ที่สำคัญดูจากภาพตรงหน้านี้ เจ้าวิญญาณผีร้ายกลับจะถูกเย่หยวนควบคุมอยู่เสียด้วยซ้ำ!
“น-น้องชาย ข้าแค่… จริงๆ แล้วมันล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน!” ชายชุดเทาบอกด้วยสีหน้าสุดเหยเก
เขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าแผนการที่ตัวเขาวางไว้มันกลับจะมาทำร้ายตัวเขาเองเช่นนี้ได้
ไม่เพียงแค่เด็กคนนี้จะไม่ถูกสิง เขากลับควบคุมและใช้งานเจ้าวิญญาณร้ายนี้ได้แทน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังบ่มเพาะถึงอาณาจักรนภาสวรรค์ครึ่งก้าว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าวิญญาณร้ายระดับห้าจริงๆ แล้วมันก็ยังไม่มากพอที่จะต่อต้าน
นี่คือตัวตนที่สามารถปะทะกับนักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ที่แท้จริงได้!
“เข้าใจผิด? เหล่าสัตว์อสูรที่ภายนอกนั้นก็ล้วนถูกเจ้าควบคุมมาใช่หรือไม่? ไล่ต้อนเราเข้ามาในนี้หวังให้เราถูกวิญญาณร้ายสิงสู่ อย่ามาบอกว่ามันไม่ใช่ฝีมือเจ้า!” เย่หยวนบอก
ชายชุดเทาหน้าเสียไปอย่างมาก เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะสามารถมองแผนการทั้งหมดของเขาออกได้เช่นนี้
“น้องชาย พวกเจ้าคงมาจากมหาพิภพถงเทียนใช่หรือไม่? มิติอนัตตากอไผ่เราไม่ต้อนรับคนจากมหาพิภพถงเทียน เราทุกคนในที่นี้เป็นศิษย์จากนิกายคุมวิญญาณมารับการทดสอบในเขตแดนตัดขาดนี้เพื่อที่จะเอาศิลาวิญญาณหยินและหญ้ากินหยินเก้าวิญญาณภายในถ้ำนี้ เพราะเช่นนั้นเราจึงคิดก่อแผนนี้ขึ้นมา นิกายคุมวิญญาณของเรานั้นมีฐานะสูงส่งในมิติอนัตตากอไผ่ ตราบเท่าที่น้องชายปล่อยเราไปวันนี้ นิกายคุมวิญญาณเราย่อมสามารถช่วยดูแลให้น้องชายปลอดภัยได้!” ชายชุดเทากลอกตาไปมาพร้อมบอกกล่าวข้อมูลสำคัญ
เขามั่นใจมากว่าเย่หยวนนั้นเป็นแค่ยอดอัจฉริยะที่ไม่รู้จักโลก ครานี้คงเดินทางออกมาฝึกตัวและได้หลงเข้ามาในเขตแดนตัดขาด
คนเช่นนี้แค่ข่มขู่และเสนอผลประโยชน์เล็กๆ น้อยก็ย่อมสามารถที่จะจัดการได้อย่างอยู่หมัด
เพราะไม่ว่ายังไงเสียเย่หยวนก็ไม่ได้รู้จักเรื่องราวภายในการเป็นไปของมิติอนัตตากอไผ่
และเมื่อเย่หยวนได้ยินคำของชายชุดเทา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะบอก “หากอยากให้ข้าปล่อยพวกเจ้าไป มันย่อมได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้ามาอย่างหนึ่งก่อน!”
เมื่อชายชุดเทาได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นดีใจ คิดอยู่ในใจว่าเด็กคนนี้มันช่างรับมือง่ายตามคาด
เขารีบกล่าวออกมา “ไม่ว่าน้องชายจะมีข้อแม้ใดๆ ก็ย่อมพูดมาได้เลย นับว่าเป็นคำขอโทษที่เราล่วงเกินน้องชายไปก่อนหน้า”
เย่หยวนบอก “สัตว์ขี่เจ้ามันดูดีนี่นา ข้าอยากได้มัน!”
ชายชุดเทาหน้าเสียไปทันที ตอนนี้ใบหน้าของเขานั้นแสดงความไม่เต็มใจออกมาอย่างเต็มที่
เมื่อเย่หยวนเห็นใบหน้าแบบนั้นเขาก็เปลี่ยนท่าทีไป “ทำไม? ทำใจจากมันไม่ได้หรือ?”
ชายชุดเทามีใบหน้าท่าทางเหยเก สายพันธุ์ของเจ้าเสือขาวตัวนี้มันบริสุทธิ์มาก มีช่องว่างให้พัฒนาไปมาก ไม่เหมือนกับสัตว์ขี่อื่นๆ ของเขาแม้แต่น้อย
เพื่อการนี้เขาต้องลงแรงไปอย่างมหาศาล
ชายชุดเทาหยุดคิดไปนิดหน่อย เขาคิดว่าเด็กคนนี้ช่างมีดวงตาที่เฉียบแหลม ถึงคิดอยากได้เสือขาวของเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นมัน! ช่างมันเถอะ ตอนนี้ต้องให้ให้อีกฝ่ายพอใจก่อนค่อยพูดคุย หากสามารถพาเขากลับไปถึงนิกายได้เรื่องเจ้าเสือขาวนี้มันยังจะเป็นของเด็กน้อยคนนี้อีกหรือ?
“ฮ-ฮ่าๆ ข้าไม่ขอปกปิดจากน้องชาย แต่ข้านั้นทำใจลำบากจริงๆ ที่ต้องแยกจากมัน แต่เรื่องที่ผ่านมานี้ล้วนย่อมเป็นความผิดของเรา ข้าจะยอมรับผิดและมอบมันให้น้องชาย!”
ชายชุดเทานั้นยังแสดงท่าทางไม่เต็มใจออกมา ลูบหลังเจ้าเสือขาวน้อยๆ ก่อนที่เจ้าเสือขาวจะเดินเข้ามาหาเย่หยวนอย่างว่าง่าย
เห็นแบบนี้เย่หยวนก็แทบอยากจะสังหารผู้คนลงตรงนี้
เพียงแค่ว่าเขาปกปิดจิตสังหารนี้ไว้อย่างแนบเนียน
เพราะว่าเสือขาวตัวนี้มันมิใช่ใครอื่นนอกไปเสียจากอิ้งหมัวหู่!
เหตุผลที่เขายังไม่ยอมลงมือตั้งแต่แรกที่พบหน้าก็เป็นเพราะว่าเขาเห็นถึงอิ้งหมัวหู่นั่นเอง
เย่หยวนจำน้องคนนี้ได้ในวินาทีแรกที่มองเห็น
แต่ดูท่าแล้วอิ้งหมัวหู่คงจดจำเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
หรือจะบอกว่าอิ้งหมัวหู่ไม่สามารถจะจดจำเย่หยวนได้!
เย่หยวนย่อมไม่มีทางเข้าใจวิธีการของนิกายคุมวิญญาณและไม่คิดที่จะแสดงเรื่องนั้นออกมาอย่างง่ายดาย
สภาพของอิ้งหมัวหู่ในตอนนี้มันเหมือนแมวน้อยว่าง่าย หากชายชุดเทาบอกให้ไปซ้ายเขาก็คงเลือกที่จะเดินไปทางซ้ายจนสุดโลก
ไม่ต้องถามก็รู้เลยว่าเขาถูกศิษย์ของนิกายคุมวิญญาณนี้ควบคุมจิตใจอยู่ด้วยวิธีการใดสักอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...