จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1718

สรุปบท ตอนที่ 1718 เทพมังกรเหยียบสวรรค์: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1718 เทพมังกรเหยียบสวรรค์ – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1718 เทพมังกรเหยียบสวรรค์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1718 เทพมังกรเหยียบสวรรค์
“เฮอะ นี่หรือคือฝีมือของเจ้า? หากมีปัญญาแค่นี้เจ้าได้ตายแน่!” ที่ด้านล่างเซียโหหยุนกำลังเยาะเย้ย

ในสายตาคนอื่น เย่หยวนนั้นมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำจนเกินบรรยาย

การที่เขาสามารถต่อสู้กับซ่งเทียนเฉียงมาได้ขนาดนี้ พลังฝีมือของเขามันก็เหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดเดาแล้ว

แต่ในสายตาของเซียโหหยุน มันยังไม่มากพอให้เขาสนใจ

“เย่หยวนคนนี้ช่างมีพลังการต่อสู้ที่เหนือล้ำ!”

“ใช่แล้ว ถึงสุดท้ายพลังของเขาจะต่ำกว่าหน่อยแต่ด้วยการปรับใช้แนวคิดที่แสนเชี่ยวชาญนั้นมันจึงทำให้เขาสู้กับซ่งเทียนเฉียงได้อย่างไม่ด้อยกว่าเลย!”

“ผู้ที่เพิ่งบรรลุกายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลางกลับสู้ได้ถึงขั้นนี้ เรื่องเช่นนี้มันเกินกว่าที่จะเชื่อจริงๆ!”

ที่ล่างสังเวียนเหล่าผู้เข้าร่วมงานต่างมีสีหน้าไม่สู้ดี

เพราะพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาคาดคิดไปมาก

ผู้ที่ดูน่าจะตายตกเป็นคนแรกกลับกลายมาเป็นม้ามืดที่แม้แต่ซ่งเทียนเฉียงผู้นั้นก็ยังไม่สามารถจัดการลงได้ง่ายๆ

บนสังเวียนซ่งเทียนเฉียงที่ต่อสู้แล้วได้แต่เสมอก็รู้สึกวิตกขึ้นมาในจิตใจเช่นกัน

“ศัตรูของข้าคือเซียโหหยุน จะมาแพ้ให้เด็กเช่นนี้ได้อย่างไร? ช่างมันเถอะ เดิมทีนี่เป็นท่าที่ข้าเก็บไว้ใช้กับเซียโหหยุน แต่คงต้องนำมันออกมาใช้เสียก่อนแล้ว!”

ซ่งเทียนเฉียงใช้จังหวะถอยจากการปะทะดีดตัวออกไปไกลจากเย่หยวน

จู่ๆ คลื่นพลังของซ่งเทียนเฉียงก็พุ่งสูงทะลุฟ้า ร่างกายของเขาแอ่นออกมาเหมือนคันธนูที่พร้อมยิง

นั่นทำให้ทุกคนหน้าถอดสี กระบวนท่าที่ซ่งเทียนเฉียงยังไม่ได้ใช้ออกมานี้ แต่มันกลับเริ่มรวบรวมแรงพุ่งเข้ามาไว้แล้ว

แค่มองก็รู้ได้เลยว่าการโจมตีต่อไปนี้คงเป็นอะไรที่รวดเร็วปานสายฟ้า!

“ช่างเป็นท่าโจมตีที่รุนแรง! รวดเร็วปานสายฟ้า หมัดนี้ช่างสุดยอด!”

“ดูแล้วมันคงเป็นท่าพิฆาตของซ่งเทียนเฉียง! เกรงว่า…เย่หยวนคงตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”

“ท่านั้นของเย่หยวนที่ปะทะกับราชันพระเจ้าห้าดาวได้นั้น มันคงเป็นขีดจำกัดของเขาแล้วใช่หรือไม่? งั้นผู้ชนะก็คงตัดสินกันแน่แล้วทีนี้!”

ซ่งเทียนเฉียงนั้นยังไม่ทันต่อยหมัดออกมาแต่ทุกผู้คนก็รู้สึกได้ในทันทีว่ามันต้องเป็นการโจมตีที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ มากแน่นอน!

การโจมตีที่อยู่บนจุดสูงสุดของราชันพระเจ้าห้าดาว มันใกล้เคียงกับราชันพระเจ้าหกดาวมาก

ด้วยกำลังของเย่หยวนในตอนนี้ มันไม่มีทางใดเลยที่เขาจะรับไว้ได้

ส่วนในที่นั่งผู้ชม เจียนปิงที่เห็นภาพนั้นก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมา

เขานั้นมองดูสังเวียนของกลุ่มที่หกมาทั้งวัน เมื่อได้เห็นว่ากำลังจะเกิดการโจมตีเช่นนี้ขึ้น เขาก็เริ่มจะมองเห็นแสงแห่งความหวังขึ้นมา

เพราะหากซ่งเทียนเฉียงช่วยสังหารเย่หยวนให้ มันคงเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ

จัดการมัน!

สังหารมัน!

เจียนปิงตะโกนอยู่ในใจ!

“เย่หยวน เจ้าบังคับข้าเองนะ! ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะรับหมัดนี้ไว้ยังไง! กำปั้นดาวตกสวรรค์!”

ซ่งเทียนเฉียงตะโกนลั่นและปล่อยหมัดของตัวเองออกมาราวกับลูกปืนใหญ่

พลังโลกอันรุนแรงเปลี่ยนให้ร่างของเขากลายเป็นเส้นแสงสีขาวราวกับดวงดาวที่พุ่งตกลงมา!

ความรุนแรงของมันนั้นเหนือกว่าคำบรรยายใดๆ

แต่ตอนนั้นเองที่อีกด้านก็เกิดคลื่นพลังที่สะท้านฟ้าขึ้นด้วย!

ตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนมีลายสีฟ้าปรากฏขึ้นมารอบๆ ตัว

เสียงคำรามมังกรเข้าปะทะกับกำปั้นดาวตกสวรรค์ของซ่งเทียนเฉียงเข้าตรงๆ

นั่นทำให้ทุกคนหน้าถอดสี ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

“ช่างเป็นการโจมตีที่รุนแรง! ไม่แพ้ท่าของซ่งเทียนเฉียงเลย!”

“เด็กคนนี้มันยังมีไม้ตายเช่นนี้ซ่อนไว้อีกเรอะ! มันทำได้ยังไงกัน!”

แน่นอนว่าการโจมตีที่รุนแรงปานนั้นย่อมสร้างภาระให้ร่างกายผู้ฝึกตนมาก

หากให้พูดตามหลักการ สภาพร่างของเย่หยวนในตอนนี้มันยังไม่พอที่จะใช้ท่ารุนแรงขนาดนี้ออกมา

แต่ว่าเย่หยวนก็ทำได้!

พวกเขานั้นไม่รู้ถึงลายสีฟ้านี้ ลายสีฟ้านีที่ช่วยให้ร่างกายของเย่หยวนแข็งแกร่งกว่าที่เห็นจากภายนอกมากนัก

กรงเล็บมังกรเอกภพกระบวนที่สอง เทพมังกรเหยียบสวรรค์!

ทุกคนได้เห็นว่ามังกรสีฟ้าครามนั้นผสานตัวเข้ากับกรงเล็บมังกรและฟาดฟันลงสู่แสงสีขาวที่พุ่งเข้ามา

ปะทะตรงๆ!

มุมปากของเซียโหหยุนยิ้มขึ้น “หึ น่าสนใจ! ดูเหมือนว่า…มันจะเก่งกว่าที่เจียนปิงว่าอีก! แต่แค่ระดับนี้มันยังไม่พอหรอก!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าคู่ประเดิมรอบที่สี่มันจะกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนดุเดือดได้ขนาดนี้

จะเรียกคู่ของเย่หยวนและซ่งเทียนเฉียงว่าเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในกลุ่มหกตอนนี้ก็คงไม่ผิด

แน่นอนว่านั่นไม่นับเซียโหหยุน

หากเซียโหหยุนออกมา ใครกันจะต้านทานได้?

รอบนี้เองคู่ต่อสู้ของเขาก็ยังยอมแพ้ไปเช่นเดิม

ในรอบที่ห้า คู่ต่อสู้ของเขาก็ยังยอมแพ้!

ตัวตนของเซียโหหยุนนั้นมันทำให้ผู้คนสิ้นหวัง

ราชันพระเจ้าสี่ดาวนั้นได้แต่ยกธงขาวไม่กล้าที่จะลงมือต่อสู้ใดๆ เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขา

ส่วนราชันพระเจ้าห้าดาวที่มีไม่กี่คนนั้น เซียโหหยุนยังไม่ได้เจอกับพวกเขาเลย

ที่สังเวียนสองเองก็มีสภาพคล้ายๆ กัน

เจียงหนานเองก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้คนอย่างมากล้นจนตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือต่อสู้กับเขาอีกแล้ว

แต่มันแตกต่างจากคลื่นความกดดันที่เซียโหหยุนปล่อยออกมา เพราะเจียงหนานคนนี้แค่ยืนอยู่เฉยๆ มันก็ทำให้ผู้พบเห็นต้องรู้สึกได้ถึงความมั่นคง

นักยุทธนั้นล้วนตัดสินแพ้ชนะกันด้วยการฉวยโอกาสที่ศัตรูพลาด

และทุกผู้คนนั้นต่างก็จะทำความผิดพลาดเปิดช่องว่างกันออกมาบ้างไม่มากก็น้อย

แต่พวกเขานั้นไม่พบเลยว่าตัวของเจียงหนานมีช่องว่างใดๆ!

ความแข็งแกร่งที่มั่นคงเช่นนี้ มันไม่ให้โอกาสผู้คนได้สวนกลับเลยแม้แต่น้อย

เจียงหนานมีสีหน้าท่าทางเบื่อหน่าย “น่าเบื่อจริงๆ เมื่อไหร่จะเริ่มรอบชิงนะ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าตื่นเต้นได้ก็คงมีแค่เซียโหหยุนเท่านั้นล่ะมั้ง? แนวคิดแห่งการทำลายล้าง หึๆ อยากลองรับมือดูจริงๆ”

“รอบที่หกเริ่มได้ เซียโหหยุนปะทะเกาชุน!”

เสียงของกรรมการประกาศดังขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

เกาชุนนั้นมีพลังฝีมือไม่ด้อยไปกว่าซ่งเทียนเฉียง หากจะมีใครทำให้เซียโหหยุนลงมือได้ มันก็คงไม่พ้นเป็นเขาคนนี้นี่เอง

แต่แน่นอนว่า…ตอนนี้เย่หยวนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นแล้ว

เซียโหหยุนมีสีหน้าเรียบเฉยมองดูเกาชุนตรงหน้าและถาม “เจ้าอยากลงมือ?”

เกาชุนพยักหน้ารับ “ข้ารู้ดีว่าตัวเองเทียบเจ้าไม่ได้ แต่ก็ยังอยากขอคำแนะนำจากแนวคิดแห่งการทำลายล้างเสียหน่อย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ