พลังของหยูจิงนั้นเริ่มเข้าสู่สภาวะยุ่งเหยิงและทำให้นางช้าลงกว่าคนอื่นๆ มาก จนตกลงไปอยู่ด้านหลังเย่หยวนในที่สุด
จู่ๆ เย่หยวนก็ดึงแขนของหยูจิงไปและส่งผ่านปราณเทวะโกลาหลให้
เมื่อรู้สึกว่ามือของตัวเองถูกจับเข้าหยูจิงก็ตกใจรีบดึงมือกลับด้วยสัญชาตญาณทันที
แต่ไม่นานจากนั้นนางก็พบว่าพลังและปราณเทวะของตัวเองกลับมาปกป้องร่างของนางได้อีกครั้ง ช่วยลดภาระที่ร่างกายนางต้องได้รับไปอย่างมาก
หยูจิงมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจ ตอนนี้นางเพิ่งจะทันรู้ตัวว่าเย่หยวน ราชันพระเจ้าสามดาวคนนี้กลับมีท่าทีสบายๆ มาได้จนตอนนี้!
แถมตอนนี้เขายังมีแรงพอจะมาเสริมปราณเทวะให้นางอีก
เขาทำได้อย่างไรกัน?
ตอนนี้นางรู้สึกได้ว่าปราณเทวะที่ห่อหุ้มร่างอยู่นี้มันแข็งแกร่งกว่าปราณของนางเสียอีก ไม่แปลกใจเลยที่ว่าเย่หยวนจะสังหารตะขาบเพลิงคลั่งลงได้
เพราะชายคนนี้มันไม่ธรรมดา!
“ขอบคุณนะเย่หยวน!” หยูจิงบอกขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ
เย่หยวนยิ้มรับ “พี่จิง ท่านขอบคุณข้ามากี่ครั้งแล้วเนี่ย!”
หยูจิงหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอายทันที “ข้า…นอกจากพูดขอบคุณแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร”
เย่หยวนยิ้มและกำลังคิดจะตอบกลับไป แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนรุนแรงที่อยู่ตรงหน้า
ปัง!
แมลงยักษ์ตัวสีขาวพุ่งขึ้นมาจากผืนดินและอ้าปากกว้างพุ่งเข้าหาเย่หยวนทันที
คนทั้งสี่ที่วิ่งอยู่ด้านหน้านั้นก็ตื่นตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่น้อยเช่นกัน
ด้วนเผิงหน้าถอดสีตะโกนบอก “แย่แล้ว ราชาแมลง! ดูท่าจะอยู่ยอดๆ ของระดับสี่ชั้นกลางเลยด้วย! พวกเขาทั้งสองแย่แล้ว!”
เพราะที่ๆ ราชาแมลงปรากฏตัวนั้นมันพอเหมาะพอเจาะอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสี่กับพวกเย่หยวนพอดิบพอดี
เมื่อลัวยองได้เห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมาอย่างดีอกดีใจ
เพราะแม้เมื่อสักครู่เย่หยวนจะช่วยเขาไว้ แต่เขาก็ยังคิดอยากให้เย่หยวนตายลง!
หยูจิงหน้าซีดเผือดและตะโกนบอก “เย่หยวนระวัง!”
เรื่องราวในตอนนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนทั้งสองไม่ทันตั้งตัว
แต่มันก็สายเกินกว่าจะหลบแล้ว
หยูจิงพยายามจะผลักเย่หยวนออกไปและรับการโจมตีจากเจ้าแมลงไว้เอง แต่นางกลับรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ไม่สั่นไหวของเย่หยวน
ตอนนี้มือซ้ายของเย่หยวนกางกรงเล็บออกมาพร้อมเสียงคำรามของมังกรที่ดังลั่น
เทพมังกรเหยียบสวรรค์!
ปัง!
เสียงดังสะท้านดังขึ้นมา ร่างของทั้งเย่หยวนและราชาแมลงปลิวออกจากกัน
หยูจิงตื่นตกใจอย่างมาก นางไม่คิดว่าพลังฝีมือที่แท้จริงของเย่หยวนจะแข็งแกร่งปานนี้
ราชาแมลงนี้มันมีคลื่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าตัวนางเองเสียอีก มันน่าจะอยู่ยอดของระดับสี่ชั้นกลางแล้ว
ส่วนเย่หยวนในวินาทีวิกฤต กลับสามารถปะทะกับมันได้ตรงๆ!
พวกด้วนเผิงเองก็มีสีหน้าตื่นตกใจไม่แพ้กัน เขาไม่คิดไม่ฝันว่าเย่หยวนจะรอดออกมาได้ครบสามสิบสองเช่นนี้
“ที่แท้เย่หยวนก็เป็นผู้ฝึกฝนร่างกาย ที่สำคัญเขายังมีร่างระดับสี่ชั้นกลางแล้วด้วย!” ด้วนเผิงกล่าวออกมาอย่างตื่นตะลึง
ลัวยองนั้นคิดแน่ๆ ว่าเย่หยวนต้องตาย ไม่มีทางใดเลยที่เขาจะคาดเดาได้ว่าเย่หยวนแท้จริงแล้วแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาได้แต่หัวเราะ “หัวหน้าด้วน ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเด็กนี้มันไม่น่าไว้ใจ! มันซ่อนฝีมือไว้ แฝงตัวทำเป็นหมูจะกินเสือ! มันต้องวางแผนร้ายไว้แน่ๆ แต่ท่านก็ยังไปหลงเชื่อคำมัน”
ด้วนเผิงมองดูออกไปตรงหน้าอย่างเหม่อลอยด้วยความไม่แน่ใจ และก็ไม่สามารถตัดสินใจว่าจะลงมืออย่างไรได้เสียที
เพราะในงานแบบนี้ ความเชื่อใจมันย่อมไม่มีจริง
ในเทือกเขาเทพอสูรนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดหาใช่สัตว์ร้าย แต่เป็นผู้คนใจทราม!
เรื่องความขัดแย้งของลัวยองและเย่หยวนนั้น เขาตัดสินใจที่จะนั่งดูและไม่คิดเข้าไปยุ่งมาแต่แรก
ตราบเท่าที่มันไม่ส่งผลต่อการเดินทาง เขาก็ไม่สนใจหรอกว่าคนทั้งสองจะดุด่าว่ากันอย่างไร เพราะมันไม่ได้ทำให้เสียเรื่อง
แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนนั้นปิดซ่อนอะไรไว้มากมายเหลือเกิน
และสิ่งที่ด้วนเผิงคาดไม่ถึงมากที่สุดก็คือพลังฝีมือของเย่หยวน ว่ามันจะแข็งแกร่งปานนี้
เมื่อสักครู่นี้ราชาแมลงพุ่งเข้าโจมตีทีเผลอ หากเป็นเขา เขาก็คงต้องมีบาดเจ็บบ้างไม่น้อย แต่เย่หยวนกลับรอดมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วน!
แค่นี้มันก็เห็นแล้วว่ากำลังของเย่หยวนนั้นไม่ด้อยไปกว่าตัวเขาแน่
ส่วนอีกด้าน ระหว่างที่เรื่องราวยังชักช้าอยู่ เย่หยวนและหยูจิงก็ถูกฝูงแมลงน้ำแข็งเมฆาเพลิงเข้าล้อมอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...