ตอน ตอนที่ 1724 ยืมพลัง จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1724 ยืมพลัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“บ้าบอ! เจ้าหมอนี่มันมีชะตาที่สูงส่งกว่าเจียงหนานและโม่เฟยอีกรึ?”
“ไม่เอาน่า เจ้าคิดว่าท่านเจ้าศาลาจะมาล้อเล่นกับเจ้ารึไง?”
…
ทุกคนต่างตกตะลึง!
ไม่มีใครคาดคิดว่าหนิงเทียนปิงจะกลายเป็นคนที่มีดวงชะตาเจิดจ้าเสียยิ่งกว่าใครๆ คนอื่น
เพราะชะตายิ่งใหญ่หรือไม่นั้น มันก็พอจะดูออกได้จากพลังฝีมือที่แสดงออกมา
โดยปกติแล้วผู้ที่แข็งแกร่งกว่าใครๆ ในรุ่นเดียวกันย่อมมีโชคชะตาที่เจิดจ้ากว่าใครๆ
แต่เรื่องนั้นมันไม่เสมอไป ทุกคนรู้ดี
มันเพียงแค่ว่า หนิงเทียนปิงนั้นดูธรรมดาจนเกินไป!
แม้ว่าเขาจะมีฝีมือที่ไม่น้อย แต่เมื่อเทียบมันกับเจียงหนานหรือโม่เฟย มันก็ยังห่างชั้นกันอย่างมาก
ทุกคนจึงไม่อยากจะเชื่อว่าคนเช่นนี้จะเป็นคนที่มีดวงชะตาแก่กล้าที่สุดในหมู่ผู้ชนะทั้งแปดคน
เจียงหนานและโม่เฟยเองก็หันไปมองหนิงเทียนปิงอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาทั้งสองนั้นมีแต่ความไม่อยากเชื่อ
“ข-ข้า? ชะตาสีม่วง?”
หนิงเทียนปิงเองก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าตัวเองเช่นกัน
เจ็ดปีก่อนเจียนเจิ้นเทาได้ช่วยเขามองดูรัศมีมาก่อน และตอนนั้นเขายังมีรัศมีแค่สีฟ้าเท่านั้น
ใครจะไปรู้ว่าเวลาผ่านไปแค่เจ็ดปี เขากลับกลายเป็นว่ามีชะตาสีม่วงแทนแล้ว!
หลังอยู่ในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายมาหลายปี มันทำให้หนิงเทียนปิงเริ่มเข้าใจความแตกต่างของสีชะตาต่างๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว
เขาจำได้ว่าก่อนที่จะมาติดตามนายใหญ่นั้นชะตาของเขาอย่างมากก็คงไม่เกินสีเหลือง
เวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา เขากลับสามารถมีชะตาสีม่วงแทนได้!
ชะตาสีม่วง หรือเรียกชื่อเต็มๆ ว่ารัศมียอดม่วง มันเป็นชะตาที่สูงส่งที่สุดเท่าที่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งจะมีได้แล้ว
คนที่มีรัศมียอดม่วงนั้นจะมีโอกาสสูงมากที่จะบรรลุผ่านไปได้ถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้!
ในเมืองจักรพรรดินั้น คนแบบนี้หาได้ยากมาก
เพราะว่าวิชาต่างๆ ที่สืบทอดกันมาในเมืองจักรพรรดินั้นล้วนแล้วแต่เป็นของตกทอดจากยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ ยากมากที่จะมีสมบัติจากเทพถ่องแท้ตกถึงมือใคร
และต่อให้มี เหล่าคนที่จะไปถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้มันก็มีน้อยแค่หยิบมือ
เพราะฉะนั้นทุกผู้คนจึงต่างตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
สังเวียนร้อยศึกนี้มีการจัดขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยอดอัจฉริยะที่มีรัศมียอดม่วงนั้นมันก็มีน้อยจนนับได้ด้วยมือเดียว!
แค่นี้มันก็มากพอจะแสดงแล้วว่ารัศมียอดม่วงนั้นหายากมากแค่ไหน
แต่การที่เขามีถึงรัศมียอดม่วงได้ในวันนี้ เรื่องราวทั้งหลายย่อมเป็นเพราะนายใหญ่ของเขา!
เวลาไม่กี่ร้อยปีมานี้การที่คนมีชะตาสีเหลืองธรรมดาๆ จะกลายเป็นรัศมียอดม่วงที่หาได้ยากนั้นมันคงเรียกได้ว่าโชคเสียยิ่งกว่าโชค! เหมือนปลาคาร์ปที่ว่ายผ่านประตูมังกร!
“หึๆ เจ้าหนุ่มไม่เชื่อคำของเฒ่าคนนี้อย่างนั้นรึ?” เจียนหงเซียวถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ๆ เด็กน้อยผู้นี้จะไปสงสัยท่านเจ้าศาลาได้อย่างไร? ข้าแค่…รู้สึกไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะยังไงเด็กน้อยผู้นี้ก็เป็นแค่นักยุทธมาจากเมืองจักรพรรดิระดับต่ำบ้านนอกแห่งหนึ่ง รัศมียอดม่วงนั้น มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนเลยในชีวิต!” หนิงเทียนปิงบอกอกมาอย่างติดๆ ขัดๆ
แต่ทว่าคำพูดเหล่านี้มันกลับเหมือนเป็นสายฟ้าที่ผ่าลงกลางหัวผู้คนที่ได้รับฟัง
“หะ? มัน…มันเป็นเพียงแค่นักยุทธจากเมืองจักรพรรดิระดับต่ำ!”
“เจ้าล้อกันเล่นใช่ไหม? เมืองจักรพรรดิระดับต่ำนั้นกลับมีรัศมียอดม่วงเกิดมาได้?”
“เจ้าหมอนี่มันคิดจะมากลบฝังผู้คนใช่ไหมเนี่ย? ข้าล่ะอยากมุดแผ่นดินหนีเสียจริงๆ แล้ว!”
…
เหล่ายอดอัจฉริยะทมั้งหลายต่างระเบิดอารมณ์ออกมาทันทีที่ได้ยินคำของหนิงเทียนปิง
เมืองจักรพรรดิระดับต่ำ มียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์แค่สามถึงห้าคน สมบัติใดๆ ก็ย่อมอ่อนแอ มีทรัพยากรที่แสนร่อยหรอ
แล้วสถานที่แบบนั้นมันจะมีรัศมียอดม่วงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ไปเจอสมบัติเทพถ่องแท้เข้า?
หากเรื่องนั้นมันง่ายดาย โลกใบนี้มันก็คงเต็มเปี่ยมไปด้วยยอดคนไปแล้ว
“ฮ่าๆ!”
…
เจียนหงเซียวไม่ได้บอกถึงรัศมีผ่าจักรพรรดิเพราะมันจะสร้างความแตกตื่นจนเกินไป
แต่แค่รัศมีจักรพรรดิธรรมดาๆ มันก็สร้างความแตกตื่นมากพอแล้ว!
บนที่นั่งชมนั้น ไม่มีใครเลยที่คิดอิจฉาในรัศมีจักรพรรดิของเย่หยวน
พวกเขาอิจฉาหนิงเทียนปิงแทน!
เพราะเขานั้นเป็นแค่อัจฉริยะน้อยๆ จากเมืองจักรพรรดิระดับต่ำ ที่เติบโตขึ้นมาได้เพราะติดตามเย่หยวนจนกลายเป็นว่ามีรัศมียอดม่วงไป
ชะตาแบบนี้มันจะไม่เหนือฟ้าดินไปหน่อยหรือ?
เมื่อได้เห็นหนิงเทียนปิง พวกเขาทั้งหลายต่างก็เข้าใจทันทีว่าเมื่อตามติดเย่ยหวนพวกเขาย่อมได้รับผลประโยชน์ไปด้วย!
เย่หยวนมองดูเจียนหงเซียวด้วยสีหน้าเหนื่อยแรง แต่เจียนหงเซียวก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางรู้สึกผิด
เย่หยวนนั้นย่อมเข้าใจว่าเจียนหงเซียวนั้นยืมชะตาของเขาเพื่อโฆษณาชื่อของเมืองจักรพรรดิเลิศประกายให้กว้างไกลไปอีก
สังเวียนร้อยศึกให้กำเนิดรัศมีจักรพรรดิ เมื่อข่าวนี้กระจายออกไปมันย่อมสร้างผลกระทบต่างๆ ไม่น้อย
มันย่อมเป็นเรื่องดีต่อเมืองจักรพรรดิเลิศประกาย
แต่เย่หยวนนั้นชอบที่จะทำตัวเงียบๆ ไม่โด่งดังมากกว่า
แต่อีกฝ่ายนั้นคือเจียนหงเซียว เขาจะทำอย่างไรได้?
หากอยากยืมพลังและอำนาจ ก็ยืมไป
เพราะเจ้านั้นเก่งกาจ เจ้ามีสิทธิว่ากล่าวมากที่สุด!
ใครใช้ให้เจ้ามาขอความช่วยเหลือจากเรา?
จากนั้นเจียนหงเซียวเองก็ทำมือขึ้นมาห้ามให้ทุกคนเงียบเสียงลง
เมื่อทุกคนเงียบลงได้แล้วจริงๆ เจียนหงเซียวจึงค่อยๆ บอก “เรื่องราวอันแสนน่ายินดีเช่นนี้ย่อมไม่แปลกที่เฒ่าคนนี้จะออกมาด้วยตัวเอง แต่…เรื่องที่สองนั้น…สังเวียนร้อยศึกครั้งต่อไปคงต้องเลื่อนจัดไปอีกพันปี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...