก็แย่ลงอย่างชัดเจนก่อนจะบอก “น้องชายท่านนี้…ไร้สีใด ดูเหมือนจะ…หลุดจากการจัดอันดับ!”

สิ่งที่ชายแก่เห็นจากตัวเย่หยวนนั้นมันไม่มีอะไรที่โดดเด่น ศาสตร์การดูรัศมีของเขานั้นมันไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

เขาได้ดูคลื่นพลังผู้คนมาก็มากมาย แต่ยังไม่เคยพบเจอผู้ใดที่มีสภาพเช่นนี้มาก่อนเลย

“ฮ่าๆ! ขยะที่ไม่ติดอันดับกลับกล้ามาคิดดูดวงด้วย! นี่เด็กน้อย เจ้ายังอยากจะมีหน้าเดินในเมืองนี้ไหมเนี่ย?”

จู่ๆ ก็เกิดเสียงหัวเราะลั่นออกมาจากด้านนอก ชายหนุ่มคนหนึ่งพาคนติดตามหลายคนเดินตามมาช้าๆ ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยัน

เด็กสาวหน้าถอดสีและรีบผลักตัวเย่หยวนไปทันทีด้วยน้ำเสียงสุดสั่นเครือ “ท-ท่านรีบไป ขออภัยแต่ท่านรีบไป!”

เย่หยวนนั้นไม่มีทางขยับเพราะแรงผลักนั้นอยู่แล้ว เขาหันไปมองหน้าของชายหนุ่มด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “เจ้าเองก็รู้ศาสตร์แห่งการดูรัศมี?”

ชายหนุ่มนั้นเหมือนได้ยินสุดยอดมุขตลกและหัวเราะลั่นออกมาอีกครั้ง “ข้าก็รู้? เจ้าล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย? นายน้อยผู้นี้คือนายน้อยเจียนหยู่ ทายาทสายตรงจากตระกูลเจียน เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้วิชาของตระกูลหรือ?”

เย่หยวนได้รู้ถึงตัวตนอีกฝ่ายจึงพูดขึ้น “งั้นเจ้าเองก็คิดว่าอนาคตของข้ามันไม่ติดอันดับ?”

เจียนหยู่บอกอย่างดูถูก “บ้าบอ! นายน้อยผู้นี้ได้มองดูรัศมีของเจ้าแล้ว และมันกลับเบาบางเสียยิ่งกว่าน้ำเปล่า! นายน้อยผู้นี้ไม่เคยพบเจอใครที่มีพลังต่ำตมขนาดนี้มาก่อนเลย นี่เจ้าไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?”

เย่หยวนยิ้ม “เช่นนั้นวิชาการดูของเจ้ามันก็คงต่ำตมแล้ว ความสามารถของเจ้ามันยังไม่ถึง!”

เจียนหยู่เปลี่ยนสีหน้าไปทันที “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้ามากล่าวว่าศาสตร์การดูรัศมีของข้าเช่นนี้?”

ในฐานะทายาทตรงตระกูลเจียน เจียนหยู่ผู้นี้จึงมั่นใจในศาสตร์การดูของตัวเองมาก ได้ยินเย่หยวนพูดแบบนั้นเขาจึงโกรธขึ้นเป็นฟืนเป็นไฟ

เย่หยวนบอก “แน่นอนว่าข้านั้นมีสิทธิว่า เพราะ…ตาเจ้ายังไม่บอดยังไงล่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ