“บอกเจ้า? ฮ่าๆ ฝันไปเถอะ! ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็ไม่คิดจะบอกอะไรเจ้าแม้แต่สิ่งเดียว!”
สภาพของสีกงซิ่วในตอนนี้มันราวกับคนบ้า ศักดิ์ศรีใดๆ ที่เขาเคยมีมันก็หายไปจนสิ้น
ความเกลียดชังที่เขามีต่อเย่หยวนนั้นมันมากเหนือล้ำ
แต่เย่หยวนแค่ยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะฟังจากปากของเจ้า เรื่องที่เจ้าพูดมาข้าจะเชื่อได้หรือเปล่าข้ายังไม่รู้เลย”
สีกงซิ่วนิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “เจ้าคิดจะใช้การตรวจสอบจิตข้า? ฮ่าๆๆ นิกายคุมวิญญาณเราเก่งกาจในด้านจิตศักดิ์สิทธิ์ ข้ามีพลังบ่มเพาะที่เหนือล้ำกว่าเจ้า แล้วคนอย่างเจ้ายังคิดมาพูดว่าจะตรวจสอบจิตข้าอีกรึ? เจ้าคนโอหัง!”
เย่หยวนมองดูสีกงซิ่วอย่างใจเย็นและตอบไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “เรอะ?”
ตุบ!
เท้าของเย่หยวนกระทืบลงบนร่างของสีกงซิ่วก่อนจะค่อยๆ ปล่อยพลังจิตศักด์สิทธิ์ของตนเข้าสู่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
สีกงซิ่วนั้นเสียพลังบ่มเพาะไปมาก แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นก็ยังแข็งแกร่งไม่ต่างจากเดิม
หากให้พูดตามหลักการแล้วเย่หยวนย่อมไม่สามารถจะตรวจสอบจิตของเขาได้เลย
สีกงซิ่วเองก็คิดเช่นนั้น เขาจึงปล่อยพลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพื่อพยายามที่จะผลักดันเย่หยวนกลับออกไป
แต่ตอนนั้นเองที่มันมีพลังงานบางอย่างเข้ามาปกคลุมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาไว้
ตอนนี้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานิ่งค้าง ไม่สามารถที่จะขยับใดๆ ได้
มันเป็นความรู้สึกที่ราวกับถูกมัดมือมันเท้า เขาได้แต่ปล่อยให้เย่หยวนจ้องมองเข้าไปในความคิดความทรงจำของเขา
สีกงซิ่วนั้นรู้สึกได้ถึงความอับอายและโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด ตอนนี้ความลับใดๆ ที่เขามีก็ถูกเปิดเผยต่อเย่หยวนจนสิ้น
เมื่อศิษย์คนอื่นๆ ของนิกายคุมวิญญาณได้เห็นดังนั้น พวกเขาทุกผู้คนก็หน้าถอดสีไป
เย่หยวนทำสำเร็จ!
ชายหนุ่มคนนี้มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว! มันเป็นใครมาจากไหนกัน?
ไม่นานนักเย่หยวนก็ดึงจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนกลับมา ด้วยสีหน้าท่าทางสุดขยะแขยง
“เย่หยวน ข้าจะฆ่าเจ้า! จะฆ่าเจ้าให้ได้!”
สีกงซิ่วตะโกนร้องต่อยออกมาใส่เย่หยวน แต่เป็นหนิงเทียนปิงที่เข้าไปซัดเขาจนปลิวไปด้วยฝ่ามือ
สภาพของสีกงซิ่วในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรจากมีดที่หักบิ่น ด้วยพลังฝีมือของหนิงเทียนปิงในตอนนี้การจะจัดการกับเขานั้นมันยิ่งเสียกว่าง่าย
“ขยะเช่นเจ้าคิดจะทำร้ายนายใหญ่?” หนิงเทียนปิงบอกออกมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน
เย่หยวนมองดูสีกงซิ่ว “นิกายคุมวิญญาณของเจ้านี้มันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าสัตว์! อิ้งหมัวหู่ เทียนปิง หู่ชิง สังหารมันให้หมดอย่าให้เหลือรอด”
นิกายคุมวิญญาณนี้ได้ทำเรื่องราวชั่วร้ายมามากมายเกินกว่าที่จะเรียกพวกนี้ว่ามนุษย์ได้ลง
สีกงซิ่วคนนี้ยิ่งเลวร้าย ทั้งทำการปล้น ฆ่า ข่มขื่น ความชั่วร้ายที่ไม่ต่างอะไรกับโจรป่า
คนเช่นนี้หากเย่หยวนไม่ได้ไปเจอหน้าเข้าก็คงไม่มีอะไร
แต่ไหนๆ เย่หยวนก็ได้มาเจอแล้ว เขาย่อมไม่คิดที่จะใจอ่อนปล่อยไป
เหล่าศิษย์ของนิกายคุมวิญญาณนั้นอ่อนแอลงมากเพราะการอัญเชิญสัตว์เทวะผู้พิทักษ์ ทำให้พวกอิ้งหมัวหู่นั้นสามารถสังหารพวกเขาลงได้อย่างง่ายดาย
“พี่ใหญ่ ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าท่านจะเดินทางตามหาข้ามาจนถึงที่นี่! หากไม่ได้ท่าน ข้าคง…”
อิ้งหมัวหู่นั้นมีสีหน้าเศร้าโศก คิดถึงชีวิตที่ยิ่งเสียกว่าหมูกว่าหมา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ
หนิงเทียนปิงอดไม่ได้จึงต้องบอก “น้องอิ้งหมัวหู่ท่านนั้นไม่รู้เลยว่านายใหญ่ท่านต้องลำบากมากมายแค่ไหนกว่าจะมาหาท่านเจอได้”
เย่หยวนหันไปมองหนิงเทียนปิงควับทันที “เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...