จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1749

สรุปบท ตอนที่ 1749 นักบวชฝึกหัด: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 1749 นักบวชฝึกหัด จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1749 นักบวชฝึกหัด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 1749 นักบวชฝึกหัด
“เป็นขั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ด้วย ท่านนักบวชเองก็คงไม่ได้เก่งกาจไปกว่านี้ใช่ไหม?”

“ท่านกงหลินนั้นบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาหลอม…ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆ”

“ใช่แล้ว ดูอย่างไรก็ไม่ใช่! เราฝึกฝนบ่มเพาะกันมาเป็นพันๆ ปีแต่ยังหลอมได้ไม่ถึงขั้นต่ำด้วยซ้ำ จะบอกว่ามันคนนี้หลอมขั้นยอดเยี่ยมได้ตั้งแต่คราแรก ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ยอมเชื่อ”

ขั้นยอดเยี่ยมนั้นเป็นเรื่องที่เย่หยวนอับอายใจ

ตั้งแต่เข้าอาณาจักรพระเจ้ามา เขาไม่เคยที่จะหลอมโอสถใดได้ต่ำกว่าขั้นเทวะมาก่อนเลย

โอสถขั้นยอดเยี่ยม ปกติแล้วต่อให้เย่หยวนหลับตาหลอมมันก็ยังไม่แย่ขนาดนี้

แต่ในสายตาของผู้อื่นแล้วเรื่องมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

ทุกคนรู้มาจากปากของกงหลินแล้วว่านี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้หลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาคนนี้กลับหลอมได้คุณภาพถึงขั้นยอดเยี่ยม!

พรสวรรค์นี้มันทำให้ผู้คนสิ้นหวังจริงๆ

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของมู่หยวนชุนกระตุกสั่น เขาคิดว่าตัวเองน่าจะแสดงความเหนือล้ำกว่าเย่หยวนออกมาได้ในการหลอมจริง แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะต้องมาพ่ายแพ้ลงอีก

ขั้นสูงปะทะขั้นยอดเยี่ยม มันเป็นความพ่ายแพ้ที่ราบคาบ!

สำหรับนักหลอมโอสถแล้วการจะหลอมให้ได้คุณภาพเหนือขั้นสูงนั้นเป็นอะไรที่แสนยากเย็น

กับนักหลอมโอสถทั่วๆ ไปแล้วการจะหลอมโอสถขั้นสูงขึ้นไปได้ไหมนั้นล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งดวงชะตา

แต่นี่เป็นครั้งแรกของเย่หยวน!

“อืม ดูเหมือนข้าจะผ่านสินะ” เย่หยวนบอกออกมาอย่างโล่งใจ

เรื่องที่ผ่านการทดสอบนี้มันย่อมไม่ได้สร้างความตื่นเต้นดีใจให้เย่หยวนเหมือนคนอื่นๆ แต่ตอนนี้เขาได้รู้แน่แล้วว่าพวกผู้อาวุโสกำลังจับตามองตัวเขาอยู่

ฉีหยูพยักหน้าบอก “ในการทดสอบครั้งนี้มีผู้ที่ผ่านคือเย่หยวน มู่หยวนชุน และกู่หง คนทั้งสามนี้จะผ่านเข้าไปเป็นนักบวชฝึกหัดแห่งเมืองจักรพรรดิต้นทรราชเรา คนอื่นๆ ก็จงพยายามกันต่อไป ประตูวิหารเราเปิดต้อนรับผู้คนเสมอ”

แม้ว่าคนอื่นๆ จะผิดหวังแต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมัน

การทดสอบนักบวชนั้นมันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายๆ เลย

หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไป ฉีหยูก็บอกกงหลิน “กงหลิน เจ้าพามู่หยวนชุนกับกู่หงไปก่อน เย่หยวนเจ้าอยู่ต่อ หลังเจ้าจัดการเรื่องใดๆ แล้วจงกลับมาอีกครั้ง”

กงหลินนั้นตื่นตกใจอย่างมากแต่ก็ตอบรับคำไป “ขอรับ!”

มู่หยวนชุนมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี จิตใจของเขาปั่นป่วนไปจนถึงที่สุด

เดิมทีเกียรติต่างๆ เหล่านี้มันควรจะตกเป็นของเขา

แต่ตอนนี้ทุกสิ่งอย่างกลับไปลงที่เย่หยวนจนหมด

หลังจากคนทั้งสามจากไป ฉีหยูก็หันไปบอกเย่หยวนด้วยสีหน้านิ่งเฉย “เย่หยวน ข้าอยากเห็นฝีมือของเจ้าตอนหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ดู!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “ขอรับท่านผู้อาวุโส!”

เมื่อเขาได้โอกาสแสดงฝีมือ เย่หยวนก็ไม่คิดจะปิดบังใดๆ อีก

จากนั้นเย่หยวนก็เริ่มทำการหลอมโอสถที่มีระดับความยากเดียวกันกับโอสถเมฆานิลฝนมายา

เมื่อเขาหลอมมันจนเสร็จ เขาก็ได้พบว่าพวกฉีหยูทั้งสามคนนั้นมองมายังเขาราวกับว่าเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาด

ชื่อเสียงด้านโอสถของเย่หยวนนั้นมันเลื่องลือไปทั่วทั้งสันเขาใต้แล้ว

แต่ในดินแดนอาณาจักรเทพอสูรอันห่างไกลนี้มันย่อมไม่มีใครเคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน

เมื่อเย่หยวนคิดลงมือ เขาก็ทำให้นักบวชห้าดาวทั้งสามคนต้องตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด

“ไม่แปลกใจเลยจริงๆ! ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจะเริ่มได้เร็วขนาดนี้! ที่แท้เจ้าก็มีฝีมือด้านโอสถที่สูงล้ำมาก่อนแล้ว!” ฉีหยูบอก

“ด้วยอายุเท่านี้กลับมีความเข้าใจศาสตร์แห่งโอสถถึงระดับปรมาจารย์ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!” ผู้อาวุโสอีกคนพูดเสริม

คนทั้งสามนั้นย่อมมองออกมานานแล้วว่าเย่หยวนมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดได้ฝันเลยว่ามันจะสูงส่งได้ถึงขนาดนี้

แม้แต่พวกเขาเหล่านักบวชห้าดาวเองก็ไม่มีปัญญาจะไปเทียบเคียงกับฝีมือของเย่หยวนได้เลย!

สถานการณ์ของเหล่านักบวชอสูรนี้เย่หยวนเองก็พอจะเข้าใจได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นเขาจึงทิ้งวิธีการเดิมและพยายามแสดงฝีมือของตัวเองออกมาอย่างถึงที่สุดแทนเพื่อที่จะให้ทางวิหารเห็นคุณค่าของตัวเขา

และแน่นอนว่าเป้าหมายนี้มันสำเร็จ

กงหลินพาเย่หยวนมายังตึกใหญ่แห่งหนึ่งด้านหลังวิหาร “นี่คือสถานที่ที่เหล่านักบวชฝึกหัดพักอาศัย เจ้าเพิ่งเข้าวิหารมาและยังเป็นแค่นักบวชฝึกหัดคนหนึ่ง นี่คือชุดนักบวชฝึกหัดของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าเองก็น่าจะรู้ดีแต่วิหารนักบวชเราไม่เลี้ยงขยะหรอกนะ เหล่าทรัพยากรต่างๆ ที่เจ้าต้องการจึงต้องแลกมาด้วยคะแนนความดีทั้งสิ้น”

เย่หยวนรับชุดนักบวชฝึกหัดมาด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระคุณศิษย์พี่กง!”

กงหลินพยักหน้ารับและเดินจากไป

เขานั้นมึนงงอยู่ในหัวมาก ด้วยพลังฝีมือระดับเย่หยวน เขาคิดไปเสียว่าผู้อาวุโสทั้งสามน่าจะรับเขาคนนี้ไปเป็นศิษย์โดยตรง

แต่เมื่อเรื่องกลายเป็นเช่นนี้มันก็ย่อมหมายความว่าพวกเขาไม่รับ

ฉีหยูถึงขั้นบอกให้เขาพาเย่หยวนมายังที่พักและไม่ได้สั่งใดๆ อีก

หมายความว่าอาจารย์ของเขาอยากให้เจ้าหนุ่มคนนี้ทำเรื่องราวตามปกติธรรมดา?

เรื่องที่ฉีหยูคิด เขานั้นไม่มีทางคาดเดาออกได้ เขาจึงพาเย่หยวนมายังที่พักตามปกติ

“หึ มากพรสวรรค์แล้วทำไม? ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะอยู่รอดในนี้ได้นานแค่ไหน” กงหลินบ่นออกมา

เขานั้นเป็นนักบวชที่อายุน้อยที่สุดแต่กลับต้องเสียหน้าไปเพราะเย่หยวน มีหรือที่เขาจะไม่เก็บเรื่องนี้มาคิดแค้นในใจได้?

เมื่อได้เห็นว่าเหล่าผู้อาวุโสไม่คิดจะรับเย่หยวนเป็นศิษย์โดยตรง มันก็น่าจะหมายความว่าพวกเขานั้นยังไม่ไว้ใจเย่หยวน

เช่นนั้นหากปล่อยให้เขาได้เจอความลำบากหรือถึงขั้นสูญเสียตัวตนไปบ้างมันก็คงไม่ผิดอะไร

ในหมู่นักบวชฝึกหัดนั้นมันมีจิ้งจอกเฒ่าอยู่หลายต่อหลายคน เย่หยวนย่อมไม่มีทางหาประโยชน์ใดๆ ได้จากที่นี่

เพราะอย่างไรเสียเย่หยวนก็เป็นเพียงแค่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ