จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1728

ตอนที่ 1728 สกัดกั้น
หลังจากเย่หยวนจากไป ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องของเจียนหงเซียว

เมื่อได้เห็นสภาพของเจียนหงเซียว ชายวัยกลางคนคนนั้นก็หน้าถอดสีทันทีและรีบวิ่งเข้ามาดูอาการ

หากเย่หยวนยังอยู่เขาคงจำได้ทันทีว่านี่คือใคร เพราะชายวัยกลางคนคนนี้คือยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ที่ออกไปปรากฏตัวในวันนั้น

เขามีนามว่าเจียนเฉิน เป็นศิษย์ที่เจียนหงเซียวไว้วางใจมากที่สุด

“อาจารย์ ท-ท่านไหวไหม?” เจียนเฉินถามด้วยความเป็นห่วง

เจียนหงเซียวโบกมือปัด “ข้า ไอ้เฒ่าคนนี้ยังไม่ตายหรอก แต่ไม่นึกเลยว่าแรงสะท้อนจากยอดเต๋าในครานี้มันจะรุนแรงได้ถึงขั้นนี้!”

เจียนเฉินนั้นมีท่าทางไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ “อาจารย์ ทำแบบนี้มันคุ้มจริงๆ หรือ?”

เจียนหงเซียวหัวไปมองศิษย์ด้วยรอยยิ้ม “หลังจากอาจารย์ของเจ้าผู้ทำใจได้ ข้าก็คิดและหวังที่จะใช้ที่แห่งนี้เป็นหลุมฝังศพ ใครจะไปคิดว่าก่อนจะจัดสังเวียนร้อยศึกครานี้ เฒ่าคนนี้ได้ลองทำนายชะตาดูและพบว่าเรื่องราวมันกำลังจะสามารถพลิกกลับได้”

นั่นทำให้เจียนเฉินหน้าเปลี่ยนสีไป “หรือจุดพลิกกลับที่ท่านว่านี้คือเด็กคนนั้น?”

เจียนหงเซียวยิ้ม “แม้ว่าเฒ่าคนนี้จะไม่มีปัญญาดูดวงชะตาของเย่หยวนตรงๆ แต่ข้าก็ยังพอมีปัญญาทำนายชะตาตัวเอง และการทำนายนั้นมันบอกว่าเฒ่าคนนี้จะได้เจอจุดพลิกผัน แต่พออยากลองมองให้ลึกลงไปมันกลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปิดบังไว้โดยความลับสวรรค์ หากเอาทั้งสองเรื่องมาเชื่อมโยงกัน มันจะยังมีเรื่องอะไรไปเสียอีกนอกจากเย่หยวน?”

เจียนเฉินมองดูอาจารย์ของตนอย่างตื่นตะลึงและไม่อยากเชื่อ “ท่านอาจารย์ เด็กคนนั้นมันยังเป็นแค่ราชันพระเจ้าชั้นต้นอยู่เลย ท่านต้องรอไปอีกกี่ปีกี่เดือนกัน? ที่สำคัญด้วยพลังชีวิตที่เสียหายอย่างหนักของท่านในตอนนี้ สูญเสียอายุขัยไปมากมายแล้ว ท่าน…ท่านจะอยู่ได้ถึงวันนั้นหรือ?”

เพราะเจียนหงเซียวนั้นเดิมทีก็มีอาการบาดเจ็บจากแรงสะท้อนยอดเต๋าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่ก่อนหน้านี้เขาก็มีอายุขัยที่ไม่ยั้งยืนมากแล้ว พลังฝีมือการบ่มเพาะตกลงอย่างมากมาย

ครานี้เพื่อเย่หยวนเขากลับต้องรับบาดเจ็บหนักไปอีกครั้ง พลังชีวิตเสียหายอย่างรุนแรง อายุขัยลดสั้นลงอย่างหนัก

ตอนนี้เจียนเฉินนั้นห่วงว่าอาจารย์ของเขาจะไม่มีชีวิตอยู่ไปจนถึงวันนั้น

เจียนหงเซียวยิ้มตอบ “หึๆ เจ้าและข้าต่างก็เป็นลูกหลายท่านบรรพบุรุษ เราจะไปสงสัยในชะตาของตนได้อย่างไร? คนเสนอ สวรรค์สนอง ข้าคงได้แต่พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่เหลือมันก็ขึ้นอยู่กับสวรรค์”

เจียนเฉินเงียบลงไปทันที เขาไม่คิดที่จะเถียงกับอาจารย์ของตัวเองอีกแล้ว

เพราะในฐานะคนตระกูลเจียน เขาย่อมต้องทำตัวตามกระแสสวรรค์

หากเมื่อเขาเห็นจุดพลิกผันแล้ว เขาก็ต้องพยายามเข้าไปหามันให้ได้

ดูท่าการฝึกฝนและจิตใจของอาจารย์เขาจะยังลึกล้ำกว่าที่เขามีมาก!

เจียนเฉินเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะบอก “ท่านอาจารย์ ศิษย์มีข่าวด่วนมาบอก เซียโหเหวินเจียนจากเมืองจักรพรรดิสงบอุดรได้นำยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์สามคนมุ่งหน้ามายังเมืองจักรพรรดิเลิศประกายเราแล้ว เมืองจักรพรรดิสงบอุดรนั้นเป็นเมืองจักรพรรดิระดับสูงมีกำลังไม่น้อย! เรา…ควรทำอย่างไรดี?”

เจียนหงเซียวไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจใดๆ และตอบ “เจ้าออกไปจัดการ แค่เมืองจักรพรรดิสงบอุดรหากมีเรื่องก็มีไป เหตุใดต้องคิดมาก”

เจียนหงเซียวบอกกลับไปด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับว่าไม่เห็นเมืองจักรพรรดิสงบอุดรอยู่ในสายตา

เย่หยวนบอกลาเจียนเจิ้นเทาและพาหนิงเทียนปิงรีบออกเดินทางจากเมืองจักรพรรดิเลิศประกายทันทีด้วยความเร็วราวพายุมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเทพอสูร

อาณาจักรเทพอสูรนั้นเป็นดินแดนที่แสนกว้างใหญ่ ต้องเดินทางผ่านเทือกเขาเทพอสูรไปและเป็นแหล่งรวมตัวของเผ่าอสูรด้วย

นั่นคือดินแดนที่ถูกเรียกว่าอาณาจักรเทพอสูร

อาณาจักรเทพอสูรนั้นเป็นดินแดนที่แสนวุ่นวาย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กได้แต่เป็นอาหารให้ปลาใหญ่

บางทีอาจจเพราะว่าอิ้งหมัวหู่ต้องการฝึกฝนตัวเองจึงได้เดินทางไปยังอาณาจักรเทพอสูรเช่นนี้

แต่เขาแค่ไม่คิดว่าอิ้งหมัวหู่จะพาตัวเองเข้าไปเจอภัยแบบนี้

เย่หยวนได้แต่ภาวนาอยู่ในใจหวังว่าอิ้งหมัวหู่จะยังไม่เป็นอะไรไปก่อน

เพราะเวลาที่เดินทางด้วยกันมาหลายต่อหลายปีนี้ อิ้งหมัวหู่นั้นก็เปรียบเสมือนน้องชายเขาไปแล้ว

หากพูดถึงความรู้สึกผูกพัน เขาผูกพันกับอิ้งหมัวหู่ไม่แพ้เยวี่ยเมิ่งลี่เลย

“นายใหญ่ท่านอย่าได้กังวลมากไปเลย น้องอิ้งหมัวหู่นั้นดวงแข็งคงไม่เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอก” หนิงเทียนปิงพยายามปลอบ

เย่หยวนก็ได้แต่พยักหน้าและกล่าวออกไป “การเดินทางครั้งนี้แค่เวลาที่ใช้เดินทางมันก็คงกินเวลาหลายสิบปีแล้ว! ด้วยพลังของอิ้งหมัวหู่ในตอนนั้นเขาคงต้องใช้เวลาเหาะไปอย่างน้อยๆ สามร้อยปีและไม่มีทางเลยที่เขาจะกลับมาเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ได้ในเวลาห้าร้อยปี เด็กคนนี้มันไม่ได้สนใจสัญญาห้าร้อยปีของเราเลย ทำข้าเจ็บแค้นใจเสียจริงๆ”

หนิงเทียนปิงยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “นายใหญ่ท่านจะไปว่าน้องอิ้งหมัวหู่มากก็คงไม่ได้หรอก ท่านไม่รู้หรอกว่าการอยู่เคียงข้างท่านมันกดดันผู้คนได้มากแค่ไหน ดูอย่างข้าสิ ตอนนั้นข้าบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวมาได้ในคราเดียว ข้ามีพลังต่อสู้ที่เหนือล้ำกว่าท่าน แต่กี่ปีผ่านไปท่านกลับสามารถจัดการข้าได้ด้วยกระบวนท่าเดียวเสียแล้ว! แม้ว่าข้าจะเชื่อเสมอว่านายใหญ่ท่านจะต้องไปเป็นรองใคร แต่ข้าก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนั้นมันจะมาถึงรวดเร็วปานนี้!”

เมื่อก่อนนั้นหนิงเทียนปิงยังไม่ค่อยเข้าใจถึงความคิดในหัวของพวกอิ้งหมัวหู่

แต่ตอนนี้เขาได้เข้าใจมันอย่างสุดซึ้งแล้ว

นายใหญ่ของเขานี่มันสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ